วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567

คลื่นสึนามิประชาชน / โดย ประชาธิปไตย เจริญสุข

On June 26, 2017

คอลัมน์ : ฟังจากปาก
ผู้เขียน : ประชาธิปไตย เจริญสุข

สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ ผมในฐานะผู้แทนนอกสภามีความรู้สึกโดยส่วนตัว ตอบได้เต็มปากเต็มคำว่ารัฐบาล คสช. สอบตกทั้งเรื่องเศรษฐกิจหรือแม้กระทั่งการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน เศรษฐกิจที่อ้างว่าผ่านจุดตกต่ำที่สุดมาแล้ว ผมยืนยันว่ายังมีจุดที่ตกต่ำกว่านี้อีกในอนาคต เพราะกำลังซื้อของประชาชนถดถอยอย่างน่าวิตก ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย โจรผู้ร้ายชุกชุม ยาเสพติดระบาดอย่างหนัก

ถ้าบอกว่ารัฐบาลสอบผ่านก็เป็นการโกหกตัวเอง รัฐบาลนี้สอบตกอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะเรื่องทุจริตคอร์รัปชันที่เกี่ยวข้องกับเพื่อนร่วมรุ่น วปอ. หรือ จปร. หรือวงศ์วานว่านเครือของแม่น้ำ 5 สาย ไม่มีอะไรคืบหน้า เช่น สมาชิก สนช. 2 คน ซึ่งเป็นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัด ทุจริตยาปราบศัตรูพืชนับร้อยล้านบาทสมัยเป็นผู้ว่าฯ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ และผมยื่นให้ตรวจสอบ แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ข้าราชการชั้นผู้น้อย นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านนอกคอกนาทั้งหลายถูกมาตรา 44 ปลดหรือพักราชการนับร้อยคน ถ้าเป็นพวกเดียวกับ คสช. กลับไม่มีการลงโทษหรือเร่งรัดการสอบสวน

แม้กระทั่งการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินในการจัดซื้อเครื่องบินฝึกยี่ห้อไดมอนด์ ดีเอ 40 ซีเอส ของสถาบันการบินพลเรือน เคยซื้อปีงบประมาณ 2556 และ 2557 ลำละ 12 ล้านบาทเศษ ซื้อมา 3 ลำ พอถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ในปีงบประมาณ 2558 ซื้อในราคาสูงถึงลำละ 16 ล้านบาทเศษ มีส่วนต่างหรือเงินทอนถึงลำละ 4 ล้านบาท ก็ไม่ปรากฏว่ามีการสอบสวนลงโทษใดๆทั้งที่ทำให้ราชการเสียประโยชน์ชัดเจน

เรื่องนี้ได้ยื่นให้นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมถึงนายกรัฐมนตรี สอบสวนลงโทษผู้กระทำความผิดพร้อมหลักฐาน แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ เครื่องบินรุ่นนี้ถ้าดูในเว็บไซต์ราคาขายวันนี้เพียงลำละ 12 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าถ้าพวกตัวเองก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน อยู่เฉยๆ ไม่กระตือรือร้น ปากบอกว่าต้องปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจังเด็ดขาด ใครทุจริตเงินแผ่นดินแม้แต่บาทเดียวก็ไม่ได้ แต่นี่โกงลำละ 4 ล้านบาท ไม่เห็นท่านทำอะไรเลย แล้วท่านพูดไปทำไม

การสร้างปรองดองเป็นอย่างไร

ผมเห็นด้วยที่รัฐบาลพยายามทำ แต่ถามว่าเราจะดำเนินการถึงขั้นตอนใด คนที่มาร่วมปรองดองนั้นสำนึกผิดในสิ่งที่ทำหรือไม่ หรือยังยืนยันว่าสิ่งที่ตัวเองทำถูกต้อง มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร อยู่ที่จุดมุ่งหมายของรัฐบาลว่าต้องการให้สังคมมีความปรองดองในรูปแบบไหน ถ้าละเลยความเป็นจริงที่เกิดขึ้นก็ไม่อาจนำไปสู่สังคมที่ปรองดองได้ ผมเชื่อว่าสังคมไทยส่วนใหญ่พร้อมจะให้อภัยคนที่กระทำความผิด ไม่ว่าใครก็ตาม สำคัญที่ว่าคนกระทำความผิดแล้วสำนึกผิดหรือไม่

ผมว่าขึ้นอยู่กับรัฐบาล ถ้าต้องการให้เป็นเครื่องมือแก้ปัญหาสังคมก็ต้องดำเนินการทุกอย่างบนพื้นฐานความเป็นจริง ไม่อาจละเลยความเป็นจริงที่เกิดขึ้นได้ และความจริงนั้นสามารถพิสูจน์ได้ ไม่ใช่เป็นความจริงจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น เพื่อให้ความยุติธรรมต่อทุกฝ่าย

การตั้งคำถาม 4 ข้อ

การตั้งคำถามของ พล.อ.ประยุทธ์ผมคิดว่าท่านมีเจตนาซ่อนเร้น ทำไมต้องเอามาถาม ถ้าเลือกตั้งแล้วไม่ได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลก็เป็นสิทธิของประชาชน ถ้ารัฐบาลไม่มีธรรมาภิบาลประชาชนก็มีสิทธิตรวจสอบตามระบอบประชาธิปไตย แล้วถ้าประชาชนย้อนถามกลับว่ารัฐบาลท่านมีธรรมาภิบาลมากน้อยแค่ไหนท่านจะตอบอย่างไร บรรดาอดีต ส.ส. ช่วยกันตอบคำถามท่านมากๆท่านก็ไม่สบอารมณ์ บอกว่าถามประชาชน ไม่ได้ถามนักการเมือง แล้วนักการเมืองไม่ได้เป็นประชาชนหรือ ประชาชนเป็นนักการเมืองไม่ได้ด้วยหรือ เมื่อท่านถามทุกคนก็มีสิทธิจะตอบ

ถ้าหลังการเลือกตั้งแล้วได้นักการเมืองที่มีพฤติกรรมไม่ดีไม่งาม ประชาชนหรือสภาก็สามารถตรวจสอบได้ตามกฎหมาย ไม่เห็นต้องวิตกอะไร ท่านควรดูตัวท่านเองด้วยว่าเป็นผู้นำประเภทไหน เมื่อมีคนวิพากษ์วิจารณ์ท่านมีปฏิกิริยาอย่างไร ที่ท่านอ้างว่าปล่อยเงินถึง 750,000 ล้านบาทให้เอสเอ็มอีกู้ ให้ผู้ประกอบการรายย่อยกู้ทั่วประเทศนั้น ก็กู้ได้เฉพาะพรรคพวกท่านที่มีเส้นสาย แต่คนไม่มีเส้นสายอย่างผู้ประกอบการเดินเรือระหว่างเกาะพะลวยกับอำเภอดอนสักมีเรือโดยสารเล็กๆลำหนึ่งต้องการกู้ 1.5 ล้านบาทไปซ่อมแซมเรือเพื่อรับส่งผู้โดยสาร ธนาคารปฏิเสธการให้กู้ อย่างนี้สะท้อนให้เห็นว่ามีเส้นมีสายหรือไม่ มีจ่ายใต้โต๊ะหรือไม่

โรงสีแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษเอาหนี้เน่ามากู้ถึง 125 ล้านบาท ธนาคารเอสเอ็มอีก็ปล่อยให้กู้ แล้วลูกหนี้ชำระหนี้เพียงงวดเดียวล้านกว่าบาท หลังจากนั้นก็ชักดาบ ผมถามว่าความยุติธรรมมันอยู่ตรงไหน ผมคิดว่ารัฐบาลทหารกับรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ถ้าทุจริตก็ทุจริตเหมือนกัน มี พล.อ.ประยุทธ์คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ทุจริต แต่คนอื่นผมไม่มีความมั่นใจ เพราะเต็มไปด้วยข่าวการทุจริตในแต่ละกระทรวง ไม่แตกต่างกับสมัยนักการเมืองบริหารประเทศ

การตั้งคำถามผมเชื่อว่าต้องการเลื่อนการเลือกตั้งแน่นอน เจตนาของรัฐบาล คสช. ต้องการอยู่ให้นานที่สุด อย่างที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ (อดีตประธานกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ) พูดว่าเขาอยากอยู่ยาว ในแวดวงทหารเขาก็พูดว่าให้อยู่ไปเรื่อยๆ กลัวอะไรกับประชาชน เรื่องนี้ก็สุดแท้แต่ท่านจะพิจารณา แม้รัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดให้มีการเลือกตั้งประมาณปี 2561 แต่ผมก็ไม่เชื่อ

ผมคิดว่าถ้าไม่มีการเลือกตั้งในปีหน้า ท่านอาจถูกคนบางกลุ่มขนานนามเป็น “สุจินดา 2” ก็ได้ ผมไม่วิตกกังวลว่าจะมีการเลือกตั้งในปีหน้าหรือไม่ ถ้าอยากอยู่ยาวก็เชิญอยู่ไปตามสบาย แต่ผมในฐานะที่เดินทางทั่วประเทศ พบเห็นความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชนมากมาย ขอบอกอย่างกัลยาณมิตรว่า ให้ระวังลูกโป่งแตก ระวังคลื่นสึนามิของประชาชน คลื่นสึนามิประชาชนคนจนในอนาคต

พี่น้องคนจนทั้งในเมือง ในกรุงเทพฯ หาบเร่แผงลอยที่ถูกขับไล่กว่า 20,000 ครอบครัว เกษตรกร ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ถ้าวันไหนที่คนเหล่านี้สิ้นหวัง รวมตัวกันประท้วงรัฐบาล ก็อาจเกิดคลื่นสึนามิคนจนถาโถมใส่รัฐบาลก็ได้ จะเป็นการประท้วงของประชาชนที่ไม่มีแกนนำ เพราะคนจนจะไหลมารวมตัวกันโดยอัตโนมัติ รัฐบาลจะตกที่นั่งลำบาก

ผมขอเตือนว่า หากรัฐบาล คสช. ยังไม่ดำเนินการถ่ายโอนอำนาจให้มีการเลือกตั้งสู่ระบอบประชาธิปไตย แม้รัฐบาลจะมีมาตรา 44 ตอนที่ประชาชนเดือดร้อน ขนาดรถถังยังไม่สามารถหยุดยั้งการเดินขบวนของประชาชนได้ แม้จะมีการออกพระราชบัญญัติการชุมนุมในที่สาธารณะ มีกฎอัยการศึก ถ้าประชาชนเดือดร้อนมากๆก็ไม่สามารถต้านทานพลังมวลมหาประชาชนได้ รัฐบาลต้องรีบเร่งแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน แก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมต่างๆให้มากที่สุด ที่สำคัญต้องคืนอำนาจอธิปไตยตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ผมไม่ได้เร่งเร้าหรือเรียกร้อง แต่เมื่อมีรัฐธรรมนูญก็ต้องเคารพรัฐธรรมนูญ ถ้าผู้ปกครองไม่เคารพรัฐธรรมนูญ ประชาชนก็จะไม่เคารพผู้ปกครอง ตรงนี้คือปัจจัยภายใน ส่วนปัจจัยภายนอกผมเชื่อว่าต่างประเทศต้องมีปฏิกิริยาแน่นอน

คนบางกลุ่มอยากให้ทหารปกครองให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ น่าแปลกใจที่มีนักการเมืองจำนวนหนึ่งที่มาจากการเลือกตั้งจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนแทนเผด็จการทหาร เพราะนักการเมืองเหล่านี้หวังจะเกาะเกี่ยวผลประโยชน์ระบอบเผด็จการ บางคนฝันเช้าฝันเย็นอยากเป็นรัฐมนตรี คนเหล่านี้มีจำนวนไม่น้อย แต่พรรคประชาธิปัตย์นั้นผมยืนยันว่าท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคมีจุดยืนที่ชัดเจน ไม่เอาเผด็จการและไม่ทุจริตคอร์รัปชัน พรรคประชาธิปัตย์ยืนหยัดเคียงข้างประชาชนอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ตามอิทัปปัจจยตาตามหลักพระพุทธศาสนา

มองเซตซีโร่ กกต. อย่างไร

การเซตซีโร่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยิ่งตอกย้ำว่าปีหน้าจะไม่มีการเลือกตั้ง ที่ สนช. ลงมติให้เซตซีโร่ กกต. ต้องถามว่าใช้อำนาจเกินหน้าที่หรือไม่ ทำตัวอยู่เหนือรัฐธรรมนูญหรือไม่ เมื่อ กกต. 3 ใน 5 เป็นตุลาการศาลยุติธรรมชั้นผู้ใหญ่ มีคุณสมบัติครบตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ถือว่าปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 หรือไม่ ผมเชื่อว่าเรื่องนี้จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ แต่แม่น้ำ 5 สายจะปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ การเซตซีโร่ครั้งนี้อย่างน้อยสะท้อนให้เห็นว่าเขาอยากอยู่ยาว การปฏิบัติหน้าที่ของ สนช. ทำให้ต้องถามว่าแล้วเราจะไปหาความยุติธรรมได้ที่ไหน ขนาด กกต. ยังถูกเซตซีโร่ พรรคการเมืองอย่านั่งฝันหวานว่าจะไม่ถูกเล่นงาน องค์กรอิสระอื่นๆก็อาจโดนด้วย

การเซตซีโร่ไม่นำไปสู่การปรองดองตามที่รัฐบาลอ้าง ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า คสช. ต้องการกระชับอำนาจ ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายต่อการเลือกตั้งในอนาคต เพราะ กกต. 7 คนที่จะมาใหม่ท่านยุติธรรมจริงหรือไม่ ผมคิดว่าเขาจะเอาเฉพาะที่เขาสั่งได้ องค์กรอิสระไหนที่สั่งได้ก็อยู่ต่อ คล้ายๆนิทานอีสปเรื่องหมาป่ากับลูกแกะ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) อาจเป็นรายต่อไปที่จะถูกเซตซีโร่ คสช. ควรฟังคนอื่นบ้าง ถ้าคิดดีทำดีทำถูกต้อง 3 ปีที่ผ่านมาบ้านเมืองคงไม่อยู่ในลักษณะอย่างนี้

“สุเทพ” หนุน พล.อ.ประยุทธ์

เป็นสิทธิของท่านที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ แต่พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ปฏิบัติตาม เพราะพรรคสนับสนุนหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี หรือบุคคลในบัญชีรายชื่อของพรรคเท่านั้น เราจะไม่แหกคอกไปสนับสนุนคนหนึ่งคนใดเป็นนายกรัฐมนตรีโดยเด็ดขาด ถ้าคนลงสมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์แล้วไปสนับสนุนคนนอกเป็นนายกฯก็ไม่ควรมาลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ อุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุนเผด็จการทุกรูปแบบ ผมไม่คิดว่าอดีต กปปส. ที่มาอยู่พรรคจะซ้ำรอยกลุ่ม 10 มกรา เพราะเขารู้ว่าถ้าไปสมัครพรรคอื่นก็ต้องสอบตกแน่นอน ไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ก็สู้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้

อนาคตทิศทางประเทศไทย

ผมขอย้ำอีกครั้งว่าหากปีหน้าไม่มีการเลือกตั้งจะเกิดลักษณะเหมือนหม้อน้ำที่มีไฟร้อนแรงอยู่ใต้หม้อ เมื่อฝาหม้อน้ำไม่เปิดออกก็อาจจะระเบิดได้ อย่าดูถูกพลังเงียบของประชาชน ทุกวันนี้ประชาชนเงียบ ไม่หืออะไร เพราะเขากลัวความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน กลัวอำนาจเผด็จการ ทนได้ก็ทน แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งผมขออนุญาตกราบเรียน พล.อ.ประยุทธ์ด้วยความเคารพรักและหวังดีว่า ควรให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญตามที่บัญญัติไว้ ถ้ายิ่งนานออกไปจะไม่ส่งผลดีต่อรัฐบาลและสังคมโดยส่วนรวมแน่นอน วันที่ประชาชนคนยากคนจนทนไม่ไหวก็อาจเกิดม็อบ เกิดสึนามิคนจนจำนวนมหาศาลพร้อมๆกัน ซึ่งไม่มีพลังใดที่จะต้านทานพลังประชาชนได้


You must be logged in to post a comment Login