- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 8 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 8 months ago
- โลกธรรมPosted 8 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 8 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 9 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 9 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 9 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 9 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 9 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 9 months ago
ชู“หนองโสนโมเดล” ต้นแบบของชุมชนล้อมรักษ์

เอก(นามสมมติ) ชายหนุ่มวัยทำงาน เล่าเรื่องราวในอดีตจากวัยรุ่นคนหนึ่งที่ทดลองใช้ยาเสพติดในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยจนกลายเป็นคนติดยาเสพติดสาเหตุเพียงเพราะเพื่อนชวน และช่วงเวลานั้นยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นวัยที่อยากทดลองทุกสิ่งทุกอย่าง เอกบอกว่า เริ่มใช้ยาไอซ์ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เพราะเพื่อนชวน และตัวเองก็อยากลองด้วย ใช้ยาเสพติดแบบสนุกสนาน ไม่ได้ใช้เพื่อให้มีแรงอ่านหนังสือ ส่วนการหาซื้อยาไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเพื่อนแนะนำ ในแต่ละเดือนเงินที่ได้จากทางบ้านหมดไปกับยาไอซ์ และเสพยาตลอดจนจบการศึกษา และได้เข้าทำงานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นก็ยังใช้ไอซ์อยู่ เมื่อย้ายกับไปบ้านเกิดที่เพชรบุรี จึงเกิดผลกระทบเพราะหาซื้อไอซ์ไม่ได้ เอกต้องลองยาเสพติดทุกชนิดเพื่อดูว่าตัวไหนจะให้ผลเท่ากับไอซ์บ้าง จนมาเจอยาบ้า ช่วงที่ทำงานมีทั้งใช้ยาบ้าง หยุดยาบ้าง แต่ไม่เคยเลิกเสพยาโดยเด็ดขาด
วันหนึ่งเอกมาเจอชุมชนล้อมรักษ์ หนองโสนโมเดล ตำบลหนองโสน อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี คือชุมชนที่เอกอาศัยอยู่ ในชุมชนเขาจะรู้กันเองว่าบ้านไหนมีลูกติดยา ซึ่งเอกเล่าว่า เมื่อเข้ามารับการบำบัดที่นี่ เขาไม่ได้ให้เลิกเสพยาทันที แต่จะใช้การพูดคุย แล้วค่อยให้ลดปริมาณการใช้ยา แต่สิ่งที่เอกประทับใจคือ เขาจะให้สิทธิพิเศษแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ คือ ถ้าหากถูกด่านจับตรวจมีสารเสพติด เมื่อแจ้งตำรวจในพื้นที่ว่าอยู่ในโครงการนี้จะได้ถูกจับปรับ สิทธิพิเศษนี้ ใช้ได้ 4 ครั้งต่อเดือน ทำให้เอกรู้สึกว่าเป็นอิสระ แต่เป็นอิสระที่เอกคิดได้ว่า ถ้าเราอยากจะมีอิสระไปตลอดเราจะต้องเลิกยาให้ได้ ซึ่งเอกทำได้สามารถเลิกเสพยาได้ ผลที่ได้เอกบอกว่าสุขภาพดีขึ้น ได้ทำงานที่ อบต. และที่สำคัญสิ่งที่เอกประทับใจมากที่สุดคือ เมื่อไปร้านของชำเมื่อก่อนคนชายจะมองได้สายตาไม่ไว้ใจ กลัวจะมาขโมยของ แต่มาวันนี้เอกได้รับคำพูดจากแม่ค้าว่า “วันนี้จะเอาอะไรล่ะลูก” แค่คำพูดง่ายๆแบบนี้แต่ทำให้จิตใจของเอกฟูได้
เอกคือหนึ่งตัวอย่างของผู้ที่หลงผิดไปใช้ยาเสพติดเพราะอยากสนุก อยากทดลอง และได้รับการดูแล บำบัดรักษาจากชุมชนล้อมรักษ์ หนองโสน โมเดล จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งในอดีตคนที่ใช้ยาเสพติดส่วนมากเป็นคนใช้แรงงาน แต่ในปัจจุบันมีทั้งผู้ใช้แรงงานและวัยรุ่น ในภาพรวมที่หนองโสนพบว่า ค่าใช่จ่ายที่ต้องจ่ายให้กับยาบ้าต่อคน เฉลี่ยวันละ 107 บาท ใน 1 คน ใช้ยาบ้า 10-35 เม็ด/สัปดาห์ เฉลี่ยเม็ดละ 30 บาท ดังนั้นใน 1 สัปดาห์ผู้เสพจะต้องหาเงินให้ได้ 749 บาท หากเปรียบเทียบกับจำนวนผู้กล้าที่เข้ารับการบำบัดจำนวน 49 คน ใน 1 ปี จะมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับยาเสพติดมากถึง 1,913,695 บาท การทำงานของหนองโสนจะเป็นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันทั้งภาครัฐ องค์กรท้องถิ่นสถานพยาบาล ผู้นำชุมชน ตามแนวทางการทำงานของชุมชนล้อมรักษ์ (CBTx) ที่มุ่งเน้นการทำงานรวมกันของทุกภาคส่วน ไม่เร่งรีบที่จะให้ผู้เสพเลิกเสพยาทันที ไม่ทำให้ผู้เสพรู้สึกอึดอัด ทำงานอย่างเป็นขั้นตอนและประสานความร่วมมือทุกภาคส่วน
หนองโสนโมเดล จ.เพชรบุรี คือต้นแบบชุมชนล้อมรักษ์ที่ได้รับการยอมรับว่าประสบความสำเร็จในการค้นหา คิดกรอง บำบัด รักษาผู้ติดยาเสพติดในชุมชน ที่ถูกนำมาถ่ายทอดให้กับผู้เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพพลังอำเภอสู่การเป็นอำเภอต้นแบบและอำเภอขยายผลในการขับเคลื่อนชุมชนล้อมรักษ์ (CBTx) และแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน เพื่อร่วมหาแนวทางในการแก้ปัญหายาเสพติดผ่านกลไกของชุมชน ที่จัดขึ้นโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาการเรียนรู้ ที่โรงแรมรามาการ์เด้น กทม.

นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวเปิดงานว่า ปัญหายาเสพติดยังคงเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทยและในอีกหลายประเทศทั่วโลกมาอย่างยาวนาน นับวันสถานการณ์ยิ่งรุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิต นำไปสู่ปัญหาสังคม เศรษฐกิจ ตลอดจนความมั่นคงของประเทศ การแก้ไขปัญหายาเสพติดให้สำเร็จอย่างยั่งยืน จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ภาคศาสนา ภาคประชาชน ภาคการศึกษา รวมทั้งภาคสาธารณสุข เพื่อบูรณาการการแก้ไขปัญหา

ด้าน นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า บทบาทของ สสส.คือ มีชุมชนต้นแบบ หน่วยงานต้นแบบที่รวมพลังกันเป็นชุมชนล้อมรักษ์และรวมถึงคณะกรรมการพัฒนาการคุณภาพชีวิต(พชอ.) ในระดับอำเภอ แต่ละที่จะร่วมกันทำงานเพื่อให้แต่ละที่มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน และสามารถถ่ายทอดเรื่องราว วิธีการทำงานการจัดการกระบวนการต่างๆที่มีความหลากหลายแต่มีความสำเร็จอย่างเดียวกัน จะทำให้พื้นที่ต่างๆมาเรียนรู้ร่วมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ซึ่งบางพื้นที่อาจกำลังทำงานขยายผลตามนโยบายของรัฐบาลของท่านโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรีที่มุ่งเน้นแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่สำคัญคือการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการที่เป็นจุดสำคัญ

ทั้งนี้ สสส. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการฯ เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยใช้กระบวนการ CBTx ขับเคลื่อนการทำงานเชื่อมกลไกคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) และเครือข่ายชุมชนเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยชุมชนเป็นฐาน ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญคือ 1.พัฒนาอำเภอให้เป็นต้นแบบดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดระดับพื้นที่ 2.พัฒนารูปแบบการขยายผลการดำเนินงานไปยังพื้นที่อื่นๆ เพื่อนำไปสู่การสร้างเครือข่ายการบำบัดรักษาผู้ป่วย บำบัดฟื้นฟูในชุมชน 3.ค้นหารูปแบบการฟื้นฟูหรือบำบัดผู้ป่วยในชุมชน และเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรและเครือข่ายในพื้นที่ให้สามารถใช้กระบวนการ CBTx ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.พัฒนากลไกการสื่อสารและขับเคลื่อนงานไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้แนวทางการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาเสพติดในชุมชนเป็นมาตรฐานเดียวกัน


ปัจจุบัน สสส. ขับเคลื่อนงานป้องกันยาเสพติดมาตั้งแต่ปี 2558 มีพื้นที่ต้นแบบปลอดภัยจากยาเสพติด 29 พื้นที่ทั่วประเทศ มีเครือข่ายภาคประชาชนขับเคลื่อนงานสร้างพื้นที่ปลอดภัยป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด 12,942 คน ในพื้นที่ 4,022 หมู่บ้าน/ชุมชน มีแกนนำเครือข่ายที่เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง 282 คน และตั้งแต่ปี 2567 สสส. ได้ขยายการดำเนินงานผ่านเวทีสานพลังชุมชนล้อมรักษ์ โดยเน้นพื้นที่เป็นฐาน ประชาชนเป็นศูนย์กลาง พร้อมถอดบทเรียนและหาแนวทางการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันใน 6 ภูมิภาค มุ่งส่งเสริมให้อำเภอมีการรวมตัวเพื่อสร้างความเข้มแข็ง มีการพัฒนาผู้นำชุมชน และมองหากลไกการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายคือทำให้อำเภอแก้ปัญหายาเสพติดได้อย่างยั่งยืน นำไปสู่การพัฒนาระบบการทำงานระดับอำเภอสู่ชุมชนที่เข้มแข็งและปลอดภัย และการขยายผลการทำงานครอบคลุมทั่วประเทศอย่างเป็นรูปธรรม




You must be logged in to post a comment Login