- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 8 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 8 months ago
- โลกธรรมPosted 8 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 8 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 9 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 9 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 9 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 9 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 9 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 9 months ago
สสส. สานพลัง ม.มหิดล-ทีแพค เปิดเวที “SEAPAC 2025” รวมพลัง 14 ชาติอาเซียนขยับกาย

ปักธง Roadmap อาเซียน ยกระดับความร่วมมือกิจกรรมทางกายสู่อนาคต สสส. สานพลัง ม.มหิดล-ทีแพค เปิดเวที “SEAPAC 2025” รวมพลัง 14 ชาติอาเซียนขยับกาย ไทยนำร่องตั้ง “Physical Activity Hub” ศูนย์กลางขับเคลื่อนกิจกรรมทางกายระดับภูมิภาค สสส. ชูแนวทางเพิ่มการเคลื่อนไหว 150 นาที/สัปดาห์ ลดโรค NCDs เสริมสุขภาพดี-อายุยืนยาว ตั้งเป้าผลักดันคนไทยมีกิจกรรมทางกายเพิ่ม 75% เดินหน้าสร้างสังคมกระฉับกระเฉง เท่าเทียม ยั่งยืน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 พ.ย. 2568 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ บางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการสัมมนาด้านกิจกรรมทางกายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2025 (South-East Asia Physical Activity Conference 2025 – SEAPAC 2025) ระหว่างวันที่ 5-7 พ.ย. 2568 ซึ่งจัดประชุมเป็นครั้งแรก โดยมีบุคลากรด้านกิจกรรมทางกายที่สำคัญทั้งระดับโลก เอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าร่วม 700 คนจาก 14 ประเทศ

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. มุ่งลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) โดยเฉพาะการส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพดีตลอดช่วงชีวิต จากรายงานสถานการณ์การมีกิจกรรมทางกายของประชากรไทย ในรอบ 12 ปี (ปี 2555-2566) พบคนไทยมีระดับการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอต่ำกว่า 70% ซึ่งการประชุมครั้งนี้ คือก้าวแรกของความร่วมมือในการสร้างศูนย์กลางกิจกรรมทางกาย (Physical Activity Hub – PA) เพื่อเป็นกลไกกลางในการขับเคลื่อนกิจกรรมทางกาย โดยมีเป้าหมายสำคัญ 1. ระดับบุคคล ควรเพิ่มการมีกิจกรรมทางกายระดับปานกลาง 150–300 นาทีต่อสัปดาห์ หรือระดับหนักอย่างน้อย 85 นาทีต่อสัปดาห์ 2. ระดับประเทศ ควรยกระดับอัตราการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอจาก 68% เพิ่มเป็น 75% 3. ระดับภูมิภาคและโลก ควรลดช่องว่างของความเหลื่อมล้ำ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทุน และนโยบายสนับสนุน
“ไทยมีความพร้อมในการเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนทั้งด้านวิชาการ งานวิจัย เชื่อมต่อข้อมูล และผลักดันให้เกิดกิจกรรมทางกายของประชากรในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งการยกระดับกิจกรรมทางกายถูกหยิบยกมาหารือในเวที SEAPAC 2025 แต่ละประเทศได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการและผลการวิจัย นวัตกรรมใหม่ การออกแบบโมเดลที่มีความหลากหลายของการมีกิจกรรมทางกาย ที่นำไปสู่การพัฒนานโยบายและแนวทางปฏิบัติที่ส่งเสริมให้ประชาชนในภูมิภาคสามารถเข้าถึงและมีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพในระยะยาว โดยคาดว่าในระยะ 10-20 ปี โรค NCDs จะลดลง สุขภาพประชาชนโดยรวมจะดีขึ้น ประชากรมีอายุยืนขึ้น สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างยั่งยืน” ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว

รศ.ดร.ปิยวัฒน์ เกตุวงศา ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ไทยได้นำเสนอแนวทางการขับเคลื่อนกิจกรรมทางกายที่ครอบคลุมยุทธศาสตร์ที่สำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ 1. ส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยมีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น (Active People) ผ่านการสื่อสาร การออกแบบกิจกรรม และการสร้างความเข้าใจที่เหมาะสมกับบริบท 2. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเคลื่อนไหวของทุกคนอย่างเท่าเทียม (Active Environment) 3. สร้างค่านิยมทางสังคมและวัฒนธรรมที่สนับสนุนให้การเคลื่อนไหวเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต (Active Society) 4. พัฒนาระบบสนับสนุนที่เข้มแข็ง (Active System) เช่น ฐานข้อมูล งานวิจัย และนวัตกรรม เพื่อใช้เป็นกลไกสำคัญในการผลักดันนโยบายและการดำเนินงานด้านกิจกรรมทางกายอย่างยั่งยืน

“SEAPAC 2025 ถือเป็นก้าวสำคัญของการรวมพลังในภูมิภาค เพื่อขับเคลื่อนการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและยังเป็นเวทีเริ่มต้นของความร่วมมือระยะยาว ที่จะต่อยอดสู่การพัฒนา Roadmap ด้านกิจกรรมทางกายของอาเซียน และติดตามความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องทุก 3 ปี เพื่อสร้างสังคมที่กระฉับกระเฉง และเท่าเทียมในระดับภูมิภาค และมีการนำเสนอผลงานวิชาการ 110 ผลงาน การประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshops) e-Exhibition Showcase เปิดพื้นที่ให้เกิดการเรียนรู้และแรงบันดาลใจร่วมกัน ช่วยสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านกิจกรรมทางกาย เพื่อเชื่อมโยงภาคีและผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายประเทศ กิจกรรม Innovation Pitching สำหรับเยาวชนและนักวิจัยรุ่นใหม่ เพื่อนำเสนอแนวคิดสร้างสรรค์ด้านกิจกรรมทางกายและหาแนวทางต่อยอดสู่การพัฒนาในอนาคต ภายใต้แนวคิด Healthy Active Meeting เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมได้เคลื่อนไหวระหว่างการเรียนรู้ ลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง และสร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วมอย่างกระฉับกระเฉงและสร้างสรรค์” ดร.ปิยวัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้ การประชุมครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก Professor Mark S. Tremblay จาก Active Healthy Kids Global Alliance มาร่วมปาฐกถาพิเศษว่าด้วยบทบาทสำคัญของงานวิจัยและเครือข่ายทางวิชาการในการขับเคลื่อนนโยบายที่อิงหลักฐานเชิงประจักษ์ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางกายและสุขภาวะของประชาชนในระดับโลก พร้อมสะท้อนมุมมองต่อความท้าทาย ช่องว่าง และโอกาสใหม่ ๆ ของการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://seapac2025.org/




You must be logged in to post a comment Login