สสส. สานพลัง กทม. เดินหน้า “ยกระดับสุขภาพ-คุณภาพชีวิต คนเมืองทุกช่วงวัย-กลุ่มเปราะบาง ปี 68”

• Tweet
• 

สสส. สานพลัง กทม. เดินหน้า “ยกระดับสุขภาพ-คุณภาพชีวิต คนเมืองทุกช่วงวัย-กลุ่มเปราะบาง ปี 68” ลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ-สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อสุขภาวะดี หนุนการทำงานผ่านกลไกชุมชนเข้มแข็ง ครอบคลุม 50 เขต เปิดผลงานปี 67 ช่วยประชาชน 695 ชุมชน เข้าถึง “งบประมาณ” สร้างนวัตกรรมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพกว่า 37,634 คน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ม.ค. 2568 ที่โรงแรมคราวน์พลาซ่า กรุงเทพฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดเวที “นำเสนอความก้าวหน้าการขับเคลื่อนแผนบูรณาการงานสร้างเสริมสุขภาวะคนเมือง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร” เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ใช้เป็นแนวทางในการทำงานสร้างเสริมสุขภาวะของคนเมืองให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน

นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. สานพลัง กทม. เดินหน้าขับเคลื่อนแผนบูรณาการเพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีให้ประชาชนกรุงเทพฯ มุ่งเน้นการปรับตัววิถีชีวิต สภาพแวดล้อม และสร้างกลไกการทำงานร่วมกันในระดับชุมชน เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงและสนับสนุนการเข้าถึงทรัพยากรที่เอื้อต่อสุขภาพอย่างยั่งยืน เป้าหมายสำคัญ คือสร้างกลไกการทำงานร่วมระหว่างหน่วยงาน เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะในชุมชน 695 แห่งทั่วกรุงเทพฯ สนับสนุนชุมชนให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต เช่น โครงการออกกำลังกาย การจัดการสิ่งแวดล้อม และการสร้างความเข้มแข็งในระดับรากฐาน เพิ่มโอกาสให้กลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก เยาวชน คนพิการ ผู้สูงอายุ และคนไร้บ้าน ผ่านการสนับสนุนเชิงนโยบายและนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ

นางภรณี กล่าวต่อว่า ความก้าวหน้าของการทำงานร่วมกับ กทม. ในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมาได้ขับเคลื่อนผ่านการทำงานทั้งในเชิงกลุ่มประชากร องค์กร และพื้นที่ ทำให้ประชาชนในกรุงเทพฯ ได้รับประโยชน์กว่า 37,634 คน และมีครัวเรือนได้รับประโยชน์ 12,914 ครัวเรือน มีการดำเนินงานสำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ 1.การพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กแบบไร้รอยต่อ ผ่านแพลตฟอร์ม “เติมเต็ม” เพื่อดูแลช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่อยู่ในภาวะเปราะบาง มีแผนร่วมกับ กทม. ในการขยายผลให้ครอบคลุม 50 เขต 2.พัฒนาคุณภาพชีวิตประชากรกลุ่มเปราะบาง เพิ่มโอกาสให้คนพิการได้รับการจ้างงานในหน่วยงานสังกัด กทม. พัฒนาคุณภาพชีวิตคนไร้บ้านให้เข้าถึงโอกาสในการมีที่อยู่อาศัยราคาถูก พัฒนาพื้นที่เรียนรู้สำหรับผู้สูงอายุ ส่งเสริมบริการตรวจสุขภาพกลุ่มไรเดอร์ 3.สร้างสุขภาวะองค์กรในหน่วยงานของ กทม. 7 เขต เกิดนักสร้างสุของค์กรต้นแบบที่มีทักษะเป็นผู้นำสร้างการเปลี่ยนด้านสุขภาพ 64 คน

 “4.กลไกการทำงานร่วม ‘One Plan, One Node, One Report’ เพื่อบูรณาการแผนงาน งบประมาณ และการหนุนเสริมจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งศูนย์บริการสาธารณสุข สถาบันการศึกษา และหน่วยจัดการ เพื่อให้ชุมชนสามารถจัดการสุขภาพของตนเองได้ และการสร้างเครือข่ายชุมชนสุขภาวะ ใช้ฐานข้อมูลชุมชนบริหารจัดการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 5 ด้าน ได้แก่ สังคม สุขภาพ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และการเมืองการปกครอง นำร่องในชุมชนเขตคลองสามวา (ชุมชนภูมิใจ ชุมชนโรงช้าง ชุมชนนิมิตใหม่เมืองมีน) เขตสะพานสูง (ชุมชนกระทุ่มเดี่ยว) เขตสวนหลวง (ชุมชนโรงหวาย  ชุมชนใหม่ไทรทอง) และเขตสาทร (ชุมชนหน้าสมาคมธรรมศาสตร์ ชุมชนบ้านมั่นคงสวนพลู ชุมชนบ้านเอื้ออาทรสวนพลูพัฒนา)” นางภรณี กล่าว

รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า การทำงานร่วมมือระหว่าง กทม. และ สสส. ต้องตอบสนองความต้องการของประชาชน สอดคล้องกับเวลาชีวิตของคนกรุงเทพฯ รวมทั้งการสร้างความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะภาคเอกชน และสมัชชา กทม. เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง สอดคล้องกับแนวคิดของผู้ว่าฯ กทม. “กรุงเทพฯ เมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน” โดยมีจุดเน้นการทำงานหลายเรื่องที่ต้องร่วมมือกับ สสส. ในการขับเคลื่อน เช่น การพัฒนาและช่วยเหลือเด็กแบบไร้รอยต่อ การส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก การเพิ่มคุณภาพ ขีดความสามารถ ความครอบคลุมของการสาธารณสุข กทม. การสร้างเสริมสุขภาวะองค์กร การช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง คนไร้บ้าน คนพิการ ไรเดอร์ และสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี

“เป้าหมายการดำเนินงานระหว่าง สสส. และ กทม. คือ ทำอย่างไรให้คนกรุงเทพฯ มีสุขภาวะดี ที่ไม่ได้มีแค่เรื่องสุขภาพ แต่ครอบคลุมทั้งคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ที่ผ่านมา กทม. ได้เพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับคนกรุงเทพฯ ด้วยการปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 1,225,336 ต้น และมีแนวคิดเพิ่มสวนแนวตั้ง เพิ่มพื้นที่ทางเดิน และทางจักรยาน ให้คนเมืองมีพื้นที่ออกกำลังกาย เพิ่มห้องเรียนปลอดฝุ่น และส่งเสริมปรับพฤติกรรมด้วยการคัดแยกขยะ และนำขยะมาใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ สสส. ผลการจากส่งเสริมการคัดแยกขยะ ไม่เทรวม สามารถลดขยะได้ถึง  12% ประหยัดงบประมาณ 140 ล้านบาท” รศ.ทวิดา กล่าว

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ในปี 2568 กทม. กำหนดเป้าหมายเร่งด่วนเพื่อจัดการปัญหาต่างๆ ดูแลคนกรุงเทพฯ ในหลายประเด็น ทั้งนี้ จำเป็นต้องทำให้ชุมชนสามารถจัดการตนเองได้ ผ่านการกระจายอำนาจและงบประมาณ ร่วมกับการสร้าง Active Citizen หนุนการทำงานของภาครัฐในการจัดการปัญหาตั้งแต่ต้นทาง เช่น งานสุขภาวะข้างถนน เพื่อช่วยเหลือคนไร้บ้านและคนจนเมือง การจัดการพื้นที่สุขภาวะ เป็นต้น กทม. จะทำงานสำเร็จได้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือกับหลายภาคส่วนทั้ง สสส. ภาคีเครือข่าย และชุมชน เพื่อร่วมผลักดันเป้าหมายในการทำให้คนกรุงเทพฯ มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี โดยต้องมีเป้าหมายร่วมกันทั้งมิติสุขภาพและสังคม มีปลายทางผลลัพธ์ที่ชัดเจน

You must be logged in to post a comment Login