วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2567

บทเรียนจากการสร้างมนุษย์

On November 22, 2024

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 22 พ.ย. 67)

ในกองทัพ  ถ้าผู้บังคับบัญชาสั่งทหารคนใดและทหารไม่ทำตาม  ทหารคนนั้นต้องถูกลงโทษ ถ้าไม่มีการลงโทษ  ทหารคนอื่นจะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง  สิ่งที่ตามมาก็คือกองทัพจะได้รับความเสียหาย

ฉันใดก็ฉันนั้น  เมื่ออิบลีสไม่ยอมก้มกราบอาดัมตามคำบัญชาของพระเจ้าผู้สร้างและผู้เป็นนายของมัน  มันจึงต้องถูกลงโทษ  อิบลีสรู้ตัวดี  แต่มันได้ขอต่อพระเจ้าให้ประวิงเวลาการลงโทษออกไปก่อนจนถึงวันอวสาน  ไม่เพียงเท่านั้น  มันยังขอหลอกลวงอาดัมและลูกหลานของเขาอีกด้วยเพื่อให้พระองค์เห็นว่าลูกหลานอาดัมที่พระองค์ยกย่องนั้นมีน้อยคนนักที่จะเป็นผู้ขอบคุณพระองค์

คำขอของอิบลีสได้รับการอนุมัติ  แต่พระองค์ย้ำว่ามันไม่สามารถหลอกลวงบ่าวผู้ศรัทธาของพระองค์ได้  หลังจากนั้น  อิบลีสได้ถูกขับออกจากอาณาจักรของพระองค์

เมื่อวัตถุประสงค์ของการสร้างอาดัมคือเพื่อสืบทอดเผ่าพันธุ์มนุษย์  การมีอาดัมผู้เป็นเพศชายอย่างเดียวย่อมเป็นไปไมได้  พระเจ้าจึงได้สร้างมนุษย์เพศหญิงชื่ออีฟหรือฮาวาขึ้นมาให้เป็นภรรยาของอาดัม

คัมภีร์ไบเบิลและคัมภีร์กุรอานบอกเล่าตรงกันว่าพระเจ้าสร้างคู่ครองให้อาดัม  แต่วิธีการสร้างแตกต่างกัน  คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่าพระเจ้าสร้างอีฟโดยดึงกระดูกซี่โครงของอาดัมออกมาในขณะที่เขานอนหลับ  แต่คัมภีร์กุรอานมิได้เอ่ยชื่ออีฟและมิได้พูดถึงการชักกระดูกซี่โครง  แต่ใช้คำว่า “คู่ครอง” และคู่ครองนี้ถูกสร้างจากชีวิตที่มีตัวตนแล้วทั้งร่างกายและวิญญาณ หรือจากอาดัมนั่นเอง

เมื่อสร้างคู่ครองให้อาดัมแล้ว พระเจ้าได้ให้คนทั้งสองอยู่ในสวนสวรรค์และจะกินอะไรก็ได้ที่มีอยู่ในนั้น  แต่อย่าเข้าใกล้ต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งมิได้ระบุชื่อไว้  ต้นไม้นี้เป็นหมือนสัญลักษณ์ที่เตือนว่าสิ่งใดที่พระเจ้าห้ามอย่าได้เข้าใกล้เพราะมันจะทำให้ถลำตัวทำความผิด

ต่อมา  อิบลีสบิดาแห่งซาตานได้หลอกลวงอาดัมและอีฟว่าเหตุผลที่พระเจ้าห้ามเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนั้นก็เพราะหากทั้งสองกินผลของต้นไม้นั้น  ทั้งสองคนจะมีชีวิตนิรันดร  ทั้งสองหลงเชื่อ  จึงถลำตัวกินผลไม้จากต้นไม้ต้องห้าม  สิ่งที่ตามมาในคำบอกเล่าของคัมภีร์กุรอานก็คือเสื้อผ้าของอาดัมและอีฟหลุดออกจากร่าง   ทั้งสองจึงเกิดความละอายจนต้องรีบดึงใบไม้มาปิดสิ่งพึงน่าละอายของตัวเอง

ตรงนี้  คัมภีร์กุรอานต้องการแทรกเรื่องจริยธรรมให้ผู้อ่านได้คิด นั่นคือ เมื่อพระเจ้าสร้างอาดัมและอีฟแล้ว พระองค์ได้ประทานเสื้อผ้าให้แก่คนทั้งสองเหมือนกับที่พระองค์ให้ขนเป็นเสื้อผ้าแก่สัตว์  จะต่างกันก็ตรงที่เสื้อผ้าของสัตว์ไม่ปกปิดอวัยวะเพศเท่านั้นและสัตว์ไม่มีความละอาย

การที่อาดัมและอีฟดึงใบไม้มาปกปิดสิ่งพึงน่าละอายของตัวเองแสดงว่าความละอายเป็นธรรมชาติที่มีอยู่ดั้งเดิมในตัวของมนุษย์  ความละอายจึงทำให้มนุษย์แตกต่างไปจากสัตว์และนบีมุฮัมมัดได้มาย้ำว่าความละอายเป็นส่วนหนึ่งของความศรัทธา  ถ้าไม่มีความละอาย  มนุษย์ก็ทำได้ทุกอย่าง

บทเรียนอีกอย่างหนึ่งจากเรื่องราวการสร้างอาดัมก็คือ อาดัมถูกอิบลีสล่อลวงให้ฝ่าฝืนคำสั่งของพระเจ้า แต่เมื่อรู้ตัวว่าทำผิด  อาดัมสำนึกผิดและขออภัยโทษต่อพระเจ้า  ผิดกับอิบลีสที่ฝ่าฝืนคำสั่งของพระเจ้าเพราะความโอหังของมัน  และทำผิดแล้วยังขอทำผิดต่อไปด้วยการขอหลอกลวงลูกหลานของอาดัม

คัมภีร์กุรอานเล่าต่อไปว่าเมื่ออาดัมขออภัยโทษในความผิด พระเจ้าได้ให้อภัยแก่เขาเพราะพระเจ้าเป็นผู้ทรงให้อภัยและผู้ทรงเมตตา

เหตุการณ์ตอนนี้ถูกเล่าขึ้นมาก็เพราะหลังสมัยพระเยซู  ชาวคริสเตียนมีความเชื่อว่าบาปแรกเกิดขึ้นจากอาดัมและทำให้มนุษย์ผู้เป็นลูกหลานของเขามีบาปติดตัวมาแต่กำเนิด  พระเยซูจึงถูกส่งมาเพื่อไถ่บาปของมนุษย์โดยการยอมถูกตรึงกางเขน  ต่อมา ความเชื่อนี้ได้พัฒนาไปจนถึงขั้นเมื่อเกิดสงครามครูเสด โป๊ปถึงกับเป็นผู้ออกใบไถ่บาปให้แก่ชาวคริสเตียนที่ร่วมทัพไปทำสงครามครูเสด

ในคัมภีร์กุรอาน  ใครทำบาป  ผู้นั้นต้องรับผิดชอบต่อบาปที่ตัวเองทำ  ไม่มีใครสามารถแบกบาปแทนกันได้  ถ้าใครจะขออภัยบาป  คนผู้นั้นต้องขออภัยต่อพระเจ้าโดยตรง เพราะบาปคือการละเมิดกฎของพระเจ้า  พระเจ้าเท่านั้นที่มีสิทธิ์ในการให้อภัย


You must be logged in to post a comment Login