- กลืนเลือดไม่ให้เสียใจPosted 1 day ago
- ระลึกถึงพ่อหลวง ร.9Posted 2 days ago
- 5 ธ.ค.วัดสวนแก้วแตกแน่Posted 3 days ago
- จะกลับมาแบบไหนPosted 4 days ago
- เลือกงานให้โดน บริหารคนให้เป็น ตาม“ลัคนาราศี”Posted 4 days ago
- ต่างศาสนา ต่างชาติพันธุ์ อยู่ร่วมกันภายใต้ความแตกต่างPosted 4 days ago
- โลภ•ลวง•หลง เกมพลิกชีวิต รีแบรนด์หรือรีบอร์นPosted 4 days ago
- กูไม่ใช่ไก่ต้มเว้ย! อย่ามาต้มกูเลย..Posted 4 days ago
- หยุดความรุนแรง-ลวงโลกPosted 5 days ago
- อ.เบียร์ช่วยวัดสวนแก้วPosted 1 week ago
บาปและการขออภัยบาปในอิสลาม
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 1 พ.ย. 67)
คัมภีร์กุรอานบอกให้เรารู้ว่ามนุษย์ถูกสร้างมาในสภาพที่อ่อนแอและไม่รู้ซึ่งเราไม่อาจปฏิเสธได้ ลูกแพะลูกแกะคลอดออกมาจากท้องแม่ได้สิบนาที พอตัวแห้ง มันก็สามารถยืนและเดินได้ อีกทั้งยังรู้ด้วยว่าแม่ของมันตัวไหนและมันจะเดินไปดูดนมแม่ของมันโดยที่ไม่มีใครสอน
ผิดกับมนุษย์ที่กว่าจะยืนและเดินได้ต้องใช้เวลาแรมปี หากไม่ได้รับการสอน มนุษย์จะไม่รู้อะไรเลย ไม่เพียงแต่ร่างกายเท่านั้น แม้แต่สติปัญญาและจิตใจของมนุษย์ก็ยังอ่อนแอด้วย นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไม มนุษย์จึงต้องมีกฎและผู้สอนการดำเนินชีวิต
ทุกประเทศมีกฎหมายและกฎหมายของทุกประเทศกำหนดขอบเขตของการปฏิบัติไว้ชัดเจน ใครละเมิดกฎหมายก็ถือว่าทำผิด ต้องได้รับโทษ แต่ใครจะได้รับการยกโทษหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับอำนาจของกระบวนการตุลาการในประเทศนั้น
ก่อนโลกมีการออกกฎหมายโดยรัฐบาลหรือรัฐสภา สังคมมนุษย์มีกฎการดำเนินชีวิตที่พระเจ้าประทานมาเป็นกฎหมายที่ครอบคลุมพฤติกรรมของชีวิตมนุษย์ในทุกๆด้าน การละเมิดกฎที่พระเจ้ากำหนดไว้ไม่เพียงแต่เป็นความผิดเท่านั้น แต่ยังเป็นบาปด้วย ซึ่งในเรื่องนี้บางสิ่งไม่มีอยู่ในกฎหมายที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น การละทิ้งละหมาด การนินทาไม่เป็นสิ่งผิดกฎหมายบ้านเมือง แต่เป็นบาปในกฎหมายของพระเจ้า
ความผิดบางอย่างอาจมีโทษทางกฎหมายบ้านเมือง เช่น การเล่นพนัน การลักลอบผลิตสุรา แต่เมื่อรอดพ้นสายผู้รักษากฎหมาย ความผิดนั้นก็ไม่ถูกลงโทษ แต่ในทางกฎหมายของพระเจ้าถือว่าเป็นบาปที่จะต้องถูกลงโทษในโลกหน้าแม้ไม่ถูกลงโทษในโลกนี้ เพราะความผิดบาปไม่มีอายุความ ทางรอดจากการถูกลงโทษอย่างเดียวก็คือการได้รับอภัยบาป และผู้ที่จะให้อภัยบาปได้มีเพียงผู้เดียวคือพระเจ้าผู้ทรงออกกฎหมายและเป็นผู้พิพากษาที่จะตัดสินให้ใครได้รับการให้อภัย
ดังนั้น ในอิสลามจึงไม่มีการล้างบาปโดยมนุษย์และไม่มีมนุษย์คนใดสามารถยกโทษให้แก่ความผิดบาปที่เกิดขึ้นจากการละเมิดกฎหมายของพระเจ้า มีแต่พระเจ้าองค์เดียวเท่านั้นที่จะให้อภัยบาปและการได้รับอภัยบาปเป็นเงื่อนไขแรกที่พระเจ้าองค์จะรับใครเข้าสวรรค์
การสำนึกผิดและหันไปขออภัยโทษต่อพระเจ้าในภาษาเรียกว่า “เตาบ๊ะฮฺ” ซึ่งหมายถึงการหันหลังกลับหรือการกลับตัว คำนี้มาจากพฤติกรรมของลูกสัตว์ที่คึกคะนองวิ่งออกห่างจากแม่ เมื่อเจอสัตว์ร้ายและรู้สึกหวาดกลัว มันจึงหันหลังวิ่งกลับไปหาแม่เพราะมันรู้ว่าแม่จะคุ้มครองมันได้ ฉันใดก็ฉันนั้น มนุษย์ทำบาปก็เพราะหันหลังให้พระเจ้า จิงคิดว่าไม่มีพระเจ้าเฝ้ามองอยู่
เนื่องจากพระเจ้าสร้างมนุษย์มาในสภาพที่อ่อนแอ มนุษย์ทุกคนจึงมีความโน้มเอียงไปสู่การทำบาป แต่พระองค์เป็นผู้ทรงให้อภัยและรักที่จะให้อภัย ดังนั้น พระเจ้าจึงให้โอกาสแก่บ่าวของพระองค์สำนึกผิดและหันไปขอการอภัยโทษต่อพระองค์ซึ่งนบีมุฮัมมัดได้สอนให้มุสลิมรู้ถึงวิธีการขออภัยโทษต่อพระเจ้าตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ผู้ทำความผิดบาปต้องรู้สึกเสียใจจริงๆต่อความผิดบาปที่ได้ทำไป
- นึกถึงบาปที่ทำไปแล้วรู้สึกหวั่นกลัว
- ทบทวนความรับผิดชอบของตัวเองและปฏิบัติหน้าที่ที่ถูกละทิ้งไปก่อนหน้านี้
- ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยการขจัดข้อบกพร่องที่ทำให้เกิดการหลงผิด
- ขออภัยโทษต่อพระเจ้าและไม่กลับไปทำบาปหรือความผิดนั้นอีก
ถ้าหากใครไม่รู้สึกเสียใจและรังเกียจความผิดบาปที่ได้ทำไปไมว่าจะบาปใหญ่หรือเล็ก ไม่กลัวว่าจะกลับไปยังบาปนั่นอีก และไม่ขอความช่วยเหลือต่อพระเจ้าเพื่อที่จะพ้นจากการหลงผิด การกลับตัวนั้นก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการโกหกกับพระเจ้า
You must be logged in to post a comment Login