- เลือกงานให้โดน บริหารคนให้เป็น ตาม“ลัคนาราศี”Posted 9 hours ago
- ต่างศาสนา ต่างชาติพันธุ์ อยู่ร่วมกันภายใต้ความแตกต่างPosted 10 hours ago
- โลภ•ลวง•หลง เกมพลิกชีวิต รีแบรนด์หรือรีบอร์นPosted 10 hours ago
- กูไม่ใช่ไก่ต้มเว้ย! อย่ามาต้มกูเลย..Posted 10 hours ago
- หยุดความรุนแรง-ลวงโลกPosted 1 day ago
- อ.เบียร์ช่วยวัดสวนแก้วPosted 5 days ago
- เลิกเสียเงินกับเรื่องโง่ๆPosted 5 days ago
- ปัญหายาเสพติดวาระแห่งชาติPosted 6 days ago
- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 1 week ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 1 week ago
บทเรียนจากการสร้างอาดัมและอีฟ
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 24 พ.ค. 67)
เรื่องราวการสร้างอาดัมในคัมภีร์ไบเบิลและคัมภีร์กุรอานนอกจากจะบอกให้รู้ถึงต้นกำเนิดที่มาของมนุษย์แล้ว ยังมีข้อคิดที่ก่อให้เกิดปัญญาอีกหลายอย่าง
คัมภีร์กุรอานกล่าวว่าวัตถุประสงค์ประการหนึ่งที่พระเจ้าสร้างอาดัมขึ้นมาก็เพื่อให้อาดัมเป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่ขยายเผ่าพันธุ์มนุษย์บนโลกใบนี้ แต่การสร้างอาดัมที่เป็นเพศชายอย่างเดียวโดยไม่มีเพศหญิง การแพร่ขยายเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่อาจเป็นไปได้ พระองค์จึงสร้างมนุษย์เพศหญิงที่ชื่ออีฟขึ้นมาเป็นคู่ครองและผู้ช่วยเหลืออาดัม
คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่าพระเจ้าสร้างอีฟจากการดึงกระดูกซี่โครงซี่หนึ่งของอาดัมออกมาในขณะที่เขานอนหลับสนิท
แต่ในคัมภีร์กุรอานกล่าวว่าพระเจ้าสร้างมนุษย์มาจาก “ชีวิตหนึ่ง” (ไม่ได้ใช้คำว่าซี่โครง) และจากชีวิตนั้น พระองค์ได้สร้างคู่ครองให้ และจากคู่ครองนี้เองที่พระองค์ได้แพร่กระจายมนุษย์ชายหญิงจำนวนมากมายบนหน้าแผ่นดิน
หลักความศรัทธาในบรรดาคัมภีร์ก่อนๆทำให้มุสลิมไม่ปฏิเสธเรื่องการสร้างอีฟจากซี่โครงของอาดัม แต่มุสลิมจะยึดถือวจนะของพระเจ้าในเรื่องนี้จากคัมภีร์กุรอาน ขณะเดียวกัน นบีมุฮัมมัดก็พูดถึงเรื่องการสร้างผู้หญิงจากซี่โครงไว้เช่นกัน แต่พูดเป็นเชิงเปรียบเทียบว่าลักษณะนิสัยของผู้หญิงก็เหมือนกับซี่โครงที่มีลักษณะงอๆงอนๆ ซึ่งผู้ชายต้องเข้าใจและท่านกำชับว่าอย่าได้ฝืนธรรมชาติของผู้หญิงโดยคิดจะดัดซี่โครงให้ตรง เพราะมันจะหัก นั่นหมายถึงการหย่า ผู้ชายจึงต้องรู้เรื่องนี้และรู้วิธีการบริหารความงอนของผู้หญิง
อีกบทเรียนหนึ่งที่เราได้รับจากเรื่องราวการสร้างอาดัมก็คือ เมื่อพระเจ้าสร้างอาดัมและอีฟขึ้นมาแล้ว พระองค์ได้ให้ทั้งสองอาศัยอยู่ในสวนสวรรค์ของพระองค์ซึ่งในนั้นมีผลไม้จากต้นไม้นานาชนิดที่ทั้งสองคนสามารถกินได้ตามใจชอบยกเว้นต้นไม้ต้นหนึ่งที่พระเจ้าห้ามอาดัมและอีฟเข้าใกล้ แต่คัมภีร์กุรอานมิได้ระบุว่าต้นไม้ต้นนั้นเป็นต้นอะไรเพื่อเป็นบทเรียนว่าเมื่อพระเจ้าห้ามสิ่งใดแล้ว อย่าแม้แต่จะเข้าใกล้
แต่เมื่ออาดัมและอีฟหลงเชื่อคำหลอกลวงของซาตานและเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนั้น ทั้งสองลืมคำสั่งของพระเจ้าจนกินผลไม้จากต้นไม้ต้นนั้น ผลที่ตามมาก็คือ เสื้อผ้าของอาดัมและอีฟได้หลุดออกจากร่าง
เหตุการณ์ตรงนี้ทำให้เราเข้าใจได้ว่ากฎหมายอิสลามจะป้องกันมนุษย์ให้ห่างจากต้นเหตุที่จะนำไปสู่การทำความผิดมหันต์ ดังนั้น เมื่อสั่งห้ามเรื่องการผิดประเวณี คัมภีร์กุรอานมิได้ใช้คำว่า “ห้ามผิดประเวณี” แต่ใช้คำว่า “อย่าเข้าใกล้การผิดประเวณี” ซึ่งทำให้มีบัญญัติอื่นๆตามมา เช่น ห้ามมิให้ชายหญิงอยู่กันตามลำพังสองต่อสอง เป็นต้น
นอกจากนี้แล้ว เรายังมีอีกบทเรียนหนึ่ง นั่นคือ เมื่ออาดัมและอีฟฝ่าฝืนคำสั่งของพระเจ้าโดยเข้าใกล้ต้นไม้ที่พระเจ้าสั่งห้าม เสื้อผ้าของคนทั้งสองได้หลุดออกจากกาย ทั้งสองจึงรีบคว้าใบไม้มาปิดอวัยวะที่พึงสงวนของตน เหตุการณ์ตรงนี้บ่งบอกว่าพระเจ้าสร้างอาดัมและอีฟขึ้นมาโดยมีเสื้อผ้าสวมใส่แล้ว และทั้งสองมีความละอายเป็นธรรมชาติดั้งเดิม จึงรีบคว้าหาใบไม้มาปกปิดอวัยะที่น่าละอายของตน ผิดกับสัตว์ที่พระเจ้าสร้างมาให้มีขนเป็นเสื้อผ้า แต่อวัยวะเพศของสัตว์ไม่มีสิ่งใดปกปิด
ความรู้สึกละอายจึงเป็นศีลธรรมในสัญชาติของมนุษย์ นบีมุฮัมมัดได้กล่าวว่า “ความละอายเป็นส่วนหนึ่งของความศรัทธา ถ้าใครไม่มีความละอาย คนผู้นั้นก็สามารถทำอะไรได้ทุกอย่าง”
จากเรื่องราวการสร้างอาดัมและคำสอนของนบีมุฮัมมัดนี้เองที่เป็นที่มาของการกำหนดให้สตรีมุสลิมแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิดเพื่อแสดงถึงการมีความละอายและการปกป้องตนเอง ขณะเดียวกันก็เป็นการป้องกันจิตใจของเพศตรงข้ามให้พ้นจากตัณหาราคะจากการมองเรือนร่างของสตรีเพศ
You must be logged in to post a comment Login