วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2567

ผลวิจัยชี้ เด็กเยาวชนไทยเล่นพนันออนไลน์กว่า 3 ล้านคน

On June 19, 2023

ผลวิจัยชี้ เด็กเยาวชนไทยเล่นพนันออนไลน์กว่า 3 ล้านคน เพราะเห็นโฆษณาบ่อย-คนดังชวนพนัน ศูนย์ศึกษาปัญหาพนัน เร่งสานพลัง มสส.-สสส. มุ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ให้เด็กเยาวชนรู้เท่าทันภัยพนัน

ในงานเสวนาวิชาการ “เปิดพฤติกรรมเยาวชนไทย…รู้เท่าทันภัยพนัน?” ซึ่งศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ร่วมกับมูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ (มสส.) โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) จัดขึ้นที่โรงแรมแมนดาริน สามย่าน กรุงเทพฯ รศ.แล ดิลกวิทยรัตน์ ประธานคณะกรรมการกำกับทิศทางกลุ่มแผนงานลดปัญหาจากการพนัน สสส. กล่าวว่า การสร้างการรู้เท่าทันภัยพนัน เครื่องมือที่เคยใช้ได้ในบางสังคม บางช่วงเวลา อาจไม่สามารถตอบคำถามใหม่ในสังคมที่กำลังเปลี่ยนแปลง ต้องช่วยกันหาแนวทาง เพื่อตอบโจทย์ใหม่ๆ เช่นเรื่องความรับรู้ และมุมมองที่แตกต่าง การบอกว่าการพนันเป็นเรื่องไม่ดี เป็นเรื่องลบ แต่คนเล่นพนันสร้างความชอบธรรมให้กับการกระทำของตนเองด้วยการบอกว่า การพนันก็แค่ ‘เล่น’ หรือ ‘หารายได้’ ไม่ได้เสี่ยงอะไร และอีกหลายๆ ประเด็น เป็นเรื่องที่ต้องหาทางแก้ไข เพื่อสร้างค่านิยมในการหยุดการพนันอย่างต่อเนื่อง

ผศ.ดร.ไพฑูรย์ สอนทน อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ม.ราชภัฏเพชรบูรณ์ กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ในโรงเรียนมัธยม 4 แห่ง    จ.เพชรบูรณ์ จำนวน 3,744 คน พบว่า นักเรียนครึ่งหนึ่งมีทัศนคติที่ดีต่อการเล่นพนัน แม้นักเรียนส่วนใหญ่จะไม่เคยเล่นพนันเลย แต่พบนักเรียนที่เล่นพนันอยู่ในปัจจุบันถึง 14.7% เล่นพนันออฟไลน์อย่างเดียว 4.0% เล่นพนันออนไลน์อย่างเดียว 3.9% และเล่นทั้งออฟไลน์และออนไลน์ 6.8% เมื่อให้นักเรียนที่เล่นพนันอยู่ในปัจจุบันตอบแบบทดสอบการเล่นพนันแบบเป็นปัญหา พบนักเรียนตกอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า ‘เล่นพนันแบบเป็นปัญหา’ มากถึง 18.5% โดยกลุ่มที่มีความถี่ในการเล่นพนันสูง และกลุ่มที่เล่นพนันทั้งสองช่องทาง เล่นทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ มีสัดส่วนของ ‘การเล่นพนันแบบเป็นปัญหา’ มากกว่ากลุ่มอื่น ซึ่งนักเรียนที่เข้าข่ายเป็นนักพนันที่มีปัญหา มีความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้ามากกว่าผู้ที่ไม่มีปัญหาพนันถึง 3 เท่า

นายอุบล สวัสดิ์ผล นักวิชาการอิสระ กล่าวว่า จากการศึกษามุมมองเรื่องพนันของเด็กวัยมัธยมศึกษา 2 พื้นที่ 1. พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อพูดถึงการพนัน 32.9% คิดถึงการพนันประเภทต่างๆ ที่พบเห็นในชุมชน และคาสิโนชายแดน 23.5% คิดถึงอารมณ์สนุกสนาน 23.5% ตอบว่าพนันคือสิ่งผิดกฎหมาย 2. พื้นที่โรงเรียนขนาดใหญ่ ครู และสภานักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมโครงการ สภานักเรียนเก็บข้อมูลจากเพื่อนๆ ชั้นมัธยม 1-6 รวม 426 คน พบว่า 79.5% รับรู้ว่ามีการเล่นพนันในโรงเรียน และทุกคนมีคนรอบตัวเกี่ยวข้องกับการพนัน จากคำถามชวนคิด ‘เมื่อได้ยินคำว่า พนัน เราคิดถึงอะไร?’ 43.3% คิดถึง ประเภทการพนัน และพนันออนไลน์ชนิดต่างๆ มากที่สุดคือคำว่า สล็อต 24.5% คิดถึงเรื่องกฎหมาย ศีลธรรม ผลกระทบ 11.1% คิดถึงกลยุทธ์ วิธีการเล่น เสี่ยงโชค 6.6% คิดถึงอารมณ์สนุกสนาน 3.5% คิดถึงสถานที่เล่นพนัน จำนวนที่เหลือตอบว่ารู้สึกเฉยๆ

รศ.ดร.ณัฐนันท์ ศิริเจริญ อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า ข้อมูลนักศึกษาที่กำลังศึกษาระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยของรัฐ และเอกชน 400 คน ช่วง ก.ค. 2565 –มี-ค. 2566 และเก็บข้อมูลเชิงลึกนักศึกษาที่เล่นพนันออนไลน์ 12 คน พบว่า ค่อนข้างรู้เรื่องสื่อโฆษณาชวนพนัน พนันออนไลน์มีหลากหลายรูปแบบ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องหลอกลวง เป็นเพียงข้อเสนอให้เลือกว่าจะเล่นหรือไม่ ไม่ได้บังคับ มองว่าพนันออนไลน์เป็นเพียงเกมออนไลน์ที่มีเงินรางวัล เป็นการเสี่ยงโชค ลุ้นรางวัล ทำให้สนุกตื่นเต้น ซึ่งการติดพนันเป็นโรคทางจิตเวช รักษาได้ เมื่อพบคนติดพนัน สิ่งที่ควรทำคือ มีสติ ใจเย็น ต้องไม่ตำหนิ ไม่คาดหวังว่าเขาจะหายจากการติดพนันในทันทีเมื่อหยุดเล่นพนัน

นายพิทักษ์เดช ชุมไชโย รองประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เด็กทุกคนรู้ว่าการเล่นพนันเป็นเรื่องผิด แต่ยังเล่นพนัน เพราะไม่มีความตระหนัก โซเชียลมีเดียทำให้เข้าถึงพนันได้ง่าย การเห็นโฆษณาบ่อยๆ เห็นเพื่อนเล่นได้ ก็อยากเล่นตาม บางคนคิดว่าจะหารายได้จากการเล่นพนัน บางคนหารายได้ด้วยการโฆษณาพนัน เปิดเฟซบุ๊กเพื่อโปรโมทเว็บพนัน เพราะเห็นเพื่อนทำแล้วได้เงินโดยไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องผิดกฎหมาย การเล่นพนันบ่อย ๆ อาจทำให้เด็กกลายเป็นคนติดการพนันโดยไม่รู้ตัว สภาฯ กำลังสื่อสารเรื่อง การพนันเป็นสิ่งเสพติด ไม่ต่างจากการติดเหล้าหรือบุหรี่ และกำลังพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ เพื่อถ่ายทอดให้กับเด็ก และเยาวชนตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น

รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน กล่าวว่า ผลสำรวจการเล่นพนันออนไลน์ของคนอายุ 15-25 ปี ต้นปี 2566 พบว่าเล่นพนันออนไลน์เกือบ 3 ล้านคน มากกว่าครึ่งเล่นทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ ส่วนใหญ่เคยเห็นโฆษณา และถูกชักชวนให้เล่นพนันออนไลน์ 44% เห็นแล้วอยากลอง ลองเข้าไปดู ลองเข้าไปเล่น และ 1% แชร์ข้อความโฆษณาไปยังสาธารณะ ทำให้การโฆษณาพนันออนไลน์ขยายวงกว้าง คนที่คิดจะเล่นพนันเพื่อเป็นช่องทางหารายได้ การพนันออกแบบให้เจ้ามือชนะเสมอในระยะยาว ซึ่งคนชนะเป็นคนส่วนน้อย ชนะแล้วไม่เลิกสุดท้ายเงินที่เคยได้ก็หมดไปกับพนัน แต่คนชอบจำตอนชนะ ได้รางวัล คิดว่าสามารถควบคุมตัวเองได้ อยากเล่นหรืออยากหยุดเมื่อไหร่ก็ได้ ประกอบกับบางคนเคยเห็นพ่อแม่เล่น หรือเห็นเพื่อนเล่น และคนเสพติดพนันอารมณ์จะแปรปรวน มีโอกาสตกอยู่ในภาวะควบคุมตัวเองไม่ได้ เสียพนันจนก่อให้เกิดปัญหาได้


You must be logged in to post a comment Login