เลิกเหล้าได้ด้วยปลายนิ้วผ่านนวัตกรรมชทบอท “น้องตั้งใจ”

• Tweet
• 

โลกปัจจุบันง่ายสะดวกสบายด้วยปลายนิ้วมือ จะดีหรือไม่ถ้าหากคนจะเลิกเหล้าได้โดยไม่ต้องเดินทางไปสถานพยาบาล เพียงแค่คลิกหา”น้องตั้งใจ” นวัตกรรมแชทบอทเพื่อนสนิทช่วยคนอยากเลิกเหล้า

“น้องตั้งใจ” คืออะไร  คำตอบที่ได้จากเวทีเสวนา”อีกก้าวของบริการช่วยเลิกเหล้า” คือ นวัตกรรมแชทบอท ตัวช่วยเลิกเหล้าผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ โดยเกิดจากความร่วมมือของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับ ศูนย์ปรึกษาเพื่อการเลิกสุราและการเสพติด(1413 สายด่วนเลิกเหล้า) และกองจิตเวช โรงพยาบาลพระมงกฏ และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พ.ท.นพ.ณัฐพล โชคไมตรี กองจิตเวชและประสาท โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นของ “น้องตั้งใจ” เริ่มต้นจากการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาแอลกอฮอล์ในสถานพยาบาล และผู้ที่มีปัญหาแอลกอฮอล์จำนวนหนึ่งเข้าถึงระบบบริการได้น้อย เนื่องจากว่าบางคนมีอาการไม่ชัดเจน และมีการรอคิวการรักษาที่นาน แชทบอท “น้องตั้งใจ” จึงเกิดการพัฒนาขึ้นมาจากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ ร่วมกับการสำรวจความต้องการและความคาดหวังของกลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าจะเป็นผู้ใช้บริการ 1413

สำหรับสาเหตุที่เลือกใช้แอพพลิเคชั่นไลน์(Line) เพราะเป็นช่องทางการสื่อสารที่คนรู้จักกันมากที่สุด และ แชทบอท”น้องตั้งใจ” จะเป็นช่องทางการเข้าสู่ระบบการรักษาต่อไปตามขั้นตอน

การเริ่มต้นการใช้งาน “น้องตั้งใจ” เพียงแค่ผู้สนใจเข้าไปเพิ่มเพื่อนในแอพพลิเคชั่นไลน์ผ่านคิวอาร์โค๊ด จากนั้นทำการลงทะเบียนตามขั้นตอน เมื่อแชทแล้ว”น้องตั้งใจ” จะทำอะไรให้กับเราได้บ้าง เริ่มจาก ประเมินความเสี่ยงติดสุราและบันทึกประวัติการดื่ม ตามมาด้วยข้อมูลการเลิกเหล้า ค้นหาสถานบำบัด และแชทกับเจ้าหน้าที่

“ความแตกต่างของแชทบอทคือผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา พร้อมมีฟังก์ชั่นแนะนำปริมาณการดื่มที่ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงจนมากเกินไป สำหรับตัวผู้ใช้งานที่ยังไม่ต้องการที่จะหยุดดื่มทันทีแต่ขอทราบปริมาณการดื่มที่พอดีที่ไม่ดื่มจนเกิดอันตราย ซึ่งสามารถให้คำแนะนำได้แบบง่ายๆตรงนี้น่าจะเป็นความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างการโทรศัพท์คุยกับการใช้แชทบอท ซึ่งการโทรศัพท์คุยผู้ให้บริการไม่สามารถระบุได้ทันทีว่าควรจะดื่มเท่าใด ซึ่งมันอาจจะมีปัจจัยหลายๆอย่างร่วมด้วย เช่น เพศ อายุ  น้ำหนัก ซึ่งตรงนี้ตัวแชทบอทเป็นดิจิทัลจึงสามารถคำนวนณอะไรต่างได้อย่างรวดเร็วและให้คำแนะนำได้ทันที “ พ.ท.นพ.ณัฐพล กล่าว

พ.ท.นพ.ณัฐพล กล่าวว่า สำหรับผู้ที่มีอาการดื่ในแต่ละครั้งมากขึ้น หรือมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย เช่น มือสั่น เหงื่อแตก ควรเข้ารับคำปรึกษา หรือหากมีอาการรุนแรงทางร่างกายควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว ส่วนการติดตามผู้รับบริการขึ้นอยู่ผู้รับบริการจะอนุญาติให้ติดตามหรือไม่

นอกจากนี้ในงานวิจัยพบว่า ความคาดหวังของผู้รับบริการยังคาดหวังว่าจะมีการเชื่อมโยงเข้ากับสถานพยาบาลอย่างเป็นรูปธรรมและได้มาตรฐาน ซึ่งในอนาคตจะมีการเชื่อมโยงประวัติผู้ใช้กับระบบการรักษาในโรงพยาบาลต่อไป ซึ่งจะเป็นการช่วยลดภาระของผู้ให้บริการได้อีกทางหนึ่ง และจากการทดลองใช้แชทบอทจากกลุ่มตัวอย่าง พบจำนวนวันของผู้ใช้บริการปรึกษาเลิกเหล้าผ่านแชทบอทมีแนวโน้มลดลงมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ใช้ และรับความรุนแรงของความเสี่ยงในการดื่มก็ลดลงพ.ท.นพ.ณัฐพล กล่าวสรุป

ด้าน นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวว่า ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติการดื่มแอลกอฮอล์มีแนวโน้มลดลงตามลำดับจาก 13.95% ในปี 2557 เหลือ 11.9% ในปี 2560 และเหลือ 10.05% ในปี 2564 สะท้อนว่าพฤติกรรมการดื่มอย่างหนักของคนไทยมีแนวโน้มดีขึ้น และปัจจุบันมีผู้เข้ารับการบำบัดมากขึ้น แต่ยังพบข้อจำกัดการเข้าถึงการบริการ เช่น ไม่กล้าขอรับคำปรึกษา ไม่ทราบแหล่งที่จะขอรับความช่วยเหลือเมื่อประสบปัญหา

ทั้งนี้การช่วยเหลือให้เขาได้ถึงระบบบริการรวมถึงการใช้สิทธิในการรักษาเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งแชทบอทและสายโทรศัพท์ของเราสามารถให้คำแนะนำได้บางเคสช่วยประสานส่งต่อให้ได้ด้วย ในแชทบอทเรามีทั้งอาสาสมัคร นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ และคุณหมอเข้ามาช่วยดูแล ซึ่งคนใช้บริการสามารถมั่นใจว่าคำปรึกษาของเราได้มาตรฐาน นอกจากนี้ยังพบว่าแคมเปญการโฒษณามีผลต่อการโทรเข้ามารับบริการมากขึ้น เช่น งดเหล้าเข้าพรรษา ซึ่งการเปิดแชทบอทน้องตั้งใจขึ้นมาเพื่อจะเข้าถึงคนที่ใช้ออนไลน์ เพื่อต้องการให้เขามีช่องทางโซเซียลในการให้คำปรึกษา ซึ่งผู้ใช้บริการมีความมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ให้จะเป็นความลับ

อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยจากมิจฉาชีพ ผู้ใช้บริการควรสแกนคิวอาร์โค๊ดจากเพจ 1413 สายด่วนเลิกเหล้า

You must be logged in to post a comment Login