วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567

น้ำยาบ้วนปากจากสารสกัดข้าวสีดำ สำหรับผู้สูงอายุ

On November 18, 2022

รองศาสตราจารย์ ดร. ทพญ.ศรัญญา ตันเจริญ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ที่ได้รับรางวัล มหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปีการศึกษา 2564 กล่าวถึงผลงานวิจัย เรื่อง น้ำยาบ้วนปากจากสารสกัดข้าวสีดำ จากปัญหา สุขภาพในช่องปากของผู้สูงอายุ มักพบโรคในช่องปาก เช่น โรคปริทันต์อักเสบเรื้อรัง มีกลิ่นปาก โรคฟันผุ  เหงือก และเยื่อบุช่องปากบาง ระคายเคือง และเกิดแผลในช่องปากได้ง่าย ผู้สูงอายุดูแลตนเองได้น้อย ไม่สามารถ แปรงฟันได้ถนัด เนื่องจากทักษะในการจับแปรงสีฟัน หรือผู้ที่มีโรคทางสายตาทำให้เกิดพยาธิสภาพในช่องปากตามมา  นอกจากการเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนในช่องปาก ภาวะปากแห้งทำให้ผู้ป่วยสูงอายุรู้สึกกลืนลำบาก เจ็บ เนื้อเยื่ออ่อน ระคายเคือง ปากเป็นแผลง่าย ทำให้มีโอกาสเกิดเชื้อราในช่องปากสูง เนื่องจากไม่มีน้ำลายปรับสมดุลในปาก รวมทั้ง การรับรสชาติเปลี่ยนแปลงไปในผู้สูงอายุ การได้รับยาบางชนิด เช่น ยารักษาความดันโลหิตสูง ยารักษาอาการซึมเศร้า  ยาลดไขมัน ยาเหล่านี้มีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการปากแห้ง และเยื่อบุช่องปากอักเสบ ในปัจจุบันการรักษาอาการปากแห้ง  และภาวะแทรกซ้อนเป็นไปแบบรักษาตามอาการ การใช้น้ำยาบ้วนปากที่เหมาะสมร่วมกับการขูดหินน้ำลายและเกลา รากฟันโดยทันตแพทย์ การแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟันที่ถูกวิธี จะช่วยทำให้การทำความสะอาดภายในช่องปากได้ทั่วถึง ยิ่งขึ้น น้ำยาบ้วนปากจากสารสกัดข้าวสีดำมีส่วนประกอบสารสกัดข้าวที่ผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากล  มีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อก่อโรคในช่องปาก ต้านการอักเสบ และกระตุ้นต่อมน้ำลาย ช่วยลดอาการปากแห้งได้ดี สามารถ ใช้ในการป้องกันและบรรเทาโรคดังกล่าว

น้ำยาบ้วนปากจากสารสกัดข้าวได้พัฒนาและมีหลายตำรับด้วยกัน ตำรับที่ใช้ในผู้สูงอายุมีขั้นตอนการสกัดสารสกัดข้าวโดยใช้เทคโนโลยีจากการค้นคว้าวิจัยที่พัฒนาขึ้นเอง มีเลขที่คำขอสิทธิบัตร ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการในสัตว์ทดลองและการทดสอบในคน สารสกัดข้าวสามารถป้องกันการอักเสบในเยื่อบุช่องปาก (oral mucositis) ในสัตว์ทดลองที่ได้รับยาเคมีบำบัด ช่วยสร้างคอลลาเจนในเนื้อเยื่อบุกระพุ้งแก้ม สร้างเนื้อเยื่อบุผิวปกคลุมบาดแผล ทำให้แผลหาย ลดการทำงานของ transcription factor ชนิด Nuclear factor-kappa B ที่ทำให้เกิดการแสดงออกของยีนที่ก่อให้เกิดการอักเสบในร่างกาย จากการสำรวจความพึงพอใจในผู้สูงอายุที่ได้รับน้ำยาบ้วนปากจากสารสกัดข้าวที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อก่อโรคในช่องปากพบว่า ผู้สูงอายุมีความพึงพอใจ ไม่แสบปาก ไม่มีอาการเจ็บเหงือกหรือช่องปาก ไม่มีลักษณะอาการแพ้ ไม่พบการติดเชื้อราหรือความผิดปกติเยื่อบุช่องปาก รวมถึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงของการรับรส และไม่มีการเกิดคราบสีบนตัวฟัน

จากการบูรณาการองค์ความรู้ด้านการเกษตร เภสัชศาสตร์ และทันตแพทยศาสตร์ ทำการเพาะปลูกแปลงวิจัยโดยชาวนาไทยและทันตแพทย์ นำองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขามาศึกษาร่วมกัน ปลูกข้าวอินทรีย์โดยใช้หลักการแกล้งข้าวซึ่งศึกษาจากทฤษฎีแกล้งดินของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นหลักในการดูแลนาเพื่อพัฒนาวัตถุดิบที่นำมาใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ รวมถึงน้ำยาบ้วนปากจากสารสกัดข้าวหลายตำรับ ผ่านการเปรียบเทียบสารออกฤทธิ์ที่สำคัญของพันธุ์ข้าวอินทรีย์ชนิดต่างๆ และคัดเลือกข้าวที่มีการออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ทำการตรวจหาชนิดและปริมาณสารที่ออกฤทธิ์มาทำการศึกษาเชิงลึก และพัฒนาเทคโนโลยีการสกัดโดยยื่นขอสิทธิบัตรเทคโนโลยีการสกัดเมื่อปี พ.ศ. 2558 เพื่อให้ได้สารสกัดที่มีคุณค่าและมีสรรพคุณต่อกระบวนการก่อโรคนำมาผลิตน้ำยาบ้วนปากจากข้าวสีดำ (ยื่นจดอนุสิทธิบัตรเมื่อปี พ.ศ. 2561) ดังแนวคิด “แปรรูปข้าวไทยให้เป็นยา” นอกจากนี้ข้าวที่เหลือจากการสกัดแล้วนำมาหมุนเวียนทำถ่านชีวภาพ หรือ ไบโอชาร์ (Biochar) ซึ่งแตกต่างจากถ่านทั่วไป โดยนำกากข้าวที่เหลือจากการสกัดผ่านการเผาไหม้ที่มีการควบคุมอุณหภูมิและจำกัดอากาศให้เข้าไปเผาไหม้น้อยที่สุดในสภาวะที่ไม่มีออกซิเจนเรียกว่า “กระบวนการไพโรไลซิส” ลักษณะความเป็นรูพรุนซึ่งจะช่วยกักเก็บน้ำและอาหารในดิน และเป็นที่อยู่ให้กับจุลินทรีย์เพื่อสร้างอาหารให้ดิน ลดผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรจากโลหะหนักที่อาจจะปนเปื้อนได้ เป็นการนำกากข้าวที่เหลือจากการสกัดมาใช้หมุนเวียนให้เกิดประโยชน์ในการปลูกข้าวอินทรีย์ต่อไป

ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทย การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากข้าวเพื่อใช้ในการดูแลสุขภาพช่องปากสำหรับผู้สูงอายุ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสารสกัดเข้มข้น มีสรรพคุณต่อกระบวนการก่อโรคและออกฤทธิ์เห็นผลจริง นำมาซึ่งการส่งเสริมและสนับสนุนการปลูกข้าวอินทรีย์ โดยการเชื่อมโยงภาคการผลิต การวิจัยและการตลาด และเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวสีอินทรีย์ที่ปลูกโดยชาวนาไทยและเป็นการส่งเสริมการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร ขอขอบคุณคณะกรรมการตัดสินรางวัล มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เห็นคุณค่าในนวัตกรรมที่ใช้เวลาในการพัฒนานานกว่า 10 ปี ที่พัฒนาจากข้าวแล้วมาประยุกต์ใช้โดยมีคุณภาพ ผ่านการรับรองจริยธรรมการวิจัยในคนและในสัตว์ทดลองจำนวนรวม  8 เรื่อง และได้รับรางวัล 3 รางวัลที่ผ่านมา การที่ได้รับคัดเลือกรางวัลมหาวิทยาลัยมหิดลในครั้งนี้ถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่คณะผู้วิจัยทุกท่านได้รับ และจะขอนำรางวัลที่ได้รับมาต่อยอดนวัตกรรมที่ใช้ในช่องปากเพื่อลดผลข้างเคียงจากการรักษาโรคมะเร็งศรีษะและลำคอ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยต่อไป

ขอขอบคุณทีมผู้บริหารคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ให้การสนับสนุน และทีม Research and Development โดยมี อาจารย์ และเจ้าหน้าที่สายสนับสนุนจากภาควิชาเภสัชวิทยา คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ขอบคุณทีม Organic Farming ชาวนาผู้ปลูกข้าวนาคุณหมอ ศูนย์เรียนรู้กสิกรรมไร้สารพิษละโว้ธานี และขอบคุณสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล (iNT) และบริษัท คริสตัล ไวบ์เอสเธติคส์ จํากัด ที่ช่วยกันทำให้เกิดการต่อยอดผลงานวิจัยออกสู่เชิงพาณิชย์สำเร็จ


You must be logged in to post a comment Login