อย่าชะล่าใจ

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 2 มิ.ย. 64)

ช่วงใกล้เปิดเทอม บรรดาผู้ปกครองต่างต้องดิ้นรนเพื่อหวังจะให้ลูกหลานได้เล่าเรียนหนังสือ อย่างชาวจ.น่าน ได้แห่นำของมาจำนำหลากหลายชนิด เช่น เครื่องมือทำการเกษตร ของใช้ภายในบ้าน ทองคำ ฯลฯ แต่ที่น่าสะอึดก็คือ ครกกับสากก็ยังเอามาจำนำ เนื่องจากไม่มีเงินใช้จ่ายจริงๆ เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้ซื้อของใช้ให้ลูกหลานในช่วงเปิดเทอม ต้องเรียกว่า เงินทองช่วงนี้หายาก แต่ยังไงก็ต้องการให้ลูกหลานได้เล่า ได้เรียน

จึงพยายามเอาข้าวของต่างๆที่พอมีค่าเอาไปจำนำ ช่วงระยะวิกฤตเศรษฐกิจนี่ทำให้ทุกฝ่าย ทุกคน ทุกเรื่องฝืดเคือง ขัดสน คนไทยอาตมาเชื่อว่า ในรอบ 7 ปี 10 ปี เราไม่เคยจนขนาดนี้ ไม่มีความจนครั้งยิ่งใหญ่ครั้งไหนเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ครั้งนี้เรียกว่า หนักหนาสาหัส ถึงขั้นต้องเอาครกกับสากมาจำนำเพื่อให้ลูกหลานได้เล่า ได้เรียน นี่แหละ เป็นช่วงวิกฤตที่เรียกกันว่า หนักหนาสาหัส

ถ้าเราไม่ชะล่าใจ ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของร.9 ต้องถือว่า เป็นประโยชน์มหาศาล ถ้าใครได้ดำเนินชีวิตไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่ทะเยอทะยาน ทุ่มเท ลงทุน ทำงานอะไรต่างๆจนกระทั่งเจ๊งวายวอดพินาศไป แต่ถ้ามีการดำรงชีวิตที่ไม่รอบคอบ ไม่รู้เท่า รู้ทัน รู้แก้ รู้กันไว้ เวลาเจอเข้ามันจะรับไม่อยู่ รับไม่ไหว ในที่สุดก็ต้องจบกันตรงที่ว่า ไม่พ้นโรงรับจำนำ ช่วงเวลานี้มันเป็นวิกฤตอย่างหนัก อย่างมาก

เพราะฉะนั้น ถ้าเรายังปล่อยให้ชีวิตอยู่บนเส้นทางของความทะเยอทะยาน ความสุรุ่ยสุร่าย มหาตมะ คานธี ได้กล่าวไว้ว่า การใช้จ่ายสุรุ่ย สุร่าย คือ การฝึกหัด ทำตนเป็นมหาโจรปล้นทรัพย์ตนเอง การใช้จ่ายอย่างสุลุ่ย สุร่าย ไม่เตรียมตัว เตรียมใจประหยัด นั่น คือ ความวิบัติ ความเสียหาย จะตามมาอย่างมากมายเลยทีเดียว อย่างที่เราเห็นอยู่ในเวลานี้ ก็ต้องบอกว่า ส่วนหนึ่งมีผลมาจากความชะล่าใจในการกินอยู่ ใช้อยู่แบบไม่มีคำว่า “อนาคต” เรียกว่า กินปัจจุบัน ใช้ปัจจุบันไปวันๆให้หมดไปอย่างน่าเสียดาย

เจริญพร

You must be logged in to post a comment Login