วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2567

ไม่พ้นทางสายกลาง

On March 11, 2021

และแล้วสำนักข่าวต่างประเทศต่างประโคมข่าวไปทั่วโลกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ฉีดใส่นักข่าวหลังจากนักข่าวถามเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี เลยกลายเป็นเรื่องฮือฮากันในสายข่าว แต่ทีนี้สายระหว่างประเทศนั้น ประเทศไทยถูกองค์กรต่างชาติที่ชื่อ ฟรีดอมเฮาส์ลดระดับความมีอิสรภาพ เสรีภาพ ล่าสุดเขาให้คะแนนเราเพียงแค่ 30 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน และบอกว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ไร้เสรีภาพ จากที่เคยเป็นประเทศที่มีเสรีภาพบางส่วน 
 
เรียกว่า เสรีภาพ เราก็ไม่ใช่ว่าจะคลั่งไคล้เสรีภาพจนพาบ้านเมืองไม่มีขื่น มีแปร แต่นั่นแหละ บางอย่างเราก็ปิดกั้น ห้ามปราม เสียจนแทบไม่เหลืออิสรภาพอะไรในการดำเนินชีวิต ซึ่งชีวิตเขาบอกว่า คนเราชอบอิสระ เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ก็ยังมีการทำโพลว่า ประชาชนส่วนใหญ่ชอบอิสระ ไม่ขึ้นอยู่กับพรรคการเมืองใด แต่ที่ชอบผู้สมัครที่อยู่กับพรรคก็มีเหมือนกัน ไม่ใช่ว่า ไม่มีเสียเลย แต่รวมแล้วก็คือว่า เราเสียด้านอิสรภาพไปไม่ใช่น้อยเลย 
 
เราไม่ควรที่จะอยู่ตำแหน่งท้ายๆ หรือตำแหน่งที่ไม่ได้ชื่อเสียงกระฉ่อน เพราะการเป็นประเทศที่เรียกว่า ทำอะไรกระดิกอะไรไม่ได้ หรืออย่างที่เขาชอบพูดกันศัพท์เก่าๆ หายใจก็ยังผิด ซึ่งตอนนี้เป็นเรื่องลำบากระหว่างพวกที่ออกมาชุมนุมระดับแกนนำก็ไม่ได้รับประกัน ไม่ได้ใช้อิสรภาพ ก็เริ่มมีความวิตกกังวล และเริ่มมีเอาอะไรต่อะไรไปวางหน้าศาล คล้ายๆกับไว้อาลัยความยุติธรรม หรืออยุติธรรมก็แล้วแต่ ๆว่า เรื่องนี้มันก็เป็นดาบสองคม กดมากก็ลำบาก 
 
เพราะแรงกดอาจจะกระเด้งขึ้นมา เรียกแขกก็ได้ ทำให้ม็อบเกิดขยายตัวกว้างใหญ่ ถ้าปล่อยมากประเทศก็เละ ระบบกฎหมายก็เสียศูนย์ เรื่องนี้ไปๆมาๆไม่พ้นคำว่า ทางสายกลาง เราอยู่ตรงทางสายกลางได้ก็จะง่ายขึ้น ทำให้ทุกอย่างเป็นประโยชน์ ไม่ทำให้ทุกอย่างเสียหาย อยู่กันได้ด้วยความสงบ เพราะเรามีคำว่า อะลุ่มอะล่วยบ้าง เอาจริงจังบ้าง ถ้าหากว่า ไม่จริงจัง ปล่อยปละละเลยเพิกเฉยดูดาย ก็จะกำเริบเสิบสานย่ามใจ แต่กดมากเกินไปก็อย่านึกว่า สักวันหนึ่งคำว่า กดจนกระทั่งกฎหมายไม่เป็นกฎหมาย กลายเป็นกดหัว 
 
ถ้ากฎหมายกลายเป็นกดหัวมากขึ้น อาจจะเกิดปัญหาตีกลับขึ้นมาได้ แต่ถ้ากฎหมายไม่กดหัว แต่เป็นกฎที่ศักดิ์สิทธิ์ ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก และถ้าผิดไม่มากก็สามารถที่จะโอนอ่อนผ่อนปรนได้ ไม่ใช่ตึงเป๊ะ หรือเราที่เราชอบเรียกกันว่า กฎหมายผีมัดตราสังข์ แก้ไขอะไรไม่ได้ซะเลย อย่างที่เราเคยได้ยินคุณหมอประเวศ วะสี ราษฎร์อาวุโส ที่บอกว่า กฎหมายไทยบางทีเหมือนผีมัดตรงสังข์ เรื่องอะไรที่ควรคลายได้ แก้ไขได้แล้ว ก็ไม่ยอมแก้ แม่น้ำลำคลองที่ไม่ได้ใช้แล้วควรจะเอามาเป็นอะไรที่เป็นประโยชน์ 
 
เรียกว่า เป็นที่เก็บน้ำ กักน้ำ ไม่ให้น้ำเค็ม น้ำท่วมได้ จนกระทั่งอาตมานึกว่า พวกคลองเก่าๆที่ 20 กว่าปีไม่ได้ใช้ แล้วก็มีการทำประตูกั้นน้ำ แต่แล้วประตูก็กั้นไม่อยู่ มีอะไรไปปิดกั้น มีท่อนไม้หรือมีอะไรไปขวางข้างล่าง พอปิดไปแล้วมันไม่สามารถกักน้ำได้ น้ำก็เล็ดลอดไหลเข้ามาอีก ถ้าน้ำเค็มมากก็เสียหายมาก เพราะฉะนั้นจึงต้องเรียกกันว่า กฎหมายก็อย่ากดหัวมาก แล้วก็อย่าเป็นผีมัดตรางสังข์ อย่าเป็นสายสินธุ์มัดผี  
 
หรือที่เรียกว่า มัดตรงสังข์นั่นแหละ ไม่กระดิกแล้ว คนตายให้เชือกมัดก็มัดอยู่อย่างนี้แหละ ไม่ต้องแก้ไขอะไรกันแล้ว เรื่องบางอย่างมันก็ต้องแก้ ต้องดู ทั้งนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ ถ้าเอารัฐศาสตร์เกินจนไม่มีนิติศาสตร์อาจจะทำให้บริหารไปไม่ได้ หรือเอากฎหมายเกินจนไม่นึกถึงกฎหมายเลยก็อาจจะไม่นึกถึงรัฐศาสตร์เลย มันก็จะลำบากไปอีกอย่าง มีเรื่องเดือดร้อนไปอีกแบบหนึ่ง ก็หวังว่า ยังไงประเทศไทยคงมีโอกาสปรับตำแหน่งของประเทศให้ก้าวหน้าไปในทางที่มีอิสรภาพ มีประชาธิปไตยอะไร ไม่ใช่จะย้อนกลับไปแข่งกับพม่าก็คงจะไปกันลำบาก 
 
พม่านี่ก็อาการหนักแล้ว ไปปฏิวัติยึดอำนาจในสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ก็ต้องซวยไป ต้องลำบาก ยังไงขอให้ประเทศไทยได้เลื่อนอันดับเป็นประเทศที่มีอิสรภาพ มีเสรีภาพสูงกับเขาสักประเทศหนึ่งเถอะน่า 
 
เจริญพร 


You must be logged in to post a comment Login