วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

การ์ดศีลธรรมอย่าตก

On December 29, 2020

คอลัมน์ : สำนัก(ข่าว)พระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 29 ธ.ค. 63)

การพลิกผันสถานการณ์โควิดกลับมาครั้งนี้ กลับมาแรง กลับมาหนัก กลับมามากกว่าครั้งแรกด้วยซ้ำไป เพราะตอนนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมล่าสุดทะลุหลายพันคน และหลายสิบจังหวัด ซึ่งไม่เคยมีอย่างนี้ และครั้งนี้ก็คงจะเป็นตัวต้นเหตุที่ชะงักความเจริญของประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ ถนนหนทางคงจะต้องถูกยับยั้ง แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาจะสร้างอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 7 ใหม่ เอามาประดิษฐานไว้ที่รัฐสภา ก็มีการบอกชะลอก่อน เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ใช้งบประมาณมาก 

อาตมามองว่า ก็ยังดี ยังคิดได้กันอยู่ อะไรที่ไม่ควรจ่าย ควรใช้ในช่วงนี้อย่าทำเลย สิ่งที่สะท้อนให้เห็นในเวลานี้ เราอย่าไปคิดรังเกียจเดียดฉันท์ชาวพม่าเลย ซึ่งเขาได้มาอยู่ในเมืองไทย มาช่วยงานที่คนไทยไม่ค่อยทำ งานแม่บ้าน งานประมง งานอะไรที่หนักๆ ถ้าเขาไม่อยู่ ไม่ช่วย เราจะแย่ คนบางคนมีทัศนคติไม่ดี เผอิญนั่งดูรายงานข่าว เขาไปสัมภาษณ์ชาวพม่าที่มาทำงานบ้านเรา พูดชัดพอฟังได้ว่า โดนคนไทยหยามหมิ่นเยียบย่ำ พูดเขาไม่ดีอย่างนั้น อย่างนี้ 

เขาก็บอกว่า เขาเก็บกลั่นทนไว้ในใจ บางทีก็น้ำตาร่วง แต่ก็ทนได้ ไม่โต้ตอบ เพราะเราต้องการมาหาเงิน เราอยู่ประเทศพม่า เราไม่มีงานทำ ไม่มีเงินใช้ ญาติพี่น้องก็อดอยาก เรามาลำบากที่นี่ ทนถูกเหยียบย่ำ แต่เราได้เงินกลับไปเลี้ยงดูญาติพี่น้องที่อยู่ทางโน้นด้วย อาตมาฟังแล้วก็ต้องบอกคนไทยอย่าไปนั่นเลย แล้วก็มีนายจ้างหลายคนพูดว่า คนพม่าถ้าใครได้ทำงานด้วยก็จะรู้ว่า เขาอดทน และเขาก็ไม่อยากสร้างปัญหา  

เพราะเขากลัวว่า เขาจะถูกส่งกลับ ก็จะต้องไปอดอยาก ไม่มีงานทำ ดังนั้น ประเทศที่ไม่มีงานทำ จึงเป็นประเทศที่ค่อนข้างจะอยู่ยากลำบาก อาตมามาคิดดูที่เราวางโครงการจะสร้างงาน สร้างชาติ มันกินความจริง ก็ดีใจที่ประชาชนเริ่มมาทำบัตรเพื่อจะสร้างงาน สร้างชาติ โดยซื้อแผ่นดิน ซื้อที่ดินให้คนที่ไม่มีที่ทำมาหากินได้สร้างงาน สร้างอาชีพ เมื่อคนในประเทศมีงาน มีอาชีพก็ไม่ต้องไปหางานชาติไหน เมืองไหน 

ก็ไม่ไปหอบหิ้วเอาโควิดกลับมาประเทศซ้ำเติมให้ประเทศมีกรรมหนัก ทรุดหนัก นี่ต้องเรียกกันว่า ถ้าคิดอะไรได้ คิดอะไรเป็น มันต้องเกิดจากความจำเป็นก่อน และหลายวัดที่คิดไม่เป็น คิดจัดงาน จัดมหรรสพ เวลานี้โทษสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ว่า ทำไมไปบอกล่วงหน้า อ้าวก็เหตุนี้มันไม่ได้เกิดล่วงหน้า มันเพิ่งมาเกิด ก็วัดทำไมไม่คิดบ้างล่ะ วัดมันเป็นที่สงบ ไม่ใช่จัดงานมหรรสพ มันเป็นอบายมุข เที่ยวกลางคืน 

ดูการเล่น อบายมุขชัดๆ จะไปโทษพศ.ได้อย่างไร บอกว่า หาลิเก หาหนัง หาคอนเสิร์ต วางมัดจำไว้แล้วด้วย นี่พูดถึงเรื่องนี้แล้ว มันก็มีเรื่องต่อเข้ามาอีกว่า เขากำลังจะวางแผนเก็บอาคารก่อสร้าง สถานที่ โบสถ์วิหาร เจดีย์ เรียกว่า โรงเรือน จะเก็บภาษีโรงเรือนกับวัด อาตมาก็บอกว่า สบายเรา เพราะเราไม่ได้สร้างโบสถ์ใหญ่ ไม่ได้สร้างเจดีย์ใหญ่ เราคงไม่ต้องเสียภาษีเหมือนวัดบางวัดที่สร้างเจดีย์เป็นหมื่นล้าน คงเสียภาษีอานเลย 

ก็เป็นอันว่า ยังไงๆก็อย่าการ์ดตก แต่ก็ขอซ้ำ ฉายซ้ำ การ์ดตกทางโควิด มีอะไรต่ออะไรที่ป้องกันได้ทำกันไปเถอะ แมส เจล ทำไปเถอะ แต่อย่าการ์ดตกทางศีลธรรม เพราะเวลานี้บ้าระส่ำ ฆ่าพี่ ฆ่าน้อง ฆ่าผัว ฆ่าเมียกันอย่างชนิดที่เรียกว่า เป็นผัก เป็นปลาแล้ว อันนี้การ์ดทางศีลธรรมตก ต้องช่วยกัน พยายามผดุงกันให้ดี ส่วนโควิดนั้น ต้องช่วยกันเต็มที่ อะไรที่งดได้ เว้นได้ เขาไม่ให้จัด จำนวนคนมากๆ เราก็อย่าจัด อยู่ได้ 

ที่จริงนี่ พุทธศาสนานี้ เป็นศาสนาที่เยี่ยม คือ ทำให้อยู่ในท่ามกลางของความสงบได้ ถ้าเราไม่อยู่ในความสงบ เราก็ต้องวุ่นวาย ต้องเดือดร้อน ทีนี้ ถ้าเดือดร้อนมากๆเป็นไง มันก็เป็นเพราะว่า ตัวเองทิ้งศาสนาที่เป็นแก่นสาร ไปสนใจเรื่องที่ไม่ใช่เป็นเรื่องศาสนาตัวแท้ ตัวจริง เลยทำให้เดือดร้อน เสียเงินมัดจำไปกับทั้งมหรรสพที่เป็นอบายมุข นี่ก็คงจะได้บทเรียนโควิดคราวนี้มาสอนให้หัวหันกลับไปอยู่กับความสงบ ปลีกวิเวกอะไรกันบ้าง ไม่ใช่มาคลุกคลี ตีโมงกับพวกเหล่าดารา นักร้อง ทำให้พระเณรในวัดใจแตกไปเปล่าๆ เอาล่ะ บทเรียนครั้งนี้เชื่อว่า กรรมการวัด เจ้าอาวาส คงได้บทเรียนครั้งใหญ่ และแพง และคงได้บทเรียนเพื่อปรับปรุงแก้ไขแนวทางของวัดต่อไป 

เจริญพร 


You must be logged in to post a comment Login