วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

หยุดทำลายธรรมชาติ

On November 6, 2020

คอลัมน์ : สำนัก(ข่าว)พระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 6 พ.ย. 63)

ช่วงนี้ต้องถือว่า พบสิ่งที่เรียกว่า วิปริตทางธรรมชาติมากมายหลายอย่างๆหนึ่งที่เห็นก็น่าสมเพชเวทนา คือ ปู่เฉฉวนที่เกาะแห่งหนึ่ง เกาะนี้มีปูเฉฉวนอยู่มาก แต่ก่อนเจ้าปูดังกล่าวจะอาศัยอยู่ในเปลือกหอย แต่ต่อมาเปลือกหอยถูกเก็บมาแต่งโน้น แต่งนี่ จนทำให้เปลือกหอยไม่มีที่เขาจะซ่อนตัวกันเป็นบ้าน หลบอยู่เป็นบ้านเขาก็คือ ตัวเปลือกหอย แต่ต่อมาเปลือกหอยไม่มี เขาก็เที่ยวไปอาศัยขวดแตก ขวดตัดปาก ขวดพลาสติกที่ทิ้งๆ

เรียกว่า เข้าไปอยู่เป็นบ้านของเขา เลยกลายเป็นเรื่องเห็นแล้วสลดสังเวชใจว่า บ้านของเขาที่เคยอยู่สุขสบาย ปลอดภัยไม่มี กลายเป็นปูเฉฉวนไร้บ้าน แต่ว่า เขาก็พยายามที่จะหาสิ่งอื่นเท่าที่เขาหาได้ มีภาพหนึ่งที่สังเวชใจก็คือ ขวดลิโพ กระทิงแดง ที่มันแตก เขาก็ไปอาศัยอยู่ในนั้น ดูแล้วก็เรียกว่า ธรรมชาติเปลี่ยนไปมาก วิปริตไปมาก ดิน ฟ้า อากาศ สิ่งเหล่านี้ต้องถือว่า ไม่เคยมีมาก่อน แต่กลับมามีอยู่ในยุคนี้

เวลาญาติโยมไปเที่ยวทะเลก็อย่าเอาอะไรต่อมิอะไรทิ้งไว้เกลื่อน และอย่าเที่ยวเก็บเปลือกหอย เพราะถ้าไม่มีแล้วเขาจะอยู่กันอย่างไร อันนี้เป็นเรื่องที่ดูแลก็สลดสังเวชใจ ซึ่งธรรมชาติต่อแต่นี้คงไม่อยู่กับร่องกับรอย ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล น้ำเน่า น้ำเสียก็มีมากขึ้น มากจนกระทั่งมองดูแล้วว่า จะอยู่กันแบบไหน อยู่ยังไง ดังนั้น เราควรมาช่วยกันทำให้บ้านเมืองให้น่าอยู่ แล้วเราจะได้อยู่ในบ้านเมืองที่มันน่าอยู่

แต่ถ้าเราปล่อยปละละเลยเพิกเฉยดูดาย มันอาจจะเป็นบ้านเมืองที่ไม่น่าอยู่ แต่เราก็ต้องทนอยู่ ทั้งๆที่มันไม่น่าอยู่ เพราะฉะนั้น เรามาร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ช่วยกันทำให้บ้านเมืองให้น่าอยู่ไว้ อะไรที่มันไม่เกิดคุณ เกิดประโยชน์ เกิดเสียหาย ช่วยกันป้องกัน รักษา การเป็นนักอนุรักษ์หรือรักษาไว้ เรียกว่า มีปฏิปทาเป็นคนชอบดูแลรักษา ไม่ปล่อยปละละเลย เพิกเฉยดูดาย มันจะมีคุณค่าของชีวิตส่วนหนึ่ง และปล่อยให้ธรรมชาติน่าอยู่ น่าดู น่าเห็น น่ายล น่ามอง

ไม่ใช่มองไปแล้วก็ต้องส่ายหน้าเหมือนพัดลมเลย มันสลดสังเวชใจ ไม่มีอะไรที่น่าชื่นมื่น ชื่นใจ นึกถึงตอนเด็กๆ น้ำเน่า น้ำเสียในคลองมันไม่มี ชมพูหล่นลงมาโดดไปกินได้ เดี๋ยวนี้โดดไปก็คันทั้งตัว น้ำมันเน่า ก็ต้องบอกกันว่า ช่วยๆกันหน่อย ช่วยกันทำบ้านเมืองให้น่าอยู่ เพื่อลูกหลาน และเราก็ได้อยู่ ๆแล้วมันน่าอยู่ด้วย ไม่ใช่ทนอยู่ ทั้งๆที่มันไม่น่าอยู่ อันนี้ช่วยกันหน่อย ต้องกลับมาทำให้มันเหมือนเดิม

เราอยากจะต้องบอกว่า ขอให้เหมือนเดิม ถ้ามันแย่กว่าเดิม เสียหายมากกว่าเดิม แล้วเราไม่ดูแลกัน ต้นไม้ไม่ปลูกเสริม ความร่มรื่นไม่มี มีแต่ตัดกับทำลาย แล้วจะน่าอยู่อย่างไรได้ ฝนฟ้าน้ำมาก็ถล่มทลายล่มจม มันไม่มีรากไม้คอยกัน คอยกัน ต้องเรียกกันว่า เราจะรอให้ธรรมชาติทวงคืน หรือธรรมชาติสอนให้เจ็บปวดถึงจะดูแลรักษา เหมือนเขาว่า ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตาสำหรับคนมักง่าย ชอบทิ้ง ชอบขวางอะไรลงไปในลำน้ำ ลำคลอง ต้องบอกกันว่า เกิดมาเป็นมนุษย์ทำลายธรรมชาติ เสียชาติเกิดจริงๆน่ะ เกิดมาต้องดูแลรักษาคุ้มครองกันไว้

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login