วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

คัมภีร์หลังเต่า

On November 5, 2020

คอลัมน์ : สำนัก(ข่าว)พระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 5 พ.ย. 63)

การศึกษาไทยปัจจุบันทำให้นึกถึงตอนอยู่สวนโมกข์กับหลวงพ่อพุทธทาส ท่านได้พูดคำว่า การศึกษาเหมือนหมาหางด้วน การศึกษาเจดีย์ยอดด้วน และตอนนี้ไม่น่าเชื่อว่า ผู้บริหารการศึกษากระทำความผิดถูกลงโทษหลายร้อนคน อันนี้เป็นเรื่องที่น่าอเนจอนาจใจมั้ยว่า การศึกษาบ้านเราทำไมยอดด้วน หางด้วน อย่างนี้จะเรียกว่า งบประมาณก็ได้เยอะ แต่ทำไมจึงเป็นอย่างนี้

บางบทหลวงพ่อพุทธทาส ท่านกล่าวว่า โลกจะเป็นอย่างไร และคนในโลกจะอยู่กันอย่างไร และคนในโลกมันเป็นอย่างไร ก็เพราะมีการศึกษากันมาอย่างไร และการวางโปรแกรมหลักสูตรร่างกันมาอย่างไร นี่ท่านก็ขยับเป็นขั้นๆ และแน่นอน เราเอาใครมาร่างการศึกษาเหมือนร่างรัฐธรรมนูญ ร่างทีไรก็ถูกฉีก ต้องถูกแก้ เป็นตัวปัญหาและคนร่างเราไม่รู้ว่า จิตวิญญาณของเขาสวมใส่อะไร แต่ความรู้เขามีแน่

ตอนนี้การศึกษาของไทยมันคล้ายๆกับภาพปริศนาธรรมที่พระฝรั่งทิ้งไว้เรื่องเต่า คัมภีร์หลังเต่า เต่าแบกคัมภีร์ หมายความว่า เต่าตาบอดหรือไม่บอดก็ไม่รู้ แต่มันมีคัมภีร์อยู่ข้างหลัง มันมีวุฒิดีกรีอยู่ในใบประกาศ แต่ทำไมเรื่องชู้สาว เรื่องโหดร้ายต่อเด็ก เรื่องกินสินบน มันถึงได้มืดบอดกันถึงขนาดนั้น และที่อาตมามองเห็น คนอื่นเห็นหรือไม่เห็นไม่รู้ หรืออาตมาเห็นผิดไปเองก็ไม่รู้ แต่รู้ว่า การศึกษาเป็นอะไรไป

เมื่อตอนเด็กเรียนอนุบาล เรียนประถม ใช้ง่าย ใช้คล่อง แล้วใช้แล้วอึดด้วย ทำดี ทำทนด้วย แต่พอขึ้นมัธยมชักใช้ไม่ค่อยได้แล้ว และไม่ยอมให้ใช้ด้วย เริ่มติดเกม ติดเพศตรงข้าม เริ่มเที่ยว เอาเพศตรงข้ามมาเป็นสรณะของชีวิตแล้ว ซึ่งที่วัดเลี้ยงเด็กมา เด็กผู้หญิงหลายคนเรียนไม่จบ พอขึ้นมัธยมปี 3 เริ่มใจแตกแล้ว งานการไม่อยากทำแล้ว เอาผู้ชายเป็นเลขคณิตแล้ว

เรียกว่า คิดแบบชนิดที่เรียกภาษาหยาบๆ คืด กัดติด เริ่มมีอารมณ์ติดพันกับเพศตรงข้าม ใจไม่ได้จดจ่ออยู่กับงานแล้ว การเรียนไม่ค่อยดี การงานก็ไม่เอา บวกกับพ่อแม่จ่ายเงินให้ คิดว่า ลูกเรียนสูงขึ้นต้องจ่ายมากขึ้น ตอนอนุบาลให้ 10 บาท 20 บาท พอได้ ประถมให้ 30-40 พอขึ้นมัธยมให้เกือบ 100 บาท เรียบร้อยเลย ซื้อโน้น ซื้อนี่ ไปโน้น ไปนี่ แชทคุยโทรศัพท์ หนักๆเข้าก็เสียหาย เกิดความยุ่งยาก เกิดความลำบาก อย่างชนิดที่ไม่น่าจะเกิด

เพราะฉะนั้น การศึกษา ถ้าทำให้เด็กมีจิตใจจดจ่อกับงานไม่ได้ ไม่ชอบงาน ไม่รักงาน ลองปรับหลักสูตรชักหน่อยได้มั้ยว่า สอนยังไงให้เด็กรักงาน ให้เด็กรู้ว่า งาน คือ ชีวิต ทุกชีวิตอยู่ได้ด้วยงาน อวัยวะทุกส่วนมันทำงาน ตัวชีวิตยังอยู่ ตา ทำหน้าที่ดู หู ทำหน้าที่ฟัง จมูก ทำหน้าที่หายใจ มันไม่เคยบอกว่า ขอหยุด มันทำหน้าที่ของมันอยู่เรื่อยๆ ตัวชีวิตจึงอยู่ แต่ทีนี้เด็กไม่อยากทำหน้าที่ บิดมอเตอร์ไซต์ ซ้อนกันไป ซ้อนกันมา

เล่นเกมทั้งวัน คุยโทรศัพท์ดึกๆดื่นๆ ไม่หลับ ไม่นอน เช้าตื่นมาก็งัวเงีย ทำอะไรก็ไม่ได้ อันนี้แหละ ถ้าหลักสูตรไม่มีคำว่า เด็กรักงาน ทำยังไงให้เด็กเรียนแล้วเป็นปลวก เป็นมดงาน สร้างความยิ่งใหญ่เจริญให้ชาติบ้านเมืองได้อย่างเต็มที่ ตรงนี้แหละถึงจะเรียกกันว่า การศึกษาสร้างชาติ ถ้าคนไม่รักงาน ไม่สร้างงาน มันไม่มีทางที่จะสร้างบ้านเมืองให้เจริญ และถ้ามีคนทิ้งงานหรืออย่างที่เราเรียกกันว่า เกียร์ว่างกันเกินไปแล้ว

ทางราชการก็เหมือนกัน เขาก็เรียนจบกันมาทั้งนั้น แต่ทำไมเขาถึงไม่รู้ว่า การรักงาน การสร้างงานมันสุดยอดขอการได้ทำทุกอย่างให้มันเจริญ ให้มันดี ถ้าทุกคนทำหน้าที่ ไม่มีใครถูกลงโทษว่า ปล่อยปละละเลย เพิกเฉยต่อหน้าที่ แค่นี้แหละ บ้านเมืองไปรุ่ง ไปโลดแน่นอน

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login