วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2567

ม.มหิดลเร่งผลิตหุ่นยนต์แพทย์อัจฉริยะ DoctoSight ช่วยทีมบุคลากรทางการแพทย์

On April 28, 2020

ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ ยังคงเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย จากการกระจายตัวบุคลากรทางการแพทย์ในหลายพื้นที่ ทำให้อัตราส่วนจำนวนบุคลากรทางด้านการแพทย์ต่อประชากรทั้งหมดค่อนข้างต่ำ โดยเฉลี่ย 0.393 คน ต่อประชากร 1,000 คน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์วิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ย่อมต้องการนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาช่วยแบ่งเบาภาระทีมแพทย์ พยาบาล ตลอดจนมุ่งพัฒนายกระดับระบบสาธารณสุขของประเทศ

รองศาสตราจารย์ ดร.จักรกฤษณ์  ศุทธากรณ์  คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล  เปิดเผยว่า  ทีมนักวิจัยคณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้มีแนวคิดในการพัฒนาหุ่นยนต์ DoctoSight  โดยได้มีการพัฒนาออกมาหลายรุ่น  วัตถุประสงค์หลักคือการผลิตเพื่อช่วยทีมแพทย์  โดยมี 2 ประเด็นหลักใหญ่ๆ  ประเด็นแรกเป็นเรื่องของการสื่อสาร หรือเรียกว่าระบบโทรเวช (Telemedicine) คือ ให้หุ่นยนต์เป็นตัวกลางระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย และประเด็นที่สอง คือ เรื่องความสามารถในการขนย้าย ได้แก่ ยา และเวชภัณฑ์  ซึ่งสามารถส่งจาก ตึก/ห้องจ่ายยา ไปยังห้องผู้ป่วยได้  ลักษณะสำคัญที่ทางทีมงานได้พัฒนา คือ เรื่องของความฉลาดของตัวหุ่นยนต์  ระบบนำทาง และความสามารถในการสื่อสารกับผู้ใช้งาน  ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ ผู้ป่วย และพยาบาลที่ดูแล  และที่สำคัญ ตัวหุ่นยนต์ก่อนที่จะใช้งานจะมีการติดตั้งข้อมูล เช่น แผ่นที่ , เทคโนโลยีการเชื่อมโยงการเปิด- ประตู , การเข้าออก-ลิฟต์, การสั่งการลิฟต์จากชั้นหนึ่งไปอีกชั้นหนึ่ง   และสิ่งสำคัญที่สุดที่ทีมวิจัยได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง มา  3-4 รุ่น ในหลายปีที่ผ่านมา  คือการที่หุ่นยนต์จะต้องผ่านมาตรฐานในระบบสากล เช่น มาตรฐานการใช้งานที่เป็นหุ่นยนต์ทางการแพทย์ เรื่องของความปลอดภัยต่าง ๆ  ในภาวะปัจจุบันก็สามารถที่จะนำหุ่นยนต์ที่สำเร็จแล้ว ไปประยุกต์ใช้หรือเพิ่มจำนวนโดยการพัฒนาเพิ่มเติมขึ้นอีกหลายตัว  เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในเหตุการณ์ปัจจุบันเรื่อง โรค COVID-19 ได้

ดังนั้นลักษณะการทำงานของหุ่นยนต์และขั้นตอนการทำงานของหุ่นยนต์ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้พัฒนาขึ้น มี 2  ตัว โดยใช้ชื่อว่า  DoctoSight 1  และ DoctoSight

2

ตัวแรก หุ่นยนต์แพทย์อัฉริยะ DoctoSight 1

เป้าหมายหลักคือ การใช้หุ่นยนต์เพื่อทำงานผ่านระบบโทรเวช  (Telemedicine) จะช่วยให้แพทย์และบุคลากรไม่ต้องเข้าใกล้หรือสัมผัสผู้ป่วยโดยตรง จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ คือหุ่นยนต์จะทำงานร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญอาจจะอยู่ที่จุดจุดหนึ่ง อยู่ที่โรงพยาบาลใดโรงพยาบาลหนึ่ง  ต่างจังหวัดหรือต่างอำเภอ  โดยตัวหุ่นยนต์จะอยู่กับคนไข้  หุ่นยนต์จะถูกบุคลากรทางการแพทย์บังคับ  หรือสั่งการ โดยใช้รีโมท  หรืออีกลักษณะหนึ่งที่พิเศษ คือ หุ่นยนต์สามารถเคลื่อนที่หาตำแหน่งต่างๆ  หรือเข้าหาผู้ป่วยโดยอัตโนมัติ   หุ่นยนต์สามารถรับคำสั่งจากการสั่งการผ่านทางหน้าจอระบบสัมผัสให้ทำงานตามฟังก์ชันต่าง ๆ ได้  ตัวหุ่นยนต์จะวิ่งจากจุดที่ปลอดภัย  เช่น เมื่อบุคลากรทางการแพทย์สั่งการจากจุด ๆ หนึ่ง ตัวหุ่นยนต์จะใช้ระบบนำทาง ร่วมกับแผนที่ในตัวหุ่นยนต์  สั่งการให้หุ่นยนต์เคลื่อนที่หลบหลีกสิ่งกีดขวาง ไม่ว่าจะเป็นโถงทางเดินในโรงพยาบาลหรือบริเวณห้องผู้ป่วย โดยสามารถเคลื่อนที่ผ่านประตูอัตโนมัติเข้าไปเพื่อพูดคุยกับผู้ป่วยได้ บุคลากรทางการแพทย์ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล  สามารถคุยกับผู้ป่วยผ่านทางตัวของหุ่นยนต์  สำหรับ  DoctoSight 1  นั้นจะมีช่องเก็บของเล็กๆ ซึ่งสามารถใช้เก็บยาและเวชภัณฑ์ติดตัวไปได้

3

ตัวที่สอง หุ่นยนต์แพทย์อัจฉริยะ DoctoSight 2

เป็นหุ่นยนต์อัตโนมัติแบบนำพา คือบนตัวหุ่นยนต์จะมีบริเวณที่ใช้เป็นส่วนบรรทุกกล่องหรือระบบขนย้ายสิ่งของ ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้หลากหลายลักษณะ  เช่น ใช้ขนย้ายยาที่ต้องการใส่ในตู้เย็นที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิ หรือใช้ขนย้ายยาจากห้องจ่ายยาไปยังจุดต่าง ๆ ของโรงพยาบาล   หุ่นยนต์ทั้ง 2 แบบนี้ได้พัฒนาขึ้นมาบนพื้นฐานของการควบคุมทางไกลและสามารถทำงานด้วยตัวเองโดยอัตโนมัติตามแผนที่และระบบนำทางได้

4

รองศาสตราจารย์ ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์  กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “หุ่นยนต์ทั้ง 2 ตัวนี้ ได้มาตอบโจทย์ ในเรื่องโลจิสติกส์ และเรื่องการลดโอกาสการติดเชื้อจากผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี   ซึ่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้ผลิตหุ่นยนต์ที่เป็นต้นแบบรุ่นปัจจุบันสำเร็จแล้ว และในช่วง 3 เดือนต่อจากนี้ไป  จะผลิตหุ่นยนต์เพิ่มขึ้นอีกประมาณอย่างละ 5 ตัว เพื่อรองรับต่อสถานการณ์ปัจจุบัน  ทั้งนี้    ทีมนักวิจัยของคณะวิศวกรรมศาสตร์     ได้ทำงานร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล   คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ เพื่อการเตรียมพร้อมพัฒนาหุ่นยนต์ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว”

 


You must be logged in to post a comment Login