วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

มีสติสู้เฟกนิวส์

On February 5, 2020

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 5 ก.พ. 63)

ข่าวปลอมกำลังแพร่ระบาดให้คนเสพข่าวหลงทางได้ เพราะเป็นข่าวเทียม ข่าวเท็จ ข่าวลวง ข่าวหลอก ทำให้เกิดความสูญเสียทางสมองไปไม่ใช่น้อย นึกว่าจริงกลับไม่จริง เรียกว่าเฟกนิวส์ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องมาศึกษา เรียนรู้ ไม่อยู่กับข่าวลวง คิดว่าตัวเองรู้มากแล้ว โดยเฉพาะข่าวที่ชวนตระหนกตกใจว่าโรคร้าย โรคระบาดกำลังอาละวาด เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ส่งผลให้สูญเสียความสงบร่มเย็น มาตกอกตกใจ มาเกรงมากลัวว่าจะต้องถึงขั้นนั้นขั้นนี้

ที่จริงแล้วเรื่องไวรัสโคโรนาไม่มีอะไรมากมายถึงขั้นที่เรียกว่าต้องย้ายเมือง ปิดเมืองหนี แต่มาดูตรงตัวเลขถ้าเป็นจริงก็น่าดูเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเป็นข่าวลวงอีกหรือเปล่าว่าการท่องเที่ยวของเราสูญเสียรายได้ไปถึง 50,000 ล้านบาท เงิน 50,000 ล้านบาทนี่มาทำอะไรให้กับชาติบ้านเมืองจะได้ประโยชน์มากมายมหาศาล แต่มันสูญเสียไปอย่างน่าเสียดาย เรียกว่าเราพลาดโอกาสที่จะอยู่กับความเป็นจริง เสียโอกาสไปกับโรคร้าย

ก็หวังว่าอย่าให้เสียไปมากกว่านี้ ควรเสียอย่างที่เราต้องมีสติ ตั้งสติที่จะอยู่กับความสูญเสีย อย่าเสียใจ อย่าเสียขวัญมากมาย แม้เราจะเสียเศรษฐกิจไปบ้างก็ไม่ควรสูญเสียความสงบสุขของชีวิต ต้องทั้งท่า ตั้งสติให้ชีวิตเข้มแข็ง เขาบอกว่าเสียแล้วเสียไป หาใหม่ได้ ไม่ใช่เสียแล้วเสียใจจนความวอดวายตามมา คือล้มละลาย ฆ่าตัวตาย เศรษฐกิจเสียหาย

เราไม่ควรทำให้ชีวิตล่มสลายไปกับคำว่าสูญเสียเศรษฐกิจที่เกิดจากโรคภัยไข้เจ็บที่เข้ามา มันก็พูดยากเหมือนกันว่าจะมากมายขนาดนั้นเชียวหรือ 50,000 ล้านบาท เมื่อทัวร์จีนไม่มาพักโรงแรมก็แย่ เมื่อโรงแรมแย่พนักงานต่างๆที่อยู่ในโรงแรมจะทำอย่างไร คนที่เป็นเจ้าของโรงแรมก็ต้องช้ำ เพราะว่าจะจ่ายเงินได้ยังไงในเมื่อไม่มีแขกมาพัก แล้วพนักงานจะอยู่กันอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องหาทางประคับประคองกัน

ช่วงนี้รู้สึกว่ามีคนมาสมัครงานที่วัดสวนแก้วมากขึ้น วันหนึ่ง 4-5 คน 10 คน มากกว่าตอนยังไม่เกิดโรคภัยไข้เจ็บ ยังไม่เกิดเศรษฐกิจทรุดหนัก ไหนจะแล้งไปกับฝุ่นอีก เรียกว่าข่าวโรคไวรัสโคโรนามาบงการแล้ง ซึ่งที่จริงภัยแล้งนี่ พอมีโรคมาผสมโรงด้วย ก็ร้อนแล้ง แห้งเค็ม น้ำเค็มขึ้น เรียกว่าล้มระเนระนาด ต้นกล้าข้าวยืนต้นตาย ผลไม้ พืชผักต่างๆได้รับผลกระทบเช่นกัน

อาตมาหวังว่าคงเป็นไปสักระยะหนึ่ง เดี๋ยวก็ต้องดีกลับขึ้นมาบ้าง ไม่มีอะไรที่จะลงตะพึดตะพือไป อะไรที่มันลงได้ก็ขึ้นได้ และอะไรที่มันขึ้นได้ก็ลงได้เหมือนกัน ทำให้นึกถึงคุณศิริวัฒน์ แซนด์วิซ ตอนเศรษฐกิจแย่ ลูกน้องเขาก็ดี บอกว่าอย่าปิดบริษัท ช่วยกันลดเงินเดือนบ้าง มาช่วยกันทำงานเพิ่มวันอาทิตย์บ้าง 1-2 ปีคุณศิริวัฒน์ก็ฟื้นได้ ยังไงก็ต้องมีสักวันหนึ่งที่จะฟื้น ไม่มีวันฟุบไปตลอด

ที่น่าสงสารที่สุดก็คือเจ้าของโรงแรม มีแต่พนักงาน ไม่มีแขกมาพัก จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายพนักงาน ยังไงก็ขอให้กำลังใจให้สู้กันต่อไป อย่าเพิ่งคิดสั้น อย่าไปรมควัน ไปอบรมธรรมะกันซะบ้าง โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์นี้ ที่วัดจะจัดบรรยายธรรม อบรมธรรม ประพฤติปฏิบัติธรรม ขอให้มาพักจิตพักใจสู้เศรษฐกิจขาลง ให้สบายใจด้วยธรรม ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีแต่คุณธรรมดี จิตใจดี มันก็พออยู่ได้ แต่ถ้าจิตใจไม่ไหว รับไม่อยู่ จะไปรมควันตาย ขอให้มาอบรมธรรมแทนรมควันดีกว่า

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login