วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

งานแต่งงานของชาวอินเดียกับโอกาสทางธุรกิจที่ไม่อาจมองข้าม

On October 20, 2019

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีชาวอินเดียเดินทางมาจัดงานแต่งงานที่ประเทศไทยประมาณปีละ 300 คู่ ซึ่งในแต่ละครั้งจะมีผู้ไปร่วมงานแต่งงานเฉลี่ยประมาณ 200-500 คนต่องาน ส่งผลให้มีการใช้จ่ายต่อคู่แต่งงานประมาณ 5-10 ล้านบาท เกิดรายได้รวมประมาณ 1,500 – 3,000 ล้านบาท ตัวเลขเหล่านี้ทำให้งานแต่งงานของชาวอินเดียเป็นตลาดเฉพาะที่กำลังเติบโตและน่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการในไทยไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว อีเว้นต์ออร์แกไนเซอร์ การจัดดอกไม้ การแสดงโชว์ ของขวัญของชำร่วย เสื้อผ้าและเครื่องประดับ อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัว

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ หรือ DITP จึงได้จัดงานสัมมนาในหัวข้อ “สร้างสรรค์สินค้าอย่างไร ให้ตรงใจตลาดเฉพาะ :Indian Wedding” โดย ภาณุวัฒน์ จันทรจิตร ซึ่งมีประสบการณ์กับสังคมชาวอินเดียมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงนิวเดลีสาธารณรัฐอินเดียมากว่าสี่ปี งานสัมมนาจัดขึ้นที่โซน STYLE de Bangkok Hotel Showcase (HALL 102) โดยเป็นส่วนหนึ่งของงาน “STYLE Bangkok เดือนตุลาคม 2562” ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 17 ถึง 21 ตุลาคม 2562

4

ภาณุวัฒน์ได้กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญของการทำธุรกิจนี้ของผู้ประกอบการไทยคือ ต้องทำความรู้จักและเข้าใจรายละเอียดในเรื่องความเชื่อ และวัฒนธรรมของชาวอินเดีย ซึ่งมีความแตกต่างกันในแต่ละท้องถิ่น โดยเฉพาะต้องทำการบ้านอย่างหนักในประเพณีการแต่งงานของชาวอินเดีย ซึ่งมีรายละเอียดมากกว่างานแต่งงานของคนไทย และชาติอื่นๆ อย่างมาก

อดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงนิวเดลีได้เล่าเพิ่มเติมว่า  “จากประสบการณ์ที่ได้สัมผัสกับชาวอินเดียตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ประจำที่กรุงนิวเดลี สิ่งที่ชาวอินเดียให้ความสำคัญมากที่สุดสามเรื่องด้วยกัน คือ การเกิด การแต่งงาน และสุดท้ายช่วงสำคัญที่สุดคือการจากโลกนี้ไป การแต่งงานเป็นงานที่ชาวอินเดียใช้จ่ายเงินมากที่สุด เนื่องจากประเพณีงานแต่งงานของชาวอินเดียแตกต่างจากของไทยหรือประเทศอื่นๆ โดยจะใช้เวลาจัดประมาณ 3-7 วัน” คุณภาณุวัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ชาวอินเดียจึงยินดีที่จะใช้จ่ายเงินอย่างเต็มที่ในการจัดงานแต่งงานของตน ซึ่งโดยปกติ โดยจะมีช่วงเวลาที่ชาวอินเดียจะเข้ามามากในช่วงช่วงมกราคมถึงมีนาคม และอีกครั้งช่วงตุลาคมถึงพฤศจิกายน หลังออกพรรษาซึ่งคล้ายๆกับของคนไทยเช่นกัน”

2

“สิ่งสำคัญที่ได้รับฟังและชื่นชมคนไทยจากคนอินเดียคือ เขาประทับใจความมีมิตรจิตมิตรใจ ความมีน้ำใจของคนไทย กลุ่มลูกค้าชาวอินเดียเมื่อเขาจะจับจ่ายใช้สอยในสินค้าเขาไม่คำนึงถึงแค่ราคาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เขาจะดูว่าเป็นสิ่งที่ดีกับใจของเขาด้วยหรือเปล่า สินค้าบางทีเหมือนกับพรีเมียม แต่ถ้าทำให้เขารู้สึกได้ว่ามันดีต่อครอบครัวหรือคนที่เขารัก เขาพร้อมที่จะจ่าย เพราะฉะนั้นนี่คือโอกาสทางการค้าของเรา ซึ่งไม่ได้ขึ้นกับแค่ตัวสินค้า หรือดีไซน์อย่างเดียว แต่เป็นคุณค่าทางด้านจิตใจด้วยเช่นกัน”

งานแต่งงานถือเป็นงานที่สำคัญและมีความหมายสำหรับชาวอินเดีย เพราะถือเป็นการรวมกันระหว่างสองครอบครัวทั้งยังเป็นการเปลี่ยนสถานะก้าวสู่วัย “คฤหัสถ์” ซึ่งเป็นชีวิตขั้นที่ 2 ตามความเชื่อทางศาสนา ส่งผลให้งานแต่งงานชาวอินเดียมีพิธีกรรมหลายขั้นตอน รวมทั้งมีรายละเอียดและกิจกรรมงานรื่นเริงมากมาย ที่จะสานสัมพันธ์ของสองครอบครัวให้รวมเป็นหนึ่งเดียว

การจัดงานแต่ละครั้งมีระยะเวลา 3-7 วัน มีแขกเข้าร่วมงาน 200-500 คน ทั้งนี้ จำนวนวันและรูปแบบของงานขึ้นอยู่กับงบประมาณของคู่บ่าวสาว เริ่มตั้งแต่ 4 ล้านบาทไปจนถึงสิบล้านบาท (เฉลี่ยอยู่ที่ 10-50 ล้านบาทต่อคู่) กลุ่มคู่รักชาวอินเดียที่เดินทางเข้ามาจัดงานแต่งงานในประเทศไทย ถือเป็นกลุ่มตลาดที่มีศักยภาพ และกำลังซื้อสูง ทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประเทศไทยยังมีสมาคมส่งเสริมการแต่งงานอินเดียในประเทศไทย และอีเว้นท์ออร์แกไนเซอร์ที่มีประสบการณ์ในการจัดงานแต่งงานให้กับคู่บ่าวสาวอินเดีย ตามสถานที่ยอดนิยมของคนอินเดีย ไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เชียงใหม่ หัวหิน พัทยา และกระบี่

3

ภาณุวัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า คนอินเดียบางส่วนมีรายได้สูง หลายกลุ่มเหมาเครื่องบินเช่าเหมาลำมาจัดงานที่เมืองไทย ช่วงหลายปีที่ผ่านมาตัวเลขเฉลี่ยอยู่ที่ 300 คู่นั่นหมายถึงว่า 1คู่ มีเพื่อนฝูงญาติพี่น้องมาด้วย 400-500 คนต่อหนึ่งงาน นั่นคือคนอินเดียทีมีค่าใช้สอยเฉลี่ยต่อคู่ ประมาณ 5-10 ล้านบาท ถ้าตีมูลค่าตลาดรวมทั้งหมดประมาณ 1,500-3,000 ล้านบาท ต่อปี

“ถือเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการจากไทย ซึ่งถ้าจะให้มีการจับจ่ายใช้สอยจากคนอินเดีย ก็ต้องเข้าถึงดีไซน์และความเป็นอินเดีย ความวิ้งๆ ของคนอินเดีย เพราะคนอินเดียที่เข้ามาประเทศไทย หัวใจสำคัญคือ เขาต้องการคุณภาพ คุ้มกับราคาที่จ่ายไป ซึ่งสำคัญมากๆสำหรับตลาดอินเดีย”

เหตุผลที่คู่รักชาวอินเดียยกให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางการจัดงานแต่งงานคือ ความคุ้มค่าทั้งคุณภาพและราคา เนื่องจากการจัดงานแต่งงานในประเทศ โรงแรม 5 ดาวในประเทศอินเดียมีทางเลือกน้อยกว่า และถ้าจัดในอินเดียเองจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง นอกจากนี้ การเดินทางมาประเทศไทยจากอินเดียถือว่าสะดวก

เช่นจากกรุงนิวเดลีมากรุงเทพ ใช้เวลาเดินทางเพียงประมาณ 4 ชั่วโมง ซึ่งใกล้เคียงกับระยะทางจากนิวเดลีไปมุมไบ

ประเทศไทยเองมีภาพลักษณ์และความประณีตในการจัความโรแมนติกของสถานที่ ซึ่งเหมาะสมกับงานแต่งงานอินเดียที่ต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน มีรายละเอียดและเน้นความยิ่งใหญ่ มีการตกแต่งอย่างอลังการและตื่นตาตื่นใจ ซึ่งภาพลักษณ์ของงานแต่งงานที่จัดในไทยนั้นมีความสวยงามหรูหราตรงตามความต้องการของคู่บ่าวสาวเนื่องจากชาวไทยมีชื่อเสียงเรื่องรายละเอียดในการออกแบบและการตกแต่งที่ประณีต รวมถึงสามารถปรับประยุกต์รูปแบบได้อย่างหลากหลาย

5

นอกจากนี้ เมืองไทยยังเป็นสวรรค์ของการช้อปปิ้ง เนื่องจากงานแต่งงานของชาวอินเดียจะกินเวลา 3-7 วัน นอกจากคู่บ่าวสาวและครอบครัวทั้งสองฝ่าย แขกที่บินมาร่วมงานก็จะมีช่วงเวลาว่าง และจะออกไปท่องเที่ยว และช้อปปิ้ง จากข้อมูลทางสถิติพบว่า ในการท่องเที่ยวหนึ่งครั้งชาวอินเดียใช้เงินจับจ่ายซื้อสินค้าสูงถึงใน 1ใน 4 ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดซึ่งสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 2 เท่า

งานสัมมนาเรื่องเทรนด์งานแต่งงานของชาวอินเดียที่มาจัดขึ้นในประเทศไทยนี้เป็นหนึ่งในหลากหลายหัวข้อที่น่าสนใจ ที่จัดขึ้นตลอดระยะเวลาการจัดงาน ทั้งนี้พบกับงานสัมมนาอื่นๆที่น่าสนใจ ได้ที่  “STYLE Bangkok เดือนตุลาคม 2562” ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 21 ตุลาคม 2562


You must be logged in to post a comment Login