- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 3 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 3 months ago
- โลกธรรมPosted 3 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 3 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 3 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 3 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 3 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 3 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 3 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 3 months ago
“แอนิเทค”เปิดตัวปลั๊ก anitechIOT เจาะกลุ่มคนรักบ้านอัจฉริยะ

พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ ประเภทคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ ภายใต้แบรนด์ “แอนิเทค” (anitech)เปิดเผยว่า แนวความคิดเริ่มต้นของการออกแบบปลั๊กanitechIOT เกิดจากการนึกถึง Sunlight แสงอาทิตย์แรกยามเช้านั่นคือแสงแห่งชีวิตได้ตื่นขึ้นมาพบกับแสงวันใหม่พร้อมเติมเต็มพลังให้กับทุกๆชีวิตแอนิเทคจึงเลือกที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่ทรงพลังด้วยการผสานเอกลักษณ์ในเชิงวัฒนธรรมกับความร่วมสมัย สะท้อนความเป็นมืออาชีพ และมาตรฐานสากลเข้าด้วยกัน ภายใต้แนวความคิด “นวัตกรรมด้านการดีไซน์ผสานความเป็นไทย เพื่อคนไทย” จึงออกมาเป็นตัวปลั๊กล้ำสมัยอย่างanitech IOTเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความสุขคู่บ้านคุณอย่างแท้จริง
ในยุคปัจจุบันต้องยอมรับว่าเป็นยุคของIOT (Internet of Things) อินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบันด้วยการใช้เพียงอุปกรณ์เดียวก็สามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้หลากหลายแอนิเทคจึงได้พัฒนาระบบการเชื่อมต่อแอปพลิเคชันที่มีรูปแบบเรียบง่าย แต่มอบประสบการณ์ความสะดวกสบายสูงสุด เพื่อการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดขึ้นภายในบ้านอัจฉริยะโดยเทรนด์ของผู้บริโภคปัจจุบันการใช้งานแบบ IOT จะมีอยู่ 2 ปัจจัยที่ผลักดันให้เกิดการซื้อมากที่สุดร้อยละ 75 ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่ได้รับจากการใช้งาน ร้อยละ 68 เป็นการพิจารณาถึงประสิทธิภาพในการใช้งานที่คุ้มค่า เทรนด์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดที่มาพร้อมความปลอดภัยและขาดไม่ได้ในเรื่องของความสะดวกสบายซึ่งปลั๊ก anitech IOT คือคำตอบ
พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้แอนิเทคได้ทดลองพัฒนาปลั๊ก anitech IOT ในรุ่น H900 โดยใช้ทีมพัฒนาซอฟต์แวร์จากต่างประเทศ ภายหลังได้พบปัญหาการพัฒนาซอฟต์แวร์ไม่ต่อเนื่องจากทีมพัฒนา จึงตัดสินใจจัดตั้งทีมพัฒนาสินค้าขึ้นเองในปลั๊ก anitech IOT รุ่น H1000 ซึ่งออกแบบมาเป็น 4 Socketsปุ่มเปิด-ปิด เป็นแบบ Touch Screen ตอบโจทย์เรื่องดีไซน์ที่ทันสมัยเหมือนได้ฟังก์ชันเป็นของตกแต่งบ้านนอกจากความหรูหราสวยงามด้านฟังก์ชันการใช้งาน แบ่งออกเป็น 4 ฟังก์ชันได้แก่ 1.ฟังก์ชันการตั้งค่าการเปิด-ปิด,2. ฟังก์ชันการเปิด-ปิดล่วงหน้าโดยระบุวันและเวลาได้ 3.ฟังก์ชันการตั้งค่าเปิด-ปิดแถมตั้งเวลานับถอยหลัง และ 4.ฟังก์ชัน Power Consumption คือการแสดงค่าการใช้กำลังไฟฟ้าแบบ Real-Time พร้อมดูสถิติการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าย้อนหลังสูงสุดได้ถึง 3 เดือน ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านช่องทางแอปพลิเคชันanitech IOT Application บนสมาร์ทโฟนทั้งระบบ IOS และ Android เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะอยู่ภายในบ้านและนอกบ้านก็สามารถควบคุมได้
นอกจากนี้ แอปพลิเคชันยังถูกออกแบบUser Interfaceทั้งหมดด้วยทีมดีไซน์คนไทย รวมถึงการเขียนและวางโครงสร้างแอปพลิเคชันเป็นคนไทย Cloud Server ก็อยู่ในประเทศไทย ข้อดีคือเมื่อเกิดปัญหาในการใช้งาน ด้านการ Service จะง่ายต่อการแก้ไขและประสานงาน ซึ่งพูดได้เต็มปากว่านวัตกรรมโดยคนไทยเพื่อคนไทยในส่วนราคาของปลั๊ก anitech IOT เปิดตัวอยู่ที่ 2,590 บาท พร้อมการันตีด้วยวงเงินการรับประกันความเสียหายสูงสุด 5 แสนบาท นานถึง1 ปี ทั้งนี้ ในอนาคตแอนิเทคจะมีการพัฒนาปลั๊ก anitech IOT ให้มีระบบเซนเซอร์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้น อาทิเซนเซอร์วัดอุณหภูมิ การวัดแสง และการตรวจจับความเคลื่อนไหว มาเป็นข้อมูลใช้งานในการเปิด – ปิด ปลั๊กไฟเมื่อมีการเคลื่อนไหว ซึ่งลูกค้าสามารถกำหนดเงื่อนไขการทำงานได้อย่างอิสระมากขึ้น
โดยปัจจุบันแอนิเทคได้ต่อยอดพัฒนาในรูปแบบของ B2B ซึ่งสามารถเข้าถึงประเภทธุรกิจLogistics, Smart City, Retail, Factory, Food, Hospital, Smart BuildingโดยIOT Platform with Data Analyticsสามารถเก็บข้อมูลประเมินผลและวิเคราะห์ช่วยวางแผนแจ้งเตือนถึงความผิดปกติสามารถควบคุม ลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น, ลดปัญหาการทำงานที่ไม่จำเป็นลง, ได้ Data ที่สำคัญมาวิเคราะห์ธุรกิจ โดยทาง anitechได้ทำการทดสอบการทำงานกับ Partner ประเภทร้านอาหารที่มาสาขาทั่วประเทศ
นอกจากนี้เรายังมี Service level ตลอด 24 ชั่วโมง ต่อ 7 วัน ไม่มีวันหยุด Service Maintenance ระดับมืออาชีพ พร้อมบริการหลังการขายในการให้ข้อมูลคำแนะนำต่าง ๆ ในการใช้งานได้รวดเร็ว ซึ่งเรามีทีมพัฒนา App และ Firmware เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการใช้งานและทำการ Update ให้ผู้ใช้งานอยู่เสมอในส่วนของมาตรฐานทาง Cyber security มีการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสารหรือส่งข้อมูลระหว่าง Server กับแอปพลิเคชัน ซึ่งจะใช้การเข้ารหัส TLS 2048 บิต เป็นมาตรฐานของ Server สากล และ ส่วนของการ รับ-ส่ง ข้อมูลของตัวปลั๊กมีการตรวจสอบและระบุตัวตนของปลั๊กอย่างปลอดภัย ด้วยมาตรฐาน jwtecc256
การควบคุมด้วยคำสั่งเสียง และ data analytics dash board สำหรับ B2B เราจะพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับ B2B ให้สามารถแสดงข้อมูลต่าง ๆแบบ Real-time และเพิ่มการทำงานของ Sensor รูปแบบต่าง ๆ นำข้อมูลมาผ่านกระบวนการ Data Analytics โดยจะแสดงในรูปแบบ Dash Board เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบสถานะการพัฒนาในเวอร์ชั่นถัดไปของแอปพลิเคชันเราจะพัฒนาให้มีการควบคุมด้วยคำสั่งเสียง ผ่าน Google Home หรือ Amazon Alexa ได้ด้วย
ทั้งนี้ในส่วนภาพรวมของบริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด เมื่อปี2561ที่ผ่านมายอดขายในปี 2561 อยู่ที่ 330 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนชิ้นอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านชิ้น เติบโตจากปี 2560 อยู่ที่ 25% งบประมาณการตลาดปีนี้อยู่ที่ 45 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 10% ของรายได้ประมาณการณ์ในปีนี้ โดยงบประมาณในส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นในเรื่องของการพัฒนานวัตกรรมของสินค้าในครึ่งปีหลัง บุกตลาดปลั๊กanitechIOT หรือ เป็น Product Highlightและตั้งเป้ายอดขายปลายปี 2562ไม่ต่ำกว่า 450 ล้านบาท
You must be logged in to post a comment Login