วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ไม่มีเวลาฮันนีมูน

On June 18, 2019

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 18 มิ.ย.62)

ในโอกาสจะครบ 3 เดือนหลังการเลือกตั้ง ช่วงต้นสัปดาห์หน้าอาจเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เห็นโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศอย่างเป็นทางการ ในทางการเมืองคงต้องบอกว่ารัฐบาลใหม่ไม่มีเวลาฮันนีมูน เพราะปัญหารอเผชิญหน้าอยู่เพียบทั้งปัญหาบ้านเมืองและปัญหาการเมือง โดยเฉพาะปัญหาทางการเมืองที่อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ไม่ทันได้แก้ปัญหาบ้านเมืองก็ต้องม้วนเสื่อกลับบ้านไปเริ่มต้นกันใหม่ จะทันได้อยู่ทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 หรือไม่ายังไม่รู้เลย

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดหรือมีเหตุสำคัญจำเป็นทำให้ต้องเลื่อนอีก ภายในสัปดาห์หน้าน่าจะได้เห็นโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศอย่างเป็นทางการ

ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ส่งรายชื่อบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรีในส่วนของพรรคถึงมือ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว

การตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นตามข้อกำหนดของกฎหมายน่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะคนเหล่านี้ไม่ใช่พวกมือใหม่หัดเป็นรัฐมนตรี อะไรที่เป็นข้อจำกัดน่าจะขจัดไปเรียบร้อย

เมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง เมื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อแถลงนโยบายต่อที่ประชุมสภา จะเป็นการเริ่มต้นนับถอยหลังสำหรับรัฐบาล “ลุงตู่” อย่างแท้จริง

เบ็ดเสร็จใช้เวลากว่า 3 เดือนหลังการเลือกตั้งจึงได้รัฐบาลใหม่ (หน้าเก่า) เข้ามาบริหารประเทศ ถือว่ายาวนานที่สุดครั้งหนึ่งของการเมืองไทย

คงต้องบอกว่ารัฐบาล “ลุงตู่” ไม่มีเวลาฮันนีมูน เพราะมีหลายเรื่องที่รอท้าทายความแข็งแกร่งของรัฐบาลทั้งในและนอกสภา

ในสภานั้นแน่นอนว่าจะต้องเจอการซักฟอกจาก 7 พรรคฝ่ายค้านอย่างหนักหน่วง เริ่มตั้งแต่การแถลงนโยบาย ต่อด้วยร่างกฎหมายงบประมาณที่ครั้งนี้จะไม่ง่ายเหมือนกับเสนอกฎหมายงบประมาณช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ที่พูดอยู่ข้างเดียว แถลงเสร็จบางครั้งก็มีผู้อภิปรายเชียร์นิดหน่อยแล้วยกมือให้ผ่าน

แต่ครั้งนี้ไม่ง่าย ดีไม่ดีเจอฝ่ายค้านจัดหนักอภิปราย 3 วัน 3 คืน แถมผ่านความเห็นชอบไปแล้วก็ต้องไปปวดหัวในชั้นคณะกรรมาธิการที่เชื่อว่าฝ่ายค้านจ้องปรับลดหลายรายการ อะไรที่วางไว้อาจไม่เป็นไปตามคาด เงินอาจผ่านมือแบบติดๆขัดๆ ไม่ไหลลื่นเหมือนที่เคยเป็นมา

ส่วนศึกนอกสภาด่านแรกต้องรอลุ้นกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความคุณสมบัติ ส.ส.ฝั่งรัฐบาล 41 ราย ที่มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนแจ้งวัตถุประสงค์ทำธุรกิจสื่อ

กรณีนี้ต้องลุ้นว่าจะเข้าตำราหมองูตายเพราะงูหรือไม่ เพราะได้ใช้กรณีเดียวกันนี้เล่นงานนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามอย่างหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติการทำหน้าที่จนกว่าจะมีคำตัดสิน

อย่างไรก็ตาม กรณีนี้เป็นความเหมือนที่แตกต่าง

กรณีหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่นั้นถือหุ้นในบริษัทที่ผลิตสื่อจริง แม้จะเลิกทำสื่อก่อนการเลือกตั้ง 2 ปี แต่ยังไม่ได้จดแจ้งเลิกกิจการอย่างเป็นทางการ ซึ่งหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ต่อสู้ในประเด็นว่าโอนหุ้นให้คนอื่นไปแล้วก่อนที่จะยื่นสมัคร ส.ส.

ขณะที่กรณีของ ส.ส. สังกัดพรรคร่วมรัฐบาลเป็นแค่การถือหุ้นในบริษัทที่แจ้งเรื่องการทำสื่อเอาไว้เป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์ของการก่อตั้ง เกือบทั้งหมดทำธุรกิจอื่น ไม่ได้ผลิตสื่อจริง

แต่ที่เป็นประเด็นขึ้นมาเพราะมีศาลอื่นตัดสินเป็นแนวทางไปแล้วว่าเป็นความผิดขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งขณะนี้ ส.ส. สังกัดพรรคร่วมรัฐบาลก็จะเอาคืน ใช้ประเด็นเดียวกัน ช่องทางเดียวกัน ยื่นตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ส. สังกัดพรรคการเมืองฝ่ายค้านด้วย

เข้าตำราให้ตายตกไปตามกัน ถ้าพวกข้าผิดพวกเอ็งก็ต้องผิดด้วย

บางทีอายุของรัฐบาลนี้อาจจะสั้น อยู่ไม่ถึงได้ทำงบประมาณประจำปีเหมือนอย่างที่คอการเมืองบางคนทำนายไว้ก็เป็นได้


You must be logged in to post a comment Login