วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ชง อย.ไฟเขียวปลูกกัญชา3พันต้นคาดปลายก.ค.ลงมือ

On June 8, 2019

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมด้วย นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ผศ.พาวิน มโนชัย รักษาการแทนรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ ดร.สุรพล ใจวงศ์ษา รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ล้านนา ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือและพัฒนาสายพันธุ์กัญชาและกัญชงเพื่อใช้ทางการแพทย์

นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมฯ ห่วงว่าจะมีสารสกัดกัญชาที่ได้มาตรฐานไม่พอใช้ ซึ่งส่วนใหญ่ที่ใช้อยู่กันคือน้ำมันกัญชาใต้ดินที่ไม่มั่นใจว่าได้มาตรฐานหรือไม่เป็นเหตุให้พบผู้ป่วยเข้ารพ.จำนวนหนึ่ง ดังนั้นจึงต้องทำให้มีคนปลูกกัญชาที่ได้มาตรฐานเพิ่มขึ้น มีการสกัดที่ได้มาตรฐาน จึงนำมาสู่การลงนามความร่วมมือแบบครบวงจรระหว่างม.แม่โจ้ และ มทร.ล้านนา มี อภ.เป็นผู้ผลิต โดยกรมฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบกระบวนการขออนุญาตทั้งการปลูก ผลิต และใช้ ต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และคณะกรรมการยาเสพติด คาดว่าจะยื่นได้ใน มิ.ย.นี้ และน่าจะได้รับการอนุมัติปลายเดือน ก.ค.ก็จะเริ่มปลูกได้ การปลูกจะเน้นสายพันธุ์ไทย อย่างไรก็ตาม ย้ำอย่าใช้น้ำมันกัญชามั่ว หากต้องการใช้ให้ปรึกษาแพทย์ได้ทุกท่านไม่ว่าจะผ่านการอบรมแล้วหรือไม่ก็ตาม หากแพทย์ยังไม่ผ่านการอบรม แต่เห็นว่าผู้ป่วยจำเป็นต้องใช้ก็จะส่งต่อให้แพทย์ที่ผ่านการอบรมการใช้กัญชาทางการแพทย์เอง ซึ่งประมาณวันที่ 18 มิ.ย.นี้เราจะอบรมแพทย์ เภสัชกรในรพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไปได้ครบทุกแห่ง

นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า อภ.มีหน้าที่พัฒนาสารสกัดให้เป็นไปตามความต้องการ เพียงพอ และทันเวลา จึงได้ลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และมทร.ล้านนา และ 13 มิ.ย.นี้จะลงนามเพิ่มเติมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตสกลนครเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังเตรียมหาพาร์ทเนอร์รายอื่นๆ อีก โดยขณะนี้เตรียมประกาศมาตรฐานการรับซื้อช่อดอกกัญชาแห้งทางการแพทย์เร็วๆ นี้ ซึ่งคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ขาย จะถูกต้องตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 ผ่านมาตรฐาน อย. มีใบอนุญาตถูกต้อง สายพันธุ์ที่ปลูกต้องเป็นไปตามสูตรตำรับที่ต้องการ ซึ่งจะมีการผลิตสารสกัดกัญชา 3 สูตร คือ สูตรทีเอซีสูง สูตรซีบีดีสูง และสูตรอัตราส่วน 1:1 มาตรฐานการปลูกต้องไม่ต่ำกว่ามาตรฐานจีเอพี (GAP) มีการตรวจประเมินระหว่างปลูก มีการควบคุมคุณภาพ ไม่มีสารตกค้างต่างๆ ส่วนราคารับซื้อเป็นตามกลไกตลาดจึงยังบอกไม่ได้ แต่เมื่อต้นปีราคาในต่างประเทศกัญชาแห้งเกรดพรีเมี่ยมเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 7 หมื่น-1 แสนบาท

ศ.ดร.อานัฐ ตันโช ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยแม่โจ้มีฟาร์มกลางป่า 907 ไร่ มีการรักษาความปลอดภัยอย่างดี ยังเหลือเรื่องการล้อมรั้วซึ่งคาดว่าไม่นาน สำหรับการปลูกกัญชาจะมีแบบปลูกในโรงเรือนหรือกรีนเฮาส์ขนาด 3,000 ตารางเมตร สามารถปลูกได้ 2,600 ต้น ส่วนพื้นที่กลางแจ้งปลูกได้ 13,000 ต้น และยังมีพื้นที่ที่สามารถเพาะกล้ากัญชาได้อีกประมาณ 100,000 ต้น หากได้รับอนุญาตแล้วจะลงมือเพาะต้นกล้ากัญชาสายพันธุ์ไทย และเลือกเอาเฉพาะกัญชาตัวเมียไปปลูก นอกจากนี้ ในพื้นที่ยังอาคารเก็บผลผลิต มีระบบห้องเย็น ประตูเข้าออกเป็นระบบสแกน การปลูกใช้ระบบเกษตรอินทรีย์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานทั้งหมด มีระบบควบคุมสมาร์ทฟาร์ม และมีระบบการตรวจสอบสารเคมีได้ทุกชนิดยกเว้นโครเมียม เช่นเดียวกับกัญชง ซึ่งเป็นสารที่มีซีบีดีสูงแต่กฎหมายยังอนุญาตให้ใช้เฉพาะเส้นใน ดังนั้นหากปลดล็อคก็จะสามารถนำมาสกัดซีบีดีได้ หรือเอามาใช้ในห้องแลปได้

ดร.สุรพล กล่าวว่า มทร.ล้านนามีความพร้อมทั้งโรงเรือนและกลางแจ้ง โดยมีพื้นที่ 2,200 ตารางเมตรในโรงเรือน และกลางแจ้งอีก มากกว่า 300 ไร่ ถ้าปรับปรุงสภาพด้านความปลอดภัย ก็พร้อมปลูกได้ โดยพันธุ์ที่ปลูกจะเน้นพันธุ์ไทยที่ อภ.ใช้ประโยชน์ได้

ด้าน นพ.อิสระ เจียวิริยบุญญา ผอ.รพ.มะเร็งอุดรธานี กล่าวว่า จากการคำนวณอย่างเร็ว คร่าวๆ กัญชา 3,000 ต้น จะสามารถนำมาสกัดเป็นสารตั้งต้นได้ 300 ลิตร เมื่อทำให้เจือจางเป็นผลิตภัณฑ์ในอัตราส่วน 1:3 ก็จะได้น้ำมันกัญชาประมาณ 900 ลิตรหรือ 9 แสนมิลลิลิตร (ซีซี) ถ้าแบ่งขวดละ 10 ซีซี ก็จะได้ถึง 9 หมื่นขวด ซึ่งก็จะทำทั้ง 3 ตำรับ คือ สูตรซีบีดีสูง ทีเอชซีสูง และสูตร 1:1 ซึ่งจะมีเทคนิคในทางเภสัชกรรม โดยทุกขวดจะต้องได้สารสำคัญเท่ากัน คือ 1 มิลลิลิตร มีสารสำคัญ 20 มิลลิกรัม ส่วนจะมีซีบีดี ทีเอชซีเท่าไรก็แล้วแต่สูตร เช่น สูตรหนึ่งต่อหนึ่ง ซีบีดีต้องมี 10 มิลลิกรัม และทีเอชซี 10 มิลลิกรัม ใน 1 มิลลิลิตร หากทีเอชซีสูง ก็จะมีค่าได้ตั้งแต่ 15-18 มิลลิกรัม ที่เหลือเป็นซีบีดี หรือสูตรซีบีดีสูง ก็ต้องมีซีบีดีตั้งแต่ 15-20 มิลลิกรัม ทีเอชซีมีตั้งแต่ 0-5 มิลลิกรัม เป็นต้น เมื่อนำมาใช้ น้ำมันกัญชา 1 หยดจะต้องมีสารสำคัญ 1 มิลลิกรัม จะทำให้คนไข้ไม่เกิดปัญหาเข้าห้องฉุกเฉินจากการใช้มากเกินไป สำหรับการสกัดกัญชาสายพันธุ์ไทยที่มีสารทีเอชซีสูงนั้น พบว่าบางสายพันธุ์สกัดด้วยแอลกอฮอล์จะได้ทีเอชซีร้อยละ 30  ซีบีดี 1 ใน 6 อหากใช้คาร์บอนไดออกไซด์สกัดจะได้ทีเอชซีร้อยละ 60 แต่เชื่อว่าทั้งสองมหาวิทยาลัยจะพัฒนาสายพันธุ์ไทยให้มีซีบีดีสูงได้ แต่ต้องใช้เวลาประมาณ 6-7 รอบการปลูก ซึ่งแต่ละรอบใช้เวลา 3-4 เดือน


You must be logged in to post a comment Login