วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

มงคลกิตติ์ เร่ง สมคิด ในฐานะ รักษาการ รมว.อุดมศึกษาฯ

On May 14, 2019

มอบอำนาจ เลขาฯสกอ. ขับเคลื่อนงานประจำ – งานพัฒนาการศึกษา ของมหาวิทยาลัยทั่วประเทศโดยด่วน หลัง 3 รมต.ศธ. ชิงลาออก ทำให้งานหยุดชะงัก

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึง นโยบายของรัฐบาลในการแยกมหาวิทยาลัยออกมาจากกระทรวงศึกษาธิการมาสังกัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมว่า ถือเป็นนโยบายที่ดีมากของรัฐบาล เพราะจะทำให้ประเทศไทยมีงานวิจัยเชิงพาณิชย์และงานวิจัยเพื่อชุมชนและสังคมร่วมกับภาคเอกชนมากขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศไทยได้พัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อการแข่งขันกับประเทศต่างๆ ได้
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า แต่วันนี้ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริหารมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ทั้งรัฐ-เอกชน ว่าตั้งแต่แยก สกอ.มาสังกัด กระทรวงอุดมศึกษาฯ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2562 และต่อมาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 รัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการ ทั้งหมด 3 ราย ลาออกจากตำแหน่งทั้งหมด จึงทำให้เกิดสุญญากาศในการบริหารการศึกษา ดังนั้นตนมีความเห็นว่า เมื่อรัฐบาลมีกฎหมายให้มหาวิทยาลัยต่างๆย้ายไปอยู่กระทรวงอุดมศึกษาฯแต่ยังไม่มีการออกคำสั่งมอบอำนาจแต่งตั้งผู้ทำหน้าที่รับผิดชอบงานสำคัญของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา จึงทำให้ขณะนี้งานด้านการบริหารการศึกษาและ งานด้านการบริหารบุคคลต่างๆ ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หยุดชะงัก และงานของมหาวิทยาลัยต่างๆที่ส่งเรื่องมาขออนุมัติที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เป็นจำนวนมากมีการหยุดชะงักและล่าช้าอย่างมาก เพราะ ศาสตราจารย์สัมพันธ์ ฤทธิเดช ซึ่งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ยังไม่กล้าลงนามในคำสั่งต่างๆ ทุกเรื่อง บางเรื่องก็ล่าช้ามาเป็นเดือน แล้ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการศึกษาด้านอุดมศึกษาของประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการเสนออนุมัติหลักสูตรการเรียนการสอน การเสนอรายชื่อผู้บริหารมหาวิทยาลัยไปโปรดเกล้าฯ งานประกันคุณภาพการศึกษา งานสอบสวนด้านกฎหมาย เป็นต้น หยุดชะงักหมด ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อการจัดการศึกษาด้านอุดมศึกษาของประเทศ

ดังนั้น ตนขอเรียกร้องให้ ขณะนี้ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รักษาการ รมว.กระทรวงศึกษาธิการและรักษาการ รมว.กระทรวงอุดมศึกษาฯ จึงจำเป็นต้องเร่งแต่งตั้งผู้รับผิดชอบงานของกระทรวงอุดมศึกษาฯ โดยเฉพาะผู้รับผิดชอบงานในส่วนของมหาวิทยาลัยต่างๆในช่วงนี้ไปพลางก่อนโดยเร็ว ก่อนจะมี รมว.อุดมศึกษาฯ จาก คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 เดือน ก็จะทำให้งานของอุดมศึกษาสามารถขับเคลื่อนไปได้เพื่อประโยชน์ด้านการศึกษาและการวิจัยของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล


You must be logged in to post a comment Login