วันพฤหัสที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

“ธนาธร”ไม่กังวลถูกสอบเพิ่มถือหุ้นสื่อ13บริษัท

On May 10, 2019

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค เดินทางมารับใบรับรองความเป็น ส.ส. จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

โดยนายธนาธร กล่าวขอบคุณประชาชนที่เลือกพรรคอนาคตใหม่ให้เข้ามาเป็นตัวแทนทำหน้าที่ในสภา โดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่อวดเบ่ง รวมถึงจะไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่นด้วย

นายธนาธร ยังกล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาล ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รวบรวมเสียงข้างมากเกินครึ่งในสภาได้ เพราะในขณะนี้เสียงพรรคพลังประชารัฐกับอีก 2 พรรคการเมืองที่ประกาศสนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีคะแนนเสียงเพียงแค่ 115 + 5 + 1 รวมเป็น 121 เสียงเท่านั้น แม้จะไปรวมกับเสียง ส.ว. จำนวน 250 เสียง ก็ยังไม่ถึง 376 เสียงที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ดังนั้นข้อเสนอของพรรคอนาคตใหม่ ที่เสนอให้พรรคการเมืองที่เคยประกาศต่อต้านการสืบทอดอำนาจร่วมกันปิดสวิตช์ ส.ว. จึงเป็นแนวทางที่เป็นไปได้ และอยากให้ประชาชนตรวจสอบพรรคการเมืองเหล่านี้ด้วยว่าปฏิบัติตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนหรือไม่ ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับพรรคการเมืองต่างๆ โดยขอไม่เปิดเผยรายละเอียด แต่เชื่อว่าจะมีบทสรุปที่ชัดเจนก่อนการประชุมสภานัดแรกอย่างแน่นอน พร้อมทั้งยืนยันสัตยาบันที่ 7 พรรคการเมืองทำร่วมกันในการคัดค้านการสืบทอดอำนาจ และมั่นใจว่าไม่มีลูกพรรคอนาคตใหม่ออกนอกแถวไปสนับสนุนขั้วการเมืองของพรรคพลังประชารัฐ โดยไม่ได้มีการให้ ส.ส.ของพรรคเขียนใบลาออกไว้ล่วงหน้า เพราะพรรคอนาคตใหม่ร้อยรัดกันด้วยอุดมการณ์ อีกทั้งไม่ปฏิเสธแนวทางที่จะเกิดขั้วการเมืองที่ 3 แต่ในขณะนี้ยังไม่มุ่งเน้นเรื่องการตั้งรัฐบาล ขอเดินหน้าสกัดการสืบทอดอำนาจก่อน และยังเชื่อว่าเป็นไปได้

นายธนาธร ยังกล่าวถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นร้อง กกต.ให้ตรวจสอบหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนประกอบกิจการสื่อเพิ่มอีก 13 บริษัท ว่า ไม่มีความกังวลใจใดๆ เพราะได้ดำเนินการทุกอย่างครบถ้วนตามกฎหมาย ตั้งแต่ก่อนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีการโอนหุ้นทั้งหมดในวันที่ 8 มกราคม 2562 ซึ่งเป็นวันเดียวกับการโอนหุ้น บริษัท วีลัค มีเดีย

ด้านนายปิยบุตร กล่าวว่า ยืนยันว่ามีพรรคการเมืองพยายามทาบทามติดต่อ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ตามข่าวจริง โดยมี ส.ส.ของพรรคหลายคนบอก และหากมีการทาบทามต่อเนื่องและมีความพยายามที่จะใช้วิธีดึง ส.ส. เราอาจจะนำหลักฐานการทาบทามมาเปิดเผย แต่ยืนยันว่า ส.ส.ที่ถูกทาบทามทุกคน จะไม่ไปแน่นอน

“สิ่งที่เรากำลังพูดคุยกันอยู่ เรากำลังพุ่งตรงไปที่การหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. ไม่ได้พูดกันถึงการจัดตั้งรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด หากทุกพรรคการเมืองที่เคยได้หาเสียงเอาไว้ว่าไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. วันนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะพิสูจน์สิ่งที่หาเสียงไว้กับประชาชน พรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่าพร้อมที่จะพูดคุยกับทุกพรรคที่ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช.เพื่อมาตัดสินใจร่วมกันในการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. โดยใช้สูตรการปิดสวิตช์ ส.ว. ร่วมกันนำทหารออกจากการเมืองไทย” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร ยังกล่าวถึงกรณีการตรวจสอบเรื่องหุ้นของนายธนาธร ว่า นักการเมืองถือเป็นบุคคลสาธารณะ แต่เมื่อตรวจสอบแล้ว ไม่พบความผิด ก็ขอแสดงความรับผิดชอบกับความผิดพลาดนั้นด้วย รวมทั้งสำนักข่าวที่ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ขออย่าเสียเวลาเจาะข่าว เพราะหากอยากดูข้อมูล ทางพรรคก็สามารถนำข้อมูลมาเปิดเผยได้ จึงอย่าเสียเวลาตรวจสอบ ควรตรวจสอบเรื่องที่สำคัญ เช่น ตรวจสอบว่า ส.ว. 250 คน เป็นใครมาจากไหนบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายธนาธร นายปิยบุตร และ น.ส.พรรณิการ์ เข้ารับหนังสือรับรอง ส.ส.จาก กกต.แล้ว และสื่อมวลชนขอให้ชูหนังสือรับรองเพื่อบันทึกภาพ แต่ทั้ง 3 คนได้ปฏิเสธ โดยนายธนาธร กล่าวว่า กระบวนการดังกล่าวเป็นการทำให้ครบถ้วนตามกฎหมายเท่านั้น แต่ความศักดิ์สิทธิ์ของการเป็น ส.ส.เกิดขึ้น ตั้งแต่ประชาชนเลือกตั้งเข้ามา ไม่ใช่เกิดจากการรับรองของ กกต. จึงไม่ขอแสดงเอกสารดังกล่าว

“การมารับหนังสือรับรอง ส.ส. ถือเป็นกระบวนการเอกสารตามกฏหมายเท่านั้น แท้จริงแล้วความศักดิ์สิทธิ์ของการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เกิดขึ้นเมี่อประชาชนเลือกเราเข้ามาเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ไม่ใช่เกิดจากการที่ กกต.ให้การรับรอง เรามาจากการเลือกตั้งของประชาชน ไม่ได้มาจากการรับรองของ กกต.” นายธนาธร กล่าว


You must be logged in to post a comment Login