วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

พีอาร์หลายคนบ่น

On May 9, 2019

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด

ผู้เขียน : นายหัวดี

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 9 พ.ค. 62)

เป็นเรื่องปรกติที่รัฐบาลทหารจะต้องทบทวนประกาศและคำสั่งต่างๆที่ใช้ “อำนาจรัฏฐาธิปัตย์” ซึ่งมีถึง 456 ฉบับ โดยจำนวนหนึ่งต้องยกเลิกและจำนวนหนึ่งต้องทำเป็นกฎหมายถาวร ก่อนหน้านี้ภาคประชาชนและนักวิชาการได้รณรงค์ให้ลบล้าง “มรดกรัฐประหาร” โดยเฉพาะที่ขัดสิทธิเสรีภาพและสิทธิความเป็นมนุษย์ ซึ่งมีกฎหมายหลายฉบับถูกต่อต้าน

ขณะที่อีกกระแสที่มาแรงในสัปดาห์นี้คือการประกาศชื่อ “ส.ว.ลากตั้ง” ทำให้มีบุคคลในคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยื่นใบลาออกเพื่อเตรียมรับตำแหน่ง ส.ว. ซึ่ง “หัวหน้า คสช.” จะเลือกจำนวนในสัดส่วน 194 คน จากทั้งหมด 250 คน

“ส.ว.ลากตั้ง” ชุดนี้จะอยู่ในตำแหน่งนานถึง 5 ปี และมีอำนาจในการโหวต “นายกรัฐมนตรีคนนอก” อีกด้วย ทำให้ “ส.ว.ลากตั้ง” ถูกมองว่าเป็นการปูทางเพื่อ “สืบทอดอำนาจ”

ยิ่งผลการเลือกตั้งมีเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลที่ก้ำกึ่งกัน จึงทำให้การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจากบัญชีรายชื่อที่ต้องได้อย่างน้อย 375 เสียงเป็นไปได้ยาก “ส.ว.ลากตั้ง” จึงจะเป็นตัวแปรสำคัญในการโหวต “นายกฯคนนอก”

การแต่งตั้ง “ส.ว.ลากตั้ง” จึงมีความสำคัญอย่างมากกับการจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งฝ่ายสนับสนุน “การสืบทอดอำนาจ” ก็อ้างว่าต้องเคารพกฎเกณฑ์กติกาคามรัฐธรรมนูญ

ยิ่งกระแสข่าวระบุว่า “ส.ว.ลากตั้ง” จะเป็นคนหน้าเดิมๆที่เคยร่วมงานกับคณะรัฐประหาร รวมถึงญาติพี่น้องและคนใกล้ชิด “ผู้มีอำนาจ” ก็ยิ่งถูกตั้งคำถามว่ามี “ความชอบธรรม” และ “ความสง่างาม” หรือไม่ โดยเฉพาะ “ผู้นำรัฐบาล”

ผลพวงจากการรัฐประหารมีมากมาย ไม่ว่าการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม งบประมาณแผ่นดินถูกปู้ยี่ปู้ยำไปมากมายมหาศาลและตรวจสอบไม่ได้ เฉพาะพวกที่ได้รับการแต่งตั้งใน “สภาลากตั้ง” นับตั้งแต่รัฐประหารปี 2549 จนปัจจุบัน มีการประเมินว่าคนที่ได้รับการแต่งตั้งมาตลอดรับเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชนกว่า 24 ล้านบาท

ส่วน “ส.ว.ลากตั้ง” ที่มีวาระ 5 ปี คนหนึ่งจะได้รับเงินเดือนจากภาษีประชาชนกว่า 17 ล้านบาท ยังไม่รวมเบี้ยเลี้ยงและสวัสดิการต่างๆอีกมากมาย

จึงไม่แปลกหาก “ส.ว.ลากตั้ง” จะ “เลือกข้าง (เผด็จการ)”!!??

 

 


You must be logged in to post a comment Login