“เพื่อไทย”จี้กกต.ปมสูตรคำนวณส.ส.ต้องได้คะแนนถึงมีส.ส.

On May 7, 2019

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) แกนนำพรรค พท. อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯของพรรค และนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรค ร่วมแถลงถึงท่าทีของพรรค พท.ต่อการคัดเลือก ส.ว.และการคิดคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

โดยนายชูศักดิ์กล่าวว่า วันนี้ (7 พฤษภาคม) เราได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นรายบุคคล เพื่อให้ กกต.ทั้งหมดรับรู้และรับทราบความเห็นของพรรค พท. โดยหนังสือที่ส่งให้ กกต.วันนี้จะอ้างอิงหนังสือของพรรคที่เคยส่งไปแล้วเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา โดยจะเน้นย้ำสูตรการคำนวณ ส.ส.ที่พรรคและนักวิชาการต่างๆ ใช้คิดคำนวณตรงกัน ซึ่งหนังสือที่ส่งไปเราได้เน้นย้ำเพิ่มเติมใน 2 ประเด็น คือ 1.พรรค พท.ยืนยันว่าวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 และ พ.ร.บ.ประกอบและรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 ปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนไม่สามารถแปลความเป็นอย่างอื่นได้นอกจากว่า พรรคการเมืองที่จะได้รับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะต้องได้รับคะแนนไม่ต่ำกว่าคะแนนเสียง ส.ส.พึงมี และ 2.ถ้าพรรคการเมืองใดไม่มีคะแนนถึงจำนวนคะแนนพึงมีจะไม่ได้รับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ดังนั้น หาก กกต.ดำเนินการใดๆ ที่เกินเลย หรือไม่เป็นไปตามที่ได้เรียนไปแล้วท่านต้องรับผิดชอบในการดำเนินการดังกล่าว
นายชูศักดิ์กล่าวอีกว่า ประเด็นต่อมาคือกรณีที่มีข่าวว่าผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีหนังสือไปถึงศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญเรื่องกระบวรการสรรหา ส.ว. เรื่องนี้พรรคเคยทำหนังสือถึงประธาน กกต.ไปแล้ว เมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา เมื่อบัดนี้มีข่าวเกิดขึ้นว่ามีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว พรรค พท.จึงขอย้ำว่าเราได้เคยมีหนังสือทักท้วงไปแล้ว ขอให้ กกต.นำเรื่องนี้มาพิจารณาโดยด่วนต่อไป

เมื่อถามว่า มองอย่างไรกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ลาออกไปเป็น ส.ว. นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าทำไมกฎหมายรัฐธรรมนูญจึงเขียนให้คณะกรรมการสรรหา ส.ว.เป็นกลางทางการเมือง นั่นเพราะผู้ร่างต้องการได้ ส.ว.ที่เป็นกลางอย่างแท้จริง แต่ประธานคณะกรรมการสรรหา ส.ว.คือรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นหนึ่งใน คสช. ดังนั้น กระบวนการสรรหาดังกล่าวกลับไปการสืบทอดอำนาจ อยากได้คนจำนวนหนึ่งเข้ามาทำหน้าที่เลือกนายกฯ ร่วมกับ ส.ส.ในสภา ก็เหมือนอย่างที่เคยพูดไปว่าเป็นการชงเองกินเอง

ด้านนายภูมิธรรม กล่าวว่า เราไม่อยากเห็นประเทศเดินไปในทิศทางที่ไปขึ้นอยู่กับประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือกลุ่มบุคคลใดกลุ่มบุคคลหนึ่งโดยใช้อำนาจที่ตัวเองมีไปผลักดันให้เกิดประโยชน์แก่ฝ่ายตน โดยเรื่อง ส.ว.กฎหมายได้กำหนดไว้ชัดเจน ดังนั้นเราจึงไม่เห็นด้วยที่จะมีใครมากำหนดองค์ประกอบของ ส.ว.โดยไม่ทำตามกฎหมาย เพื่อให้คนหรือพรรคพวกของตนสามารถมากำหนดทิศทางประเทศให้เป็นไปในทิศทางที่ตนเองปรารถนา ซึ่งเราอยากให้ยึดมั่นในดุลยพินิจของพี่น้องประชาชนที่เขาได้แสดงออกในการเลือกตั้งที่ผ่านมา วันนี้รัฐบาลทำอะไรไม่โปร่งใส แม้กระทั่งการกำหนดตัวคณะกรรมการในการพิจารณาคัดเลือก ส.ว.ที่ควรจะมีความชัดเจนก็ไม่ทำ อ้ำอึ้งจนทำให้เกิดความคลางแคลงใจ เราเพียงอยากเห็นทุกอย่างเดินไปตามครรลอง เพราะการเดินไปตามครรลองจะเป็นทิศทางที่เป็นทางออกของประเทศได้

เมื่อถามถึงความชัดเจนของจำนวน ส.ส.ในฟากของพรรคที่ร่วมลงสัตยาบันไป นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตนยังเชื่อมั่นในการจับมือกันของพรรคฝ่ายประชาธิปไตยที่อยากจะร่วมมือกันทำประเทศให้หลุดพ้นออกจากกลุ่มของปัญหาที่มีอยู่ และป้องกันการสืบทอดอำนาจ ไม่ให้มีบุคคลใดพยายามสืบทอดอำนาจต่อไป ซึ่งสิ่งที่เราจะต้องสู้นี้ เป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนทั้งหมดจะต้องช่วยกันจับตาดู ขออย่าให้มีใคร หรือฝ่ายใดใช้เงินตรา หรือกระบวนการนอกระบบไปสร้างงูเห่าให้เกิดขึ้นในการเมืองของประเทศไทย เพราะถือเป็นความอัปยศ และเป็นการทำร้ายประเทศอย่างรุนแรงที่สุด ทั้งนี้ เอาที่เราได้เจอกันและคุยกัน พรรคการเมืองที่จับมือร่วมกัน และอยากจะเดินต่อไปอย่างมั่นคงแข็งแรง

Featured