“ศรีสุวรรณ”แฉว่าที่ส.ส.อนาคตใหม่6-7รายถือครองหุ้นสื่อ

On April 22, 2019

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าให้ถ้อยคำเจ้าหน้าที่คณะกรรมการสืบสวน ไต่สวน และวินิจฉัย สำนักงาน กกต. กรณีที่สมาคมร้องเรียนว่านางเบญญา นันทขว้าง ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค รปช. โพสต์ข้อความและปราศรัยหาเสียงว่า “หากเลือกพรรคตระกูลเพื่อ ก็จะไปจบที่ราชดำเนิน” ซึ่งสื่อให้เห็นถึงการชุมนุมประท้วงบนถนนราชดำเนินที่ไม่เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย แสดงให้เห็นว่าผู้สมัครและผู้ร่วมก่อตั้งพรรค รปช. ไม่มีเจตจำนงที่จะรักษาระบอบประชาธิปไตย ไม่เคารพสิทธิของประชาชน ไม่สมควรที่จะมีพรรคการเมืองเช่นนี้อีกต่อไป จึงขอให้ กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการกระทำดังกล่าวเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขหรือไม่ หากเข้าข่ายความผิดขอให้ศาลสั่งยุบพรรค รปช.

นายศรีสุวรรณยังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กกต. ทำหนังสือเชิญตนเข้าให้ถ้อยคำประกอบคำร้องเมื่อเวลา 10.00 น. กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ขาดคุณสมบัติเนื่องจากถือครองหุ้นสื่อ บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด แต่ตนต้องไปชี้แจงศาลปกครองกรณีไต่สวนฉุกเฉินเรื่องค่ารถเมล์ จึงต้องรอให้คณะอนุกรรมการไต่สวนทำหนังสือเชิญตนมาอีกครั้ง ที่มีกระแสข่าวว่า กกต. จะสรุปผลการไต่สวนหุ้นของนายธนาธรในวันนี้จึงยังทำไม่ได้ เพราะต้องรอให้ตนในฐานะผู้ร้องเข้าให้ถ้อยคำก่อน

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า ส่วนกรณีที่ทนายความของนายธนาธรอ้างว่าในวันที่ 8 มกราคม นายธนาธรนั่งรถกลับจากบุรีรัมย์มากรุงเทพฯเพื่อเซ็นโอนหุ้นก็เป็นข้อเท็จจริงที่จะนำมากล่าวอ้าง แต่ขึ้นอยู่กับน้ำหนักความน่าเชื่อถือ เพราะคำกล่าวอ้างใครๆก็สามารถอ้างได้ ประเด็นสำคัญคือเอกสารหลักฐานที่จะต้องนำมาแสดงเพื่อให้ กกต. นำไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ทราบมาว่ากรณีหุ้นของนายธนาธรเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ กกต. จึงตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนชุดใหญ่ขึ้นมาเพื่อรวบรวมคำร้องทั้งหมดมารวมพิจารณาเป็นเรื่องเดียว

“สำหรับพรรคอนาคตใหม่คงไม่ได้มีแค่นายธนาธรที่ถูกตรวจสอบเรื่องการถือครองหุ้นสื่อ เพราะเท่าที่ตรวจสอบจากกรมทะเบียนธุรกิจการค้าพบว่ามีว่าที่ ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ 6-7 ราย ที่ถือครองหุ้นสื่อ กรณีดังกล่าวกฎหมายได้เขียนเอาไว้ชัดว่า แม้จะเป็นบริษัทที่ไม่เคยประกอบธุรกิจด้านสื่อสารมวลชน แต่หากจดทะเบียนครอบคลุมกิจการด้านสื่อเอาไว้ก็อยู่ในข่ายขาดคุณสมบัติสมัคร ส.ส. ได้ โดยคาดว่าเร็วๆนี้จะสามารถรวบรวมหลักฐานนำมายื่นให้ กกต. พิจารณา”

นายศรีสุวรรณกล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดโผเศรษฐีเอเชียลำดับต้นๆว่า เรื่องนี้ตนอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม เพราะเท่าที่มีข้อมูลปรากฏตามสื่อยังไม่เพียงพอต่อการทำเป็นคำร้อง ดังนั้น หากใครมีหลักฐาน โดยเฉพาะเรื่องเงินฝาก 3,000 ล้านเหรียญสิงคโปร์ ขอให้ช่วยส่งมายังตนเพื่อยกร่างคำร้องให้มีการตรวจสอบอย่างจริงจัง

Featured