รัฐเล็งปรับสวัสดิการให้ดีขึ้นรองรับสังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบในปี64

On April 12, 2019

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 13 เม.ย.ของทุกปี ถือเป็นวันผู้สูงอายุและวันที่ 14 เม.ย. เป็นวันครอบครัว ซึ่งการที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) กำหนดให้มี 2 วันดังกล่าวเป็นเพราะต้องการให้ประชาชนได้กราบไหว้ผู้สูงอายุ และอยู่กับครอบครัวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อย่างไรก็ตาม ในปี 2562 ประเทศไทยมีผู้สูงอายุประมาณ 13 ล้านคน คิดเป็น 17 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่าในปี 2564 จะมีผู้สูงอายุเพิ่มเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้สังคมไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยเหตุนี้ในช่วงปลายปี 2561 รัฐบาลจึงมีมติเพิ่มสวัสดิการให้ผู้สูงอายุประมาณ 10 เรื่อง อาทิ การปรับปรุงเรื่องสวัสดิการต่างๆ การก่อตั้งธนาคารเวลาที่ดำเนินการไปแล้วใน 28 จังหวัด เพื่อให้ผู้สูงอายุมีผู้ดูแล และยังจะจูงใจให้คนในวัยทำงานเตรียมตัวเข้าสู่การเป็นผู้สูงอายุ การจัดทำที่พักซีเนียร์คอมเพล็กซ์ที่มีทั้งสถานพยาบาลและที่พักให้แก่ผู้สูงอายุ ซึ่งได้มีการเริ่มต้นแล้วที่ จ.ชลบุรี จากนั้นจะผลักดันให้เกิดขึ้นที่จังหวัดอื่นๆต่อไป นอกจากนี้ยังผลักดันให้ประชาชนรู้จักการออม ต้องมีเงินเพียงพอในการดำเนินชีวิตไม่ใช่จนก่อนแก่ ทั้งนี้จากการติดตามโครงการต่างๆพบว่ามีความคืบหน้าไปได้ด้วยดี

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการสำรวจเรื่องเบี้ยผู้สูงอายุหรือไม่ว่าเพียงพอต่อความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุในปัจจุบันหรือไม่ พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลกำหนดให้เบี้ยผู้สูงอายุแบบขั้นบันได ซึ่งจากการสำรวจ พบว่าจำนวนที่ผู้สูงอายุได้สามารถช่วยเหลือทางด้านความเป็นอยู่ได้พอสมควร เมื่อถามว่ารัฐบาลมีแนวคิดที่จะเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุให้อีกหรือไม่ พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดที่จะเพิ่ม แต่นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงผู้สูงอายุโดยเฉพาะเรากำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ จึงต้องการให้ปรับการดูแลผู้สูงอายุให้ดียิ่งขึ้น

Featured