วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

“สมชัย”ชี้สูตรคำนวณส.ส.ต้องยึดม.91(4)มี14พรรคได้ปาร์ตี้ลิสต์

On April 8, 2019

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร พรรค ปชป. แถลงถึงสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อโดยไล่เรียงการคำนวณตามกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 ตั้งแต่ (1) ถึง (7) มาแจกแจงวิธีการคำนวณอย่างละเอียดต่อสื่อมวลชนว่า เราต้องพิจารณากฎหมาย 2 ฉบับคือ รัฐธรรมนูญมาตรา 91 และกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 โดยสิ่งที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. กำหนดไม่ได้มีปัญหา เนื่องจากสามารถถอดค่าและนำมาคำนวณได้ แต่สูตรที่ตนคำนวณแตกต่างจากผลลัพธ์ที่ กกต. ออกมาชี้แจงก่อนหน้านี้ว่าจะมีพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 25 พรรคที่ได้รับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในขณะที่สูตรของตนจะมีพรรคการเมืองได้รับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 16 พรรค เนื่องจากต้องตัดพรรคเพื่อไทยที่ได้ ส.ส.เขต 137 คน เกินกว่าจำนวน ส.ส. พึงมี 111 คน ทำให้ไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และตัดพรรคประชาชาติออก เนื่องจากได้จำนวน ส.ส. พึงมีที่ 6.8316 คน และได้ ส.ส.เขตมาแล้ว 6 คน ทำให้เศษที่เหลือสำหรับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ถึง 1 คน จึงต้องตัดทิ้ง เท่ากับเหลือพรรคการเมืองที่จะได้รับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 14 พรรคการเมือง ซึ่งจะต้องนำมาปรับอัตราส่วนใหม่ให้รวมแล้วได้ 150 คน ตามที่กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 กำหนดไว้

โดย ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ทั้ง 14 พรรคจะได้รับมีรายละเอียดดังนี้ พรรคพลังประชารัฐได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 21 คน พรรคอนาคตใหม่ 56 คน พรรคประชาธิปัตย์ 22 คน พรรคภูมิใจไทย 13 คน พรรคเสรีรวมไทย 11 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 5 คน พรรคเศรษฐกิจใหม่ 6 คน พรรคเพื่อชาติ 5 คน พรรครวมพลังประชาชาติไทย 4 คน พรรคชาติพัฒนา 2 คน พรรคพลังท้องถิ่นไท 2 คน พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 1 คน พรรคพลังปวงชนไทย 1 คน และพรรคพลังชาติไทย 1 คน

นายสมชัยกล่าวว่า ส่วน 58 พรรคเล็กที่ไม่ได้รับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะเป็นไปตามที่กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 (5) กำหนดว่า การจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อต้องไม่มีผลให้พรรคการเมืองใดมี ส.ส. เกินจำนวนที่จะพึงมีได้ ซึ่งเป็นข้อความเดียวกับที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 91 (4) เนื่องจากทั้ง 58 พรรคได้คะแนนน้อยกว่าค่าเฉลี่ยประชากร 71,057.4980 จึงต้องตัดทิ้งไปตั้งแต่แรก อย่างไรก็ตาม จะนำสูตรคำนวณของตนจัดทำเป็นลายลักษณ์อักษรส่งให้ กกต. อย่างเป็นทางการภายในสัปดาห์นี้ และอยากให้ กกต. ดูข้อความในกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 (5 ) ที่กำหนดว่าไม่ทำให้พรรคการเมืองมี ส.ส. เกินกว่าจำนวนที่พึงมีให้ดีๆว่าแปลว่าอะไร ซึ่งขณะนี้ยังมีเวลาอีกหนึ่งเดือนกว่าจะถึงวันที่ 9 พฤษภาคมที่ กกต. จะต้องประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการร้อยละ 95 จึงอยากให้ กกต. จัดเวทีรับฟังความเห็นจากหลายฝ่าย ทั้งนักกฎหมาย นักคณิตศาสตร์ หรือจะเชิญตนก็ยินดี และสุดท้ายเมื่อได้รับข้อมูลครบถ้วนค่อยตัดสินใจว่าสูตรที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร

“ผมขอให้ กกต. เอาการติดยึดกับประโยคที่บอกว่าถูกแล้วออกไปจากหัวก่อน ไม่อยากให้ กกต. ติดยึดสิ่งที่เคยเผยแพร่ไป ควรเปิดกว้างรับฟังก่อน ไม่มีใครกดดัน กกต. ท่านต้องตัดสินใจเองว่าจะเลือกใช้สูตรใดในการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตัวเองด้วย เพราะหากคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อผิดก็ถือว่าบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ แต่เป็นการบกพร่องเจตนาหรือไม่เจตนาต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริง หากบกพร่องโดยตั้งใจทั้งๆที่สังคมพยายามสะท้อนถึง กกต. แล้วก็ต้องรับผลที่ตามมาด้วย อย่างไรก็ตาม หากมีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อผิดพลาดก็ไม่ส่งผลให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ เพราะสามารถแก้ไขผลลัพธ์ให้ถูกต้องได้ ส่วนข้อเสนอให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น เห็นว่าก่อนวันที่ 9 พฤษภาคมไม่มีช่องทางที่จะส่งศาลรัฐธรรมนูญได้ กกต. จึงต้องตัดสินใจเอง ผมอยากให้ กกต. ยึดหลักไม่มีเขา ไม่มีเรา ไม่มีหน้าตาที่ต้องเสีย แต่ต้องให้ประเทศชาติเดินต่อไปได้ อย่าติดยึดเรื่องการเสียหน้า เมื่อผิดก็แก้ไข เชื่อว่าสังคมเข้าใจ” นายสมชัยกล่าว


You must be logged in to post a comment Login