วันพฤหัสที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ภาวะความเป็นผู้นำ

On February 8, 2019

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 8 ก.พ. 62)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผลการดำเนินงานปีที่ 4 ของรัฐบาล และพูดถึงอนาคตทางการเมืองว่า จะไม่ลาออกจากตำแหน่ง ไม่ว่าจะอยู่ในบัญชีว่าที่นายกฯของพรรคการเมืองหรือไม่ ไม่ว่าระบอบประชาธิปไตยหรือสังคมนิยม เมื่อมีการเลือกตั้ง ผู้นำรัฐบาลก็ไม่มีใครลาออก รัฐธรรมนูญไทยตั้งแต่ปี 2475 ถึงปัจจุบันก็ไม่ได้กำหนดว่าต้องลาออก

แต่ที่เป็นข่าวไปทั่วคือ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า แม้แต่ 4 รัฐมนตรีก็ไม่จำเป็นต้องลาออก แต่ขอออกเองเพื่อไปทำงานการเมือง จึงอย่าไปไล่ล่ากันมากนัก ไล่ทั้งรัฐมนตรี ไล่ทั้งนายกฯ และหลุดคำว่า “มึงมาไล่ดูสิ” ไล่ก็ไม่ออก ไม่ได้ท้าทาย แต่ไม่ออก

คำว่า “มึงมาไล่ดูสิ” จึงดังไปทั่ว โดยเฉพาะโลกออนไลน์มีการโพสต์และวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ทวิตเตอร์พุ่งเป็นอันดับหนึ่งในไทย แม้ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์จะขอโทษ แต่ก็จะเป็นคำพูดที่หยิบยกมาใช้ทางการเมืองเพื่อต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ว่าไม่สมควรเป็นผู้นำ

ถ้า พล.อ.ประยุทธ์จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง คำพูดต่างๆที่ไม่เหมาะสม ไม่สุภาพ หรือก้าวร้าวรุนแรง ก็จะถูกนำมาใช้ในสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะการอภิปรายในสภา ซึ่งจะพิสูจน์ความอดทนอดกลั้นของ พล.อ.ประยุทธ์ว่ามีมากน้อยแค่ไหน ยิ่งไม่เปลี่ยนพฤติกรรมหรือใช้คำพูดฉุนเฉียวแบบเดิมก็จะยิ่งถูกนำมาโจมตี ซึ่งจะไม่มีอำนาจรัฐประหารมาเป็นเครื่องมือ การอยู่ในตำแหน่งจึงไม่ง่าย

เรื่องคำพูด เรื่องความอดทน ถือเป็นเรื่องสำคัญของคนเป็นผู้นำรัฐบาล ไม่ใช่ไม่พอใจอะไรก็พูดได้ตามใจ หรือใช้อารมณ์ ซึ่งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์หลุดคำพูดแบบนี้หลายครั้ง สื่อก็เอามาเขียน ในโซเชียลมีเดียก็เอามาเยาะเย้ยถากถางต่างๆนานา

การควบคุมอารมณ์หรือคำพูดเป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งเป็นผู้นำประเทศยิ่งต้องมีมากกว่าคนทั่วไป เพราะอาจส่งผลกระทบทั้งตัวเองและประเทศชาติได้ คนธรรมดาสามัญคุมอารมณ์ไม่อยู่ หลุดโน่นหลุดนี่ถือเป็นเรื่องปรกติ แต่ผู้นำประเทศถือว่าไม่ปรกติและไม่ควรเกิด ผู้นำต้องมีความหนักแน่นเยือกเย็น ก็หวังว่าการกระทำหรือคำพูดที่ไม่เหมาะสมต่างๆจะไม่เกิดขึ้นอีก เพียงแค่มีสติก่อนเท่านั้น

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login