วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

นายกฯขู่ใช้ยาแรงหากยังแก้ปัญหาฝุ่นละอองไม่ได้ลั่นจัดการควันดำเด็ดขาด

On January 31, 2019

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงปัญหาวิกฤตฝุ่นละอองในพื้นที่ กทม. และ 5 จังหวัดรอบ กทม. ว่า ต้องเร่งดำเนินการ เพราะเป็นเรื่องการเผาพืช ขยะ และขยะที่เป็นพิษ ส่วนที่หนักที่สุดคือยานพาหนะเกือบทั้งหมด วันนี้ก็มีการเสนอให้ยกเลิกรถที่วิ่งแล้ว 10 ปี แต่ต้องดูบริบทของประเทศไทยด้วย รัฐบาลก็ค่อยๆแก้ ถ้าแก้โครมเดียวก็เดือดร้อนกันทั้งหมด ใครยอมไหม ไม่ใช้รถทั้งหมด เพราะปัญหามาจากรถมากที่สุด วันนี้ก็แก้ปัญหาตรวจรถวันละ 8-9 พันคัน เขาติดสติ๊กเกอร์แล้ว คันไหนห้ามวิ่งไม่วิ่ง หลายคนบอกดีแต่พ่นน้ำ ไม่เคยดูเลย คนเขาทำงานแทบตายก็ไม่อยากทำแล้ว ที่ควันดำก็จอดหมดแล้ว ตอนนี้รถที่มาจากต่างจังหวัดก็ตั้งด่านตรวจ 6 ด้านรอบกรุงเทพฯ

“ที่สำคัญมีการนำเอาปัญหาฝุ่นผงมาเล่นการเมือง บอกผมสวดมนต์ ผมนี่นะ ทำเป็นแค่นั้นเหรอ ถ้ายังเป็นกันอยู่อย่างนี้ก็จะเดือดร้อนกัน วันนี้ต้องปิดโรงเรียนก็ปิดไป ก็โอเค ทุกคนบอกต้องปิดก็ปิด ควรปิดตั้งนานแล้ว ฉันล่ะก็เบื่อใจจริงๆ การจะปิดไม่ปิดต้องดูว่าควรหรือไม่ควร ถึงเวลาหรือยัง บางคนบอกไอเป็นเลือดแล้ว ผมก็ถามโรงพยาบาลว่าไอเป็นเลือดเพราะฝุ่นเยอะใช่ไหม เขาก็ตอบไม่ชัด ส่วนใหญ่ที่ไอกันอยู่และไอมากๆ ที่เป็นปัญหาก็จะไข้หวัดใหญ่ ผมก็ไม่รู้มันมาจากอะไรกันแน่ แต่โอเคมันมีพิษมีภัยแน่นอน PM2.5”

นายกฯกล่าวอีกว่า ที่ปิดโรงเรียนเพราะเด็กมีภูมิต้านทานต่ำ ไม่เหมือนผู้ใหญ่ ตนก็เหมือนกัน ทนมาถึงวันนี้ 65 ปีแล้ว แค่นี้ก็เก่งแล้ว เพราะฉะนั้นเด็กต้องดูแลเขาก่อน ดู 2 วันจะได้เรื่องไหม เพราะต้องการให้เด็กที่มีภูมิต้านทานต่ำเขาปลอดภัยก่อน

“หลายคนก็ออกมาคาดจมูกแถลง โธ่ ไม่ต้องออกมาคาดจมูกแถลงสร้างภาพอย่างนั้นหรอก ไม่ต้อง ถ้าท่านมาแล้วท่านจะทำอะไรได้บ้าง เสนอมาสิ วันนี้เสนอมา ท่านก็ลองเลือกไปแล้วกัน เสนอมาแต่ละอย่าง ผมก็มีเหมือนที่เขามี แต่ผมจะใช้ได้อย่างไร นั่นคือสิ่งที่ผมต้องคิด จะห้ามรถอย่างไร จะห้ามรถวันคี่ยอมไหมล่ะ ไอ้คนมีรถคันเดียวก็บอกเห็นแก่ตัว เพราะผมคนจนมีรถคันเดียว แต่คนรวยประกาศได้ มีรถ 2 คัน จะห้ามรถไม่ให้เข้าได้ไหม ให้ใช้รถขนส่งมวลชนแล้วใช้กันไหม ทุกคนมีปัญหาหมด ในฐานะเป็นรัฐบาลผมมีประชาธิปไตยเต็มที่ นึกถึงคนทุกคน จะประกาศหรือสั่งอะไรไปก็ต้องระมัดระวังมากที่สุด แต่ทุกอย่างกฎหมายปรกติมีอยู่แล้ว ทำกฎหมายปรกติให้เข้มงวดขึ้น อะไรที่สามารถควบคุมโรงงาน ควบคุมต่างๆ รวมถึงการเผาวัชพืชในที่โล่งมีทุกตัว ต้องเข้มงวดตรงนี้ให้ได้แล้วดูซิมันจะลดไหม ถ้ายังไม่ลดเดี๋ยวต้องหามาตรการที่ 2 และมาตรการที่ 3”

นายกฯกล่าวว่า ขณะนี้เราทำมาตรการที่ 1 กับที่ 2 อยู่ เดี๋ยวถ้ามีมาตรการที่ 3 ขึ้นมาจะยิ่งกว่านี้ ถ้ามันยังแก้ไขไม่ได้ เพราะบางพื้นที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรม เขาก็ไปวัดดูแล้ว ก็ไม่ได้มากมาย และส่วนใหญ่ก็ต่ำกว่าเกณฑ์ แต่ปัญหาเกิดจากการสะสมในส่วนที่ลอยมา ต่างประเทศก็ประสานไป ซึ่งจากรอบบ้านก็สำรวจแล้วมันพัดออกนอกอีกทางนึง ไม่ได้เข้ากรุงเทพฯ ไม่ได้เข้าประเทศไทย ฟังตรงนี้บ้าง แต่ทั้งหมดใครเป็นคนทำ ตนก็ทำเพราะตนนั่งรถ ทุกคนร่วมกันทำหมด ฝุ่นผงที่ว่านี้ลดลงได้ไหม เอาไหม วันหน้ารัฐบาล นายกรัฐมนตรีเดินมาทำงาน เอาไหม ท่านมาจากจังหวัดไหนเดินมา หรือไม่ใช้รถส่วนตัวเลย ใช้รถร่วมบริการอย่างเดียว ก็ได้ เดี๋ยวมาตรการที่ 3-4 ออกมา ใช้รถวันคี่วันคู่ ห้ามรถตรงนี้ตรงนั้น ตนถามจะไปมากันอย่างไรก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้เพียงแต่ให้รถมีสมรรถนะที่ดี อะไรลดได้ลด หรือขึ้นรถไฟฟ้าบ้างรถเมล์บ้าง ซึ่งรถเมล์ก็ต้องเปลี่ยน หลายคนบอกให้เปลี่ยนเป็นรถเมล์ NGV แล้วมันคันละเท่าไร รถเมล์มีเกือบหมื่นคันทั้งของรัฐและของเอกชน เอาแค่เปลี่ยน 5-6 พันคัน คันละ 3.5 ล้าน ใช้เงินเท่าไร และพร้อมจะเปลี่ยนไหม ต้องดูเครื่องยนต์ดูความสะอาด รถควันดำวิ่งไม่ได้โดยเด็ดขาด ถ้ายังดื้ออยู่พ่นสีลงไปเลย กากบาทไปเลยหัวท้ายรถ ติดสติ๊กเกอร์ก็ลอกออกได้อีก ทุกรถ รถนายกฯก็ต้องพ่นถ้าควันดำ ทุกคนจะได้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหานี้ ไม่ใช่อะไรรัฐบาลก็ต้องแก้ รัฐบาลมีอย่างเดียวคือบังคับใช้กฎหมาย และมันก็แรงขึ้นๆ พอใช้ไม่ได้ขึ้นมากฎหมายเสียอีก เหมือนกฎหมายจราจรที่เสียหมดทุกอัน เพราะกฎหมายเขียนถึงคนส่วนรวม ทุกคนจึงต้องปฏิบัติ ไม่มีกฎหมายไหนที่เขียนเฉพาะคน ไปเขียนกันใครไม่ได้ นั่นคือประชาธิปไตย เหมือนที่ท่านต้องการกันอยู่วันนี้

ต่อมานายกฯได้ให้สัมภาษณ์ว่า การหยุดโรงเรียนเพื่อดูแลเด็กที่ภูมิต้านทานต่ำ สิ่งที่ตามมาคือชั่วโมงเรียนลดลง ต้องหาชั่วโมงเรียนเพิ่มให้ไม่อย่างนั้นจะมีผลต่อการเรียนของเด็กนักเรียน ดังนั้น จะสั่งอะไรต้องคิดให้ถี่ถ้วน และเมื่อถึงเวลาก็ทำ วันนี้รถที่ติดควันดำก็มีสติ๊กเกอร์ติดไม่ใช่โพสต์กันไปโดยที่ไม่รู้เรื่องราว เขาก็ปฏิบัติกันลำบาก คงอาจไม่ต้องถึงขั้นไปพ่นสีบนรถ เสียหาย วันนี้ถ้าเห็นรถควันดำใส่มาในโซเชียลมีเดียก็ได้ เดี๋ยวตนไปเปิดเจอเอง ตนก็สั่งหน่วยงานเข้าไปดูทำไมถึงยังวิ่ง ซึ่งสั่งดำเนินการไปหลายคันแล้ว ต้องดูปัญหาจากตรงไหน ไม่ใช่พูดกันไปเรื่อยเปื่อยกระทบกระทั่งกันไปหมด กลายเป็นปัญหาการเมืองไปอีก

นายกฯกล่าวว่า วันนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และกรมควบคุมมลพิษ ตรวจสอบโรงงานพบบางที่เป็นควันขนาดใหญ่แต่ไม่ใช่ PM2.5 ที่ทำให้เกิด PM2.5 มีเพียงไม่กี่โรงงาน ขณะที่ในถนนบางที่ก็ไม่เกิน แต่เมื่อไปตรวจใต้สะพาน ตรวจถนนด้านล่าง เกิดจากการลอยต่ำมาอยู่ข้างล่าง ดังนั้น มาแน่นอนจากรถ จากการจราจรที่สำคัญ ถ้าให้ใช้รถประจำทางก็บอกไม่เพียงพอ รถไฟฟ้าก็ยังไม่เสร็จ ถ้าหยุดทุกอันรถก็ใช้อยู่อย่างนี้ ปริมาณ PM2.5 ก็เป็นอยู่แบบนี้ ดังนั้น ทุกอย่างต้องเป็นความร่วมมือของเรากับประชาชน ลองเสนอมาอยากให้ตนทำอะไร แต่ต้องคิดให้ถี่ถ้วนว่าทำแบบนี้แล้วจะเสียอะไรหรือใครเดือดร้อนบ้าง รัฐบาลคิด 2 ทางเสมอ และคำนึงถึงประชาชนเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเมื่อไรก็ตามมีปัญหามากๆ ถึงเวลานั้นต้องประกาศสถานการณ์ใหม่ เดี๋ยวจะมีการประชุมร่วมกัน

โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะกำกับดูแลกรมควบคุมมลพิษ รวบรวมมาตรการที่ 1-3 และถ้าเป็นมาตรการที่ 4 จะยกระดับเป็นภัยพิบัติขึ้นมาทันที ต้องการให้ถึงขนาดนั้นไหม ถ้าเราเกินไปอาจจะมีผลเสียต่อการท่องเที่ยวด้วย สุขภาพสำคัญที่สุด แต่ต้องคำนึงถึงอย่างอื่นด้วย การที่ออกมาพูดอะไรเป็นประเด็นการเมืองตนก็เบื่อหน่าย เพราะไม่ใช่เพิ่งมีปัญหาในเวลานี้ มีมาทุกปี แต่รัฐบาลนี้ให้ทุกคนรับทราบว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยแจ้ง พอมีตัวเลขให้เห็นก็ตกใจ ตื่นตระหนก เมื่อถามว่าแพทยสมาคมระบุการสูบบุหรี่ส่งผลให้เกิดปัญหามากกว่าโรงงานกับรถยนต์ดีเซลนั้น นายกฯกล่าวว่า ตอนนี้ลดสูบบุหรี่ไปแล้ว ผู้สูบบุหรี่ใหม่ลดลงไหม คุณไปห้ามเขาสูบบุหรี่เลยได้ไหม ในพื้นที่สาธารณะห้ามสูบอยู่แล้ว กฎหมายมี คุณก็ช่วยไปเตือนให้ช่วยลดการสูบบุหรี่ ช่วยกันลด 2.5 ดูสิเขาจะว่าอย่างไร วันนี้ผู้ผลิตยาสูบก็เดือดร้อน ทำอะไรก็มีผลกระทบอีกอย่างเสมอ รัฐบาลคิดแก้ปัญหาข้างใดข้างหนึ่งไม่ได้จะทะเลาะเบาะแว้งกันเยอะ


You must be logged in to post a comment Login