วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

“ประยุทธ์”บอกทำตามสัญญาแล้วอย่าลืมไปเลือกตั้ง24มี.ค.

On January 28, 2019

ที่สวนพฤกษศาสตร์พุแค ตำบลพุแค อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ เยี่ยมชมสวนพฤกษศาสตร์พุแค “สวนพฤกษศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย” ซึ่งเป็นตัวอย่างโครงการป่าในเมือง “สวนป่าประชารัฐ เพื่อความสุขของคนไทย” พร้อมเป็นประธานสักขีพยานในโอกาสที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีมอบ ส.ป.ก.4-01 ให้แก่เกษตรกร จำนวน 10 ราย และมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในลักษณะแปลงรวม พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) ให้แก่ราษฎร จำนวน 10 ราย ทั้งนี้ ในงานดังกล่าวมีประชาชนมาร่วมงานประมาณ 1,000 คน และมี ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ผู้สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ ร่วมต้อนรับด้วย

โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า วันนี้มาติดตามการดำเนินงานของรัฐบาล สิ่งที่ผ่านมารัฐบาลนี้พยายามปลดล็อกในหลายเรื่อง ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องตามกฏหมาย หากปล่อยไว้แบบเดิมก็จะแก้ไขปัญหาไม่ได้ ไม่ว่ารัฐบาลใดก็แก้ไม่ได้ ยกเว้นรัฐบาลนี้ที่ทำให้และยืนยันว่าจะทำต่อไป โดยเดินหน้าทีละขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าที่ดิน ส.ป.ก. ต้องเอาไปทำการเกษตร จะเอาไปจํานําจํานองไม่ได้ ดังนั้น ต้องหาวิธีการว่าจะทำอย่างไรให้ที่เหล่านี้เกิดมูลค่า และขออย่าไปฟังว่าจะให้ที่ดินเลย อยากให้รักษาที่ไว้ให้มากที่สุดเพื่อให้มีที่ดินทำกิน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ย้ำว่าในช่วงรัฐบาลนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก เป็นเพราะบ้านเมืองสงบเรียบร้อย และไม่มีปัญหาความขัดแย้งตามท้องถนน สิ่งที่ตนพูดในวันนี้พูดในนามรัฐบาล ไม่ได้พูดให้ใคร หากใครพูดอะไรก็ไม่เกี่ยวกับตน อย่างไรก็ตาม หากเราไม่รู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยว่าบรรพบุรุษเสียสละชีวิตอย่างไร พระมหากษัตริย์ทรงนำทัพมาอย่างไร ทุกคนก็จะไม่รู้ว่าจะรักประเทศอย่างไร ความภาคภูมิใจก็ไม่เกิด และจะทำให้หมดแรงที่จะดึงให้คนต่างๆมาอยู่รวมกัน ความรักความสามัคคีก็จะหายไปหมด ดังนั้น อะไรที่เป็นอันตรายต่อประเทศชาติก็ควรเลิก

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า ทุกคนต้องคำนึงถึงประวัติศาสตร์ชาติไทย และขอให้ภูมิใจที่อยู่มาถึง 2 รัชกาล ขอให้ร่วมมือกันในการจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งเป็นพิธีที่เป็นมงคลที่สุดของประเทศไทย เราต้องทำให้ดีให้เหมือนเดิม ซึ่งเป็นไปตามจารีตประเพณี โดยเมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จมาร่วมเป็นประธานที่ปรึกษา หารือว่าจะต้องทำอย่างไร โดยพระราชพิธีจะเริ่มมีตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน ไม่ใช่แค่เดือนพฤษภาคม ต้องมีพิธีตักน้ำพลีกรรม น้ำทั้งหมด 108 แห่ง นั่นคือพิธีโบราณตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ที่ทำมาโดยตลอด และต้องทำทุกรัชกาล เพราะเป็นสิ่งที่อยู่คู่แผ่นดินไทยมายาวนาน สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ใช่หรือไม่ หรือใครคิดว่าไม่ควร ซึ่งเราต้องทำถวาย วันหน้าลูกหลานของเราจะอยู่ในรัชกาลที่ 10 ต่อกันไปเรื่อยๆ ไม่มีวันจบสิ้น เพราะนี่คือประเทศไทยของเรา

“ทุกวันนี้ผมหยุดเขียนหยุดคิดไม่ได้ รอเวลาไม่ได้ เพราะมีคนที่เดือดร้อน ส่วนการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 ขอให้ทุกคนไปเลือกตั้ง เลือกให้ดี ซึ่งเป็นเรื่องของท่านไม่เกี่ยวกับผม แต่ผมขอความสงบเรียบร้อยเท่านั้น ถ้าขัดแย้งจะทำให้ศักยภาพหายวับไปกับตา ส่วนใครที่มาบอกว่าจะทำอะไรให้ มันหมดสมัยแล้ว ต้องบอกว่าจะทำอย่างไร งบประมาณจากไหน อย่างบัตรสวัสดิการแห่งรัฐผมก็ทำถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่ให้ใครมารัก แต่เป็นหน้าที่ มีหลักมีเหตุผล และไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำในอดีต ทุกอย่างต้องไปทีละขั้นทีละตอน ลัดขั้นตอนไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ฟังทุกวันในสื่อโซเชียล มีทั้งตำหนิและชื่นชม และจะมีคน 2 ฝ่ายเสมอ ขณะเดียวกันรัฐบาลที่ได้มาจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ ขึ้นอยู่กับทุกคน เพราะสิทธิการเลือกตั้งเป็นของทุกคน ผมชี้นำใครไม่ได้ และผมจะไม่พูดการเมืองอีกแล้ว”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวพร้อมถามประชาชนว่า “ใครจะไปเลือกตั้งให้ยกมือขึ้น ใครจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจก็ให้ยกมือขึ้น ขณะเดียวกันที่ผมบอกว่าจะทำตามสัญญา และขอเวลาอีกไม่นานนั้น ผมได้ให้แล้วหรือยัง ซึ่งผมเองทำตามกฏหมายรัฐธรรมนูญทุกตัว เถียงกันอยู่ได้ไม่เลิก”


You must be logged in to post a comment Login