- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
วิสามัญมรณะ / โดย นายหัวดี

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด
ผู้เขียน : นายหัวดี
ผ่านมากว่า 1 ปี คดี “ชัยภูมิ ป่าแส” นักกิจกรรมชาวไทยเชื้อสายลาหู่ ที่ถูกทหารยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 ก็ยังไม่มีความคืบหน้าชัดเจน แถมหลักฐานก็หาย โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดที่ทางกองทัพอ้างเป็นหลักฐานสำคัญ
เวทีเสวนา “วิสามัญมรณะ” ที่มีนักวิชาการและนักกฎหมายเข้าร่วม โดยเฉพาะ “คิงสลีย์ แอ๊บบอต” ที่ปรึกษากฎหมายอาวุโสโครงการเอเชีย-แปซิฟิก คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล ชี้ว่า การวิสามัญฆาตกรรมโดยเจ้าหน้าที่รัฐ จะโดยจงใจหรือไม่จงใจก็ถือเป็นการสังหารนอกกระบวนการยุติธรรม ซึ่งมีปัญหาเกิดขึ้นทั่วโลก
กฎหมายระหว่างประเทศถือว่าประชาชนมีสิทธิในการมีชีวิตอยู่ รัฐมีหน้าที่ดูแลให้ประชาชนมีชีวิต และมีกฎหมายชดเชยเยียวยาหากพรากชีวิตใครไป รวมถึงรัฐหรือผู้กระทำการแทนรัฐต้องไม่พรากชีวิตผู้อื่น และต้องป้องกันไม่ให้ประชาชนพรากชีวิตกันเอง
หลักฐานสำคัญกรณีวิสามัญฆาตกรรมคือกล้องวงจรปิด รวมถึงชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่ทหารตรวจค้นและมีการทำร้ายร่างกายก่อน “ชัยภูมิ” จะวิ่งหลบหนีโดยไม่ได้ต่อสู้และไม่ได้ใช้อาวุธมีดฟันหรือระเบิดขว้างใส่เจ้าหน้าที่ตามที่กล่าวอ้าง
ทนายความ “ชัยภูมิ” บอกว่า อัยการไม่ได้พยายามสั่งการให้พนักงานสอบสวนนำภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานบุคคลเข้าสู่สำนวนสอบสวน มีแต่รายงานการตรวจพิสูจน์ ซึ่งระบุว่าภาพจากกล้องวงจรปิดหายไป
เมื่อกระบวนการยุติธรรมมีปัญหา การวิสามัญก็จะเกิดขึ้นซ้ำซาก โดยชาวบ้าน “ตายฟรี” แต่ผู้กระทำคือเจ้าหน้าที่ “ลอยนวล” ไม่ถูกดำเนินคดี แม้แต่การ “ฆ่าหมู่” กลางเมืองที่มีภาพประจานไปทั่วโลก!
You must be logged in to post a comment Login