- ขอให้ฮึดสู้Posted 2 days ago
- สยบพวกอันธพาลให้ได้Posted 3 days ago
- อย่าทำอะไรมักง่ายPosted 4 days ago
- ผ้าเหลืองห่อเปรตPosted 5 days ago
- จงตั้งใจเรียนเพื่อพ่อแม่Posted 6 days ago
- อย่าใช้วิชามารPosted 1 week ago
- ต้องทบทวนให้ดีPosted 1 week ago
- นายจ้าง-ลูกจ้างต้องเอื้อกันPosted 2 weeks ago
- เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปPosted 2 weeks ago
- รับผลกรรมที่ได้กระทำPosted 2 weeks ago
วิสามัญมรณะ / โดย นายหัวดี
คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด
ผู้เขียน : นายหัวดี
ผ่านมากว่า 1 ปี คดี “ชัยภูมิ ป่าแส” นักกิจกรรมชาวไทยเชื้อสายลาหู่ ที่ถูกทหารยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 ก็ยังไม่มีความคืบหน้าชัดเจน แถมหลักฐานก็หาย โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดที่ทางกองทัพอ้างเป็นหลักฐานสำคัญ
เวทีเสวนา “วิสามัญมรณะ” ที่มีนักวิชาการและนักกฎหมายเข้าร่วม โดยเฉพาะ “คิงสลีย์ แอ๊บบอต” ที่ปรึกษากฎหมายอาวุโสโครงการเอเชีย-แปซิฟิก คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล ชี้ว่า การวิสามัญฆาตกรรมโดยเจ้าหน้าที่รัฐ จะโดยจงใจหรือไม่จงใจก็ถือเป็นการสังหารนอกกระบวนการยุติธรรม ซึ่งมีปัญหาเกิดขึ้นทั่วโลก
กฎหมายระหว่างประเทศถือว่าประชาชนมีสิทธิในการมีชีวิตอยู่ รัฐมีหน้าที่ดูแลให้ประชาชนมีชีวิต และมีกฎหมายชดเชยเยียวยาหากพรากชีวิตใครไป รวมถึงรัฐหรือผู้กระทำการแทนรัฐต้องไม่พรากชีวิตผู้อื่น และต้องป้องกันไม่ให้ประชาชนพรากชีวิตกันเอง
หลักฐานสำคัญกรณีวิสามัญฆาตกรรมคือกล้องวงจรปิด รวมถึงชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่ทหารตรวจค้นและมีการทำร้ายร่างกายก่อน “ชัยภูมิ” จะวิ่งหลบหนีโดยไม่ได้ต่อสู้และไม่ได้ใช้อาวุธมีดฟันหรือระเบิดขว้างใส่เจ้าหน้าที่ตามที่กล่าวอ้าง
ทนายความ “ชัยภูมิ” บอกว่า อัยการไม่ได้พยายามสั่งการให้พนักงานสอบสวนนำภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานบุคคลเข้าสู่สำนวนสอบสวน มีแต่รายงานการตรวจพิสูจน์ ซึ่งระบุว่าภาพจากกล้องวงจรปิดหายไป
เมื่อกระบวนการยุติธรรมมีปัญหา การวิสามัญก็จะเกิดขึ้นซ้ำซาก โดยชาวบ้าน “ตายฟรี” แต่ผู้กระทำคือเจ้าหน้าที่ “ลอยนวล” ไม่ถูกดำเนินคดี แม้แต่การ “ฆ่าหมู่” กลางเมืองที่มีภาพประจานไปทั่วโลก!
You must be logged in to post a comment Login