วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ถึงเวลาล้างอลัชชี / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On June 5, 2018

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

เรื่องของพระสงฆ์ โดยเฉพาะอดีตพุทธะอิสระ หรือนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ ยังมีการต่อยอดไปเรื่อยๆ ตั้งแต่การตำหนิผู้หลักผู้ใหญ่ว่า ทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จึงต้องขอโทษอดีตพุทธะอิสระ ขอโทษแทนตำรวจ แล้วกับรายอื่นซึ่งเป็นฝ่ายเห็นต่างหรือคู่กรณี ทำไมจึงทำกับเขาอีกแบบหนึ่ง ทั้งที่เป็นแค่การแสดงความคิดเห็น ไม่มีโทษอาญาร้ายแรงอย่างอดีตพุทธะอิสระ ทำไมไม่ขอโทษ นายกรัฐมนตรีก็ลำบากใจล่ะ

แต่เอาเถอะ เรื่องขอโทษก็ดีนะ ใครว่าไม่ดี ก็น่าเห็นใจทุกฝ่าย ทางหลักศาสนาบอกว่า รีบขอโทษไวๆ รีบให้อภัยกันเร็วๆ เปลวนรกจะได้ไม่เผาอกเผาใจทุกฝ่าย อันนี้ดีแน่ๆ ก็มีบางคนที่ชอบ ชื่นชม เชียร์ และไปเยี่ยม แต่พระผู้ใหญ่ระดับชั้นพรหมที่ถูกจับ ลูกศิษย์ลูกหาหายไปไหนหมด ไม่มีใครไปเยี่ยม หรือออกมาต่อต้าน อดีตพุทธะอิสระไม่มีสมณศักดิ์หรือยศถาบรรดาศักดิ์อะไรเลย ทำไมมีลูกศิษย์ มีคนไปเยี่ยมกันมากมาย ท่านจันทร์แห่งสำนักสันติอโศกก็ไป แกนนำ กปปส. ที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขก็ไป จนต้องขอว่าไม่ต้องมาเยี่ยมอีกแล้ว

เรื่องนี้มันเหมือนจะมีนัยอะไร ติดคุกจะไม่สู้ทางกฎหมาย แล้วยังบอกว่าอย่าไปโทษรัฐบาล คสช. อย่าไปโทษตำรวจเลย แสดงว่าใจกว้าง เป็นพระใจถึงใจนักเลง ไม่ทุกข์ร้อนอะไร อย่างนี้หายาก อาตมาเคยพูดชมเรื่องความกล้าของอดีตพุทธะอิสระนี่หาตัวจับยาก บางคนก็วิจารณ์หนักไปกว่านั้นว่าอาจเป็นข้อตกลงระหว่างรัฐบาล คสช. กับอดีตพุทธะอิสระว่าต้องเปลืองตัวเจ็บตัวหน่อยนะ เพื่อสร้างบรรยากาศการกวาดล้างสิ่งโสโครก สิ่งสกปรกในศาสนาออกไป

พูดกันว่าครั้งนี้เป็นการปราบอลัชชีเต็มที่ ก็น่าคิด เอาล่ะถ้าเรื่องนี้จบลงด้วยดี ต่อแต่นี้ไปก็ต้องปฏิรูปตั้งแต่การคัดสรรคนมาบวช อย่าเอาแต่ปริมาณบวชหมื่นรูปแสนรูปกันเลย บวชน้อยแต่มีคุณภาพดีกว่า เรื่องการเลื่อนสมศักดิ์ก็ไม่เลื่อนตามเส้น ตามซื้อ ต้องดูคุณสมบัติจริงๆ ไม่ใช่มาเถียงกันว่านักธรรมเอกไม่มีวุฒิมหาเปรียญทำไมถึงได้ระดับชั้นพรหม

เรื่องบัญชีวัดก็ไม่ให้อยู่ในอำนาจเจ้าอาวาสฝ่ายเดียว ต้องมีคณะกรรมการ เรื่องนี้ไม่ใช่ทำทั้งประเทศนะ มันน่าสมเพช เพราะบางวัดค่าน้ำค่าไฟไม่มีเลยจะไปทำบัญชีทำไม ทำเฉพาะวัดใหญ่ๆที่มีปัญหา ที่มีรายได้เป็นสิบล้านร้อยล้านขึ้นไป วัดที่มีรายได้น้อยๆทำไปก็เสียค่าจ้างทำบัญชีและยุ่งยากเปล่าๆ เรื่องเงินทอน เรื่องทุจริต เพราะไม่ใช่วัดใหญ่ก็ไม่เกิดเรื่องพรรค์นี้หรอก ยังมีล็อต 2 ล็อต 3 ล็อต 4 วัดเล็กๆมีรายได้ปีหนึ่งไม่ถึงล้านก็จะไม่ค่อยมีปัญหา

ต้องจัดการกันให้ดี ประชาชนก็อย่าไปคิดอะไรมาก ถือเป็นโอกาสดีที่จะกวาดล้างพระศาสนาให้สะอาดหมดจด เราจะได้ทำบุญถูกเนื้อนาบุญ ส่วนเนื้อนรกก็จัดการกันไป ธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าเหมือนคลื่นในทะเล มันย่อมซัดขยะขึ้นฝั่งหมด ไม่มีขยะที่จะลอยกลางทะเลได้นานๆ หินก้อนใหญ่ๆยังจมดิ่งในน้ำ ใครหนักแน่นในธรรมวินัยก็อยู่ได้ ใครทำตัวลอยเป็นขยะก็ลอยขึ้นฝั่งไป แค่นี้แหละ

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login