วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567

“ สส.วัชระ” ถอดเทปลับมติจัดซื้อเมล์ NGV.เป็นเท็จ

On March 5, 2018

ตามที่นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานบอร์ด ขสมก.และนายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการ ขสมก. แถลงข่าวลักไก่อ้างบอร์ด ขสมก.ทั้งคณะมีมติเห็นชอบโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV. 489 คันวงเงิน 4,261 ล้านบาท ปรากฏว่าตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือนที่ผ่านมามีแต่ข้อครหาและเสียงร้องเรียนทั้งจากประชาชนแจ้งกองปราบฯและเอกชนร้องทุกข์ต่อ ปปช.และ สตง. ถึงความไม่โปร่งใสและอาจเข้าข่ายทุจริตทำให้รัฐเสียหาย แต่ปรากฏว่ารัฐบาลกลับนิ่งเฉยไม่มีการสอบสวนข้อเท็จจริงแถมขสมก.ยังดันทุรังเดินหน้าโครงการไม่สนใจเสียงทักท้วง ล่าสุดนายวัชระ เพ็ชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดโปงมีไอ้โม่งบิ๊กทหาร คสช.บงการอยู่เบื้องหลัง พร้อมโชว์หลักฐานเด็ดถอดเทปรายงานการประชุมบอร์ดที่นายณัฐชาติใช้ลักไก่อ้างบอร์ดมีมติเห็นชอบ ที่แท้ก็เป็นการโกหกปั้นน้ำเป็นตัวแถมทำรายงานเท็จโกหกพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คาดเพราะเงินส่วนต่าง 1,200 ล้านเป็นแรงจูงใจ จี้นายกฯหากยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อนเจอแน่อาญา ม. 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมาว่า นายวัชระ เพ็ชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์รายการวิทยุและเพจดัง”สืบจากข่าว” 100.5 อสมท.เปิดประเด็นฉาวกรณีที่ นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานบอร์ด ขสมก.และนายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการ ขสมก.แถลงข่าวลักไก่อ้างมติบอร์ด ขสมก.ทั้งคณะมีมติเห็นชอบโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV. 489 คันวงเงิน 4,261ล้านบาท จนนำไปสู่การลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับเอกชนไปเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมปีที่แล้วว่า  “ผมทนไม่ได้กับการที่เห็นว่าเขากำลังจะโกงเงินของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ผมไม่อยากเชื่อว่าจะมีการโกหกหัวหน้า คสช. โกหกนายกรัฐมนตรีได้ในยุคไทยแลนด์ 4.0 พวกท่านกล้าออกมาแถลงข่าวอันเป็นเท็จ รายงานนายกฯอันเป็นเท็จ ทำเอกสารราชการอันเป็นเท็จ   ขสมก.ต้องเปิดเผยผลการประชุมและรายงานการประชุมต่อสาธารณชนและแจกเอกสารรายงานการประชุมให้สื่อมวลชนพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าแท้จริงแล้วในวันที่ 18 และ 20 ธันวาคม พวกท่านพูดอะไรไว้บ้าง”

S__264159258นายวัชระกล่าวอีกว่า  จากการถอดเทปการประชุมกรรมการบริหารกิจการ ขสมก. ชัดเจนแล้วว่าในวันที่ 18 ธันวาคมไม่มีการโหวตใดๆทั้งสิ้น ส่วนผลการประชุมในวันที่ 20 ธันวาคมมีบอร์ดเข้าประชุมเพียง 6 ท่านคะแนนโหวตเห็นชอบแค่ 2 ท่านคือนายณัฐชาติ จารุจินดา กับ นายสมศักดิ์ ห่มม่วง เท่านั้นส่วนกรรมการที่ไม่เห็นด้วย ที่ต้องเคารพ ที่ต้องเชิดชูว่าท่านรักษาผลประโยชน์ให้พี่น้องประชาชนมี 3 ท่านคือ พลตำรวจตรีประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์,นายสมศักดิ์ ประถมศรีเมฆ, รศ.คณิต วัฒนวิเชียร และท่านที่งดออกเสียงคือ รศ.พัชรา พัชราวนิช ใช้สิทธิ์งดออกเสียง  สรุปเห็นชอบ 2 ไม่เห็นชอบ 3 งดออกเสียง 1 ผมต้องขออนุญาตเอ่ยชื่อกรรมการท่านที่ลงอนุมัติไม่เห็นชอบ ก็เพื่อที่จะให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบพร้อมกันด้วยนะครับ ว่าท่านเหล่านี้ได้รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและของประชาชน

“ท่านนายกฯต้องปราบปรามขบวนการทุจริตการจัดซื้อรถเมล์ครั้งนี้ให้เป็นแบบอย่างครับ ทั้งๆที่บริษัทนี้เคยประมูลไว้แค่ 3,800 ล้านบาท แล้วต่อมาใช้วิธีการตกลงราคาเฉพาะบริษัทกับ ขสมก. ปรากฏว่าราคามันพุ่งขึ้นถึง 4,261 ล้านบาทได้อย่างไร ส่วนต่างตรงนี้แพงขึ้น 461 ล้านบาทถ้านับรวมอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทกับเงิน US ดอลล่าห์ ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นทำให้เอกชนได้กำไร 700 ล้านบาท รวมแล้วเป็นเงินรัฐและพี่น้องประชาชนเสียหาย 1,200 ล้านบาท  ท่านพลเอก ประยุทธ์ ต้องสั่งการไปถึงนางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ซึ่งนางสาวสุทธิรัตน์ คนนี้เป็นกรรมการบอร์ด ขสมก.ด้วย แต่ว่านางสาวสุทธิรัตน์ ไม่เข้าประชุมบอร์ดในวันที่ 20 ธันวาคม และไม่เข้าประชุมบอร์ดหลายครั้งเพราะว่า เป็นนกรู้ครับ รู้ว่างานนี้มีคนขอมามีการอ้างบารมีบิ๊กทหาร คสช.ให้ผ่านโครงการนี้ ผมทำหนังสือถึงท่านพลเอกประยุทธ์อย่างเป็นทางการขอให้ท่านสั่งการ 1.อธิบดีกรมบัญชีกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องระงับการจ่ายเงิน 4,261 ล้านบาท เพราะส่วนต่างที่เกิดขึ้นจาก 3,800 ล้านบาท พุ่งขึ้น แพงขึ้นในรัฐบาล คสช. ไม่สมเหตุสมผล ถ้าเป็นรัฐบาลที่เกิดจากการเลือกตั้ง ซื้ออย่างงี้ไม่ได้ครับ 2.ให้สอบสวนว่ามีการวิ่งเต้นจ่ายให้กับผู้หลักผู้ใหญ่กับบิ๊กทหาร คสช.จริงหรือไม่? และ 3.ท่านนายกรัฐมนตรีต้องหยุดยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าด้วยการสั่งยกเลิกโครงการนี้เพราะส่อทุจริต พร้อมเปิดให้ประมูลใหม่ สัญญาที่ไม่ล็อกสเปก เปิดให้เอกชนมีสิทธิเข้าประชุมอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย”

สส.กทม.กล่าวอีกว่า การทุจริตของ ขสมก.ครั้งนี้เป็นกระบวนการเป็นการกระทำที่สำเร็จแล้ว ผมไปยื่นหนังสือถึง ปปช. ให้ตรวจสอบโครงการที่ส่อทุจริตนี้ และให้ดำเนินการตรวจสอบการทุจริต ตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร และจนถึงประธานบอร์ด กรรมการบอร์ด ขสมก. จนถึงผู้รักษาการ ขสมก. เอาแบบครบทั้งยวงปล่อยไว้ไม่ได้ครับ เพราะถ้าเราปล่อยเท่ากับการละเว้น แล้วรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เขาเรียกว่าฉบับปราบโกง และท่านพลเอก ประยุทธ์ ท่านเองเรียกร้องให้พวกเราปราบปรามทุจริต ให้เราเป็นหูเป็นตาให้กับบ้านเมือง มาแจ้งเบาะแส มาบอกเจ้าหน้าที่ จะโกงซื้อรถเมล์ 4,261 ล้านบาท แล้วแถมยังจะขึ้นค่า โดยสารพี่น้องที่ขึ้นรถเมล์อีกระยะละ 2 บาท มันเกินไปครับ ผมยอมไม่ได้ครับต้องทำเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด

ความโลภมันไม่เข้าใครออกใครความเห็นแก่ตัวอยากที่จะโกงเงินของประชาชน ผมรู้สึกเวทนาว่า แม้แต่รายงานการประชุมบอร์ดยังโกหกกับสาธารณชนได้ เรื่องนี้ผมคิดว่าเมื่อไปถึง ปปช. แล้วต้องไปถึงศาลทุจริตครับ ถ้าท่านพลเอก ประยุทธ์ ไม่ระงับยับยั้งก็มีโอกาสตกเป็นจำเลยที่ 1 คดีนี้ในศาลทุจริต ซึ่งรัฐบาลท่านอนุมัติให้มีศาลทุจริตซึ่งผมก็ขออนุโมทนา แต่ระวังตัวท่านเองจะไปขึ้นศาลทุจริตด้วยโทษฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แถมด้วยนายณัฐชาติและนายประยูรยังรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ทำเอกสารราชการเท็จอีกกระทงด้วย ทีมเสนาธิการของท่านพลเอก ประยุทธ์ อย่าละเลย นิ่งเฉย มีคนแอบอ้างนายทหารใหญ่บิ๊ก คสช.เพื่ออนุมัติโครงการนี้ ท่านต้องไประงับและยับยั้งไม่งั้นประเทศชาติเสียหาย เรื่องนี้ผมคิดว่ามีการโกงทุจริตอื้อฉาวไม่แพ้กรณีโกงเงินคนจนหรือว่ากรณีเงินทอนวัดแต่อย่างใด เพราะโกงเงินจัดซื้อรถเมล์แทนที่จะได้รถมีดีๆ ให้พี่น้องประชาชนได้นั่งกัน รถเมล์ไทยแย่ที่สุดในโลกแล้ว แต่การจัดซื้อจัดจ้างทำไมต้องโกงกันด้วย ผมใช้คำว่าโกงครับ เพราะว่าคำว่าทุจริตมันสุภาพเกินไป

ขอเรียนว่าท่านพลเอก ประยุทธ์ อย่าได้ตกเป็นเหยื่อเป็นเครื่องมือแก๊งทุจริตในกระทรวงคมนาคม อย่าปล่อยให้คนโกงพวกนี้ปิดฟ้าด้วยฝ่ามือเพราะปกปิดข้อเท็จจริงไม่ได้ นี่ผมยังไม่นับโครงการ 1,600 ล้านาท ระบบ E- Ticket ที่เป็นกล่องๆ แล้วใช้บัตรสวัสดิการคนจนไปรูดปรื๊ดๆ แล้วมันก็เจ๊ง เจ๊งทุกคัน ทุกเครื่องก็บริษัทเดียวกันนี้แหละครับติดไว้แหกตาชาวบ้าน ไหนว่ารัฐบาลนี้ต้องการปราบโกง ไหนว่าเงินแม้แต่บาทเดียว จัดซื้อจัดจ้างโกงไม่ได้ ท่านพลเอกประยุทธ์ พูดอย่างนี้ครับ แม้แต่บาทเดียว เปอร์เซ็นต์เดียว ก็โกงไม่ได้ ในโครงการจัดซื้อจัดจ้าง แต่นี่เขากำลังล่อฟรีๆ 1,200 ล้านบาท หรือเพราะกำลังตั้งพรรคการเมืองจึงต้องหาเงินหาทองกัน

ด้านนายสุรดิษ สีดามาตย์ กรรมการบริษัท แม่โขงเทคโนโลยี่ จำกัด กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า  “ได้อ่านรายงานการประชุมบอร์ดครั้งที่ 15/60 วันที่ 18/12/2560 เห็นชัดว่าไม่มีการลงมติใดๆทั้งสิ้น ส่วนรายงานการประชุมครั้งที่ 16/2560 เมื่อวันที่ 20/2/2560 ได้มีมติรับรองการประชุมโดยคณะกรรมการฯเสียงข้างมากคือเห็นด้วย 2 ไม่เห็นด้วย  3 และงดออกเสียง 1 ซึ่งไม่ตรงกับที่นายณัฐชาติและนายประยูร ออกมาให้ข่าวต่อสื่อมวลชน ดังนั้นการลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างในครั้งนี้จึงขัดต่อระเบียบพัสดุปี 2560 การกระทำดังกล่าวจึงไม่มีผลผูกพันตามตัวอย่างคำพิพากษาศาล ฎีกาที่ 7277/2549 ว่า “สัญญาเกิดจากการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนจึงไม่มีผลผูกพันและเท่าที่เห็นภาพรถเมล์ที่ ขสมก.กำลังจะตรวจรับและนำออกมาทดลองวิ่ง เห็นชัดๆว่าผิดสเปกไม่ตรงตาม ทีโออาร์ กำหนดในข้อ 9.3.1 ป้ายอีเล็กทรอนิกส์ บอกหมายเลขเส้นทางและชื่อต้นทาง-ปลายทาง ด้านบนของประตูทางขึ้น-ลง ขนาดไม่น้อยกว่า 20 คูณ75 ซม. ตรงนี้ถือเป็นสาระสำคัญมาก คณะกรรมการตรวจรับของ ขสมก.จะปล่อยผ่านไม่ได้เด็ดขาด ถ้ายังกล้าที่จะตรวจรับ หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญางานนี้บอกได้เลยว่า เจอกันแน่ครับและขอฝากไปถึงท่านพลเอกประยุทธว่า อย่าปล่อยผ่านครับเรื่องนี้เด็ดขาดครับจะอีกกี่ปีก็ไม่จบ และที่สำคัญคือมันได้ไม่คุ้มเสียครับ ” นายสุรดิษ กล่าวในที่สุด

 

 


You must be logged in to post a comment Login