วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

จีนตั้งธงครองโลก-ไร้ยากจน

On October 20, 2017

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แสดงวิสัยทัศน์แผนพัฒนาประเทศระยะยาวระหว่างแถลงเปิดประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยประกาศจะขจัดความจนให้หมดไปจากประเทศ นำพาประเทศก้าวเป็นชาติสังคมนิยมทันสมัยยุคใหม่ และเป็นประเทศมีพลังกำหนดทิศทางสังคมโลก

การประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งจัดขึ้นทุก 5 ปี เริ่มเมื่อวันพุธ (18 ต.ค.) ต่อยาวไปถึงวันอังคารหน้า (24 ต.ค.) มีสมาชิกพรรคจากทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 2,000 คน

วาระสำคัญของการประชุม คือการเลือกตั้งประธานาธิบดี รวมทั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และการกำหนดนโยบายบริหารประเทศ

ในส่วนของการเลือกตั้งประธานาธิบดี นายสี จิ้นผิงไร้คู่แข่ง มีวาระดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศสมัย 2 ระยะ 5 ปี ถึงปี 2022 ขณะนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดว่า สี จิ้นผิงจะฝ่าธรรมเนียมปฏิบัติเดิม ยึดเก้าอี้ผู้นำประเทศเป็นสมัยที่ 3 ต่อไป      

สำหรับวิสัยทัศน์ที่ผู้นำจีนกล่าวเปิดประชุมนานถึง 3.30 ชั่วโมง ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ ความมั่นคง การพัฒนาประเทศ ปราบคอร์รัปชัน การพัฒนากองทัพ และการเปิดเสรีด้านการค้าการลงทุน

แผนพัฒนาประเทศกำหนดไว้ 2 ระยะ โดยระยะแรกระหว่างปี 2020-2035 ตั้งเป้าก้าวเป็นประเทศชั้นนำด้านนวัตกรรม และประเทศสังคมนิยมทันสมัยยุคใหม่ระดับขั้นต้น

ส่วนระยะที่ 2 ระหว่างปี 2035-2050 ตั้งเป้าก้าวเป็นประเทศสังคมนิยมทันสมัยยุคใหม่เต็มรูปแบบ มีความแข็งแกร่งทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม เป็นประเทศที่สามารถกำหนดทิศทางของสังคมโลกได้

ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและแผนขจัดความยากจน ผู้นำจีนประกาศว่า จะยกระดับรายได้ประชากรทั่วประเทศให้อยู่เหนือเส้นกำหนดความยากจน (Poverty line) ให้ได้ภายในปี 2020

สำหรับผู้มีฐานะอยู่ในเกณฑ์ยากจน สำรวจถึงสิ้นปีที่แล้ว อยู่ที่ 43.35 ล้านคน ลดลงจากการสำรวจครั้งก่อนเมื่อสิ้นปี 2012 ซึ่งมีเกือบ 100 ล้านคน

ส่วนนโยบายเปิดเสรีด้านการค้าการลงทุน ผู้นำจีนประกาศว่า จีนจะปฏิบัติต่อทุกคน ทั้งนักลงทุนท้องถิ่นและต่างชาติ และทุกธุรกิจอย่างเสมอภาค จีนจะคงนโยบายเปิดเสรีต่อไป และจะเปิดกว้างมากขึ้นในอนาคต

หอการค้าสหภาพยุโรปประจำประเทศจีน แถลงยินดีกับนโยบายเปิดเสรีของผู้นำจีน แต่ระบุว่าบริษัทยุโรปที่ทำธุรกิจในจีนปัจจุบัน ประสบปัญหาเกี่ยวกับกฎระเบียบของภาครัฐมาต่อเนื่อง

หอการค้าสหภาพยุโรประบุว่า รัฐบาลจีนให้คำมั่นอย่างมีความหวังบ่อยครั้ง แต่การถ่ายทอดคำมั่นสู่ภาคปฏิบัติมีน้อย ทำให้ปัญหายังคงเรื้อรังเรื่อยมา 


You must be logged in to post a comment Login