วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

นวดให้นุ่มก่อนพิมพ์แบบ? / โดย สนานจิตต์ บางสพาน

On August 28, 2017

คอลัมน์ : สากกะเบือยันเรือรบ

ผู้เขียน : สนานจิตต์ บางสพาน

หลังการทำรัฐประหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรามี “รัฏฐาธิปัตย์” บริหารราชการแผ่นดินมาตลอดระยะเวลา 3 ปี ฝีมือเป็นอย่างไรก็เห็นๆกันอยู่

กรุงเทพโพลล์ล่าสุดระบุว่า “วูบทุกด้าน” ในขณะที่ฝ่ายรัฏฐาธิปัตย์ก็ประกาศโครมครามว่า “ดีขึ้นทุกด้าน” แต่ล่าสุด “ไทยโพสต์” ของ “เถ้าแก่เปลว” ซึ่งอยู่ฝ่าย คสช. สุดจิตสุดใจยังพาดหัว “3 ปี คสช. วูบทุกด้าน”

สนจ. มีชีวิตผ่านการทำรัฐประหาร ผ่านสถานการณ์ที่เรียกว่าสู้รบนองเลือดมา 3 สมัย ทั้ง 14 ตุลา 6 ตุลา และ 17 พฤษภา จำความได้ตั้งแต่ประกาศบนจอทีวีขาวดำวันที่ “จอมพลผ้าขาวม้าแดง” ถึงแก่อสัญกรรมสมัยอาศัยอยู่ในสลัมสี่แยกบ้านแขก ฝั่งธนบุรี จนมาถึงวันนี้ สนจ. ว่ารัฐบาลทหารหรือรัฐบาลรัฏฐาธิปัตย์ชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ภาษาปะกิตเขาเรียกว่า “เวียร์” ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในชีวิต

เศรษฐกิจถดถอย คนรากหญ้าเจอภาวะมีแต่สินค้า ไม่มีคนซื้อ เงินสดหายไปจากท้องตลาด แต่ตระกูลเศรษฐีใหญ่ๆของประเทศที่กุมอำนาจในบริษัทสารพัดที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของประชาชนตั้งแต่หัวจดเท้ารวยกันอยู่กลุ่มเดียว ทั้งๆที่ไม่มีการขยายการลงทุนในประเทศ แต่พวกเขา “หอบเงิน” ไปลงทุนต่างประเทศ

เรากว้านซื้อทั้งเครื่องบิน เรือดำน้ำ รถถัง ด้วยงบกว่าหลายหมื่นล้านบาท เรากำลังจะมีโครงการถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา หอชมเมือง สะพานคนเดินข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้างกลับชะงักงันเพราะเจอสารพัดปัญหา จนถึงวิกฤตแรงงานต่างด้าว ซึ่งภาคก่อสร้างและประมงโดนเต็มๆแบบไม้หน้าสามกระหน่ำเข้าทัดดอกไม้

กรุงเทพฯโดนจัดระเบียบ พ่อค้าแม่ขายดิ้นรนหนีตายเอาตัวรอด แวดวงนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย นักเรียน นิสิต นักศึกษา ถูกแทรกแซงโดยทหารและกฎระเบียบวินัยแบบ “ค่ายทหาร” กระบวนการถล่ม กระทืบ และทำลายสัญลักษณ์ทางการเมืองระหว่างฝ่าย “ไม่เอาทักษิณ” กับฝ่าย “เอาทักษิณ” เล่นกันแบบไฮโลเปิดถ้วยแทง ไม่มีกระมิดกระเมี้ยน เล่นกันดื้อๆ ชัดๆ

ทุกอย่างเหมือนถูกเขียน “บท” ไว้แล้ว และมีการเตรียมงานถ่ายทำจนพร้อม เมื่อเปิดกล้องกันได้เมื่อ 3 ปีก่อน การถ่ายทำก็เริ่มไล่ตามบทที่เขียนเอาไว้ จากเบอร์หนึ่งของประชาคมอาเซียน ตอนนี้เรากำลังตามหลังแม้กระทั่ง “พม่า” ประเทศที่ปิดตายมาเกินครึ่งศตวรรษ แต่วันนี้นักวิชาการและองค์กรอิสระของพม่าออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฏฐาธิปัตย์ไทยปล่อยตัวนักวิชาการไทยที่จัดงานสัมมนาในรั้วมหาวิทยาลัยที่เป็นการสัมมนาระดับนานาชาติ

ถ้าพูดกันภาษาหนัง ทั้งหมดนี้คือ “เดจาวู” และ “นอสแตลเจีย” เรากำลังได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็น แต่เคยได้ยินมาในอดีต เรากำลังย้อนอดีตไปหาวิถีประเทศและวิถีชีวิตคนไทยที่ผ่านมาแล้วเป็นศตวรรรษ

ในภาวะอึดอัดคับข้องใจและหวาดกลัวระหว่างอำนาจบนปลายกระบอกปืนและ ม.44 กับฝ่ายที่เรียกร้องประชาธิปไตย การยื้อยุดฉุดกระชากระหว่าง 2 ฝ่ายจะจบลงยังไง นี่เป็นเรื่องที่ “เวลา” เท่านั้นจะตอบได้ ขบวนการประชาชนจะทนได้นานแค่ไหน และเมื่อไรที่ทนไม่ไหวแล้ว (โว้ย) อะไรจะเกิดขึ้น

ฝ่ายรัฏฐาธิปัตย์จะยื้อยื่นอำนาจส่งต่อ สืบทอดในพวกเดียวกันเองกับพวกทุนที่สุมหัวสมคบคิดยึดครองประเทศและประชาชนได้นานขนาดไหน

การย้อนกลับไปหาอดีตในขณะที่ประเทศทั่วโลกเขาก้าวไปข้างหน้าจะเป็นบทพิสูจน์ว่า พลวัตการเปลี่ยนแปลงกับการรักษาอำนาจของฝ่ายอนุรักษ์ซึ่งเปี่ยมสุขอยู่กับความเรืองรองในอดีต ใครจะเป็นฝ่ายชนะ สนจ. ว่า สนจ. ไม่น่าจะมีชีวิตอยู่ทันได้เห็นนะ…ฮา

สถานการณ์ระหว่างคนที่กำลังก้มหน้าก้มตา “นวด” ประชาชน กับ “ประชาชนที่ถูกนวด” จะออกหน้าไหน อีกไม่นานน่าจะมีคำตอบ!


You must be logged in to post a comment Login