วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

กระบวนการยุติธรรม? / โดย สนานจิตต์ บางสพาน

On July 31, 2017

คอลัมน์ : สากกะเบือยันเรือรบ

ผู้เขียน : สนานจิตต์ บางสพาน

ก่อนจะปั่นต้นฉบับนี้มีรายงานข่าวประเภทนักข่าวพลเมืองรายงานผลคดียึดทำเนียบรัฐบาลของบรรดาขาใหญ่พันธมิตรฯ ตั้งแต่แป๊ะลิ้ม พี่เปี๊ยก-พิภพ และมหาห้าขัน ฯลฯ ปรากฏว่าศาลอุทธรณ์ตัดสินลงโทษจำคุก 8 เดือน จากเดิมที่ศาลชั้นต้นตัดสินลงโทษจำคุก 2 ปี หลังจากนั้นก็ให้ประกันตัวเพื่อสู้ต่อในศาลฎีกา

ยังมีคดีปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งถือเป็นสนามบินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของราชอาณาจักรไทย ถือเป็นดิสทริคแอเรียที่ไม่ให้ใครหน้าไหน “บุกรุก” หรือ “ปิด” กันได้ง่ายๆ ไม่มีประเทศไหนยอมรับ ประเทศทั่วโลกถือว่าเป็นความล้มเหลวของรัฐและสร้างความเสียหายนับแสนล้านบาทในช่วงดังกล่าว

ก่อนหน้านั้นมีข่าวใหญ่เกี่ยวกับศาล 2 ข่าวคือ ข่าวตำแหน่ง “ประธานศาลฎีกา” ที่พลิกโผจากประธานศาลอุทธรณ์ที่อาวุโสสูงสุดที่ถูกโยกไปเป็น “ที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา” จนเจ้าตัวประกาศลาออก พร้อมกับประโยคที่ต้องตีความกันกระจุยกระจายคือ “ผมถอยจนไม่มีทางจะถอยแล้ว”

อีกข่าวคือจำคุก 1 ปีไม่รอลงอาญา “พี่ตู่-จตุพร พรหมพันธุ์ ที่เข้าๆออกๆคุกเป็นว่าเล่น ข้อหาหมิ่นประมาทสุดหล่อ “พี่มาร์ค”

ทั้งหมดเกิดขึ้นท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมบนโลกออนไลน์ เอาว่า…ล่อกันเละ ทั้งที่โดยปรกติคำสั่งและคำตัดสินของศาล ใครจะละเมิดไม่ได้ แต่ในโลกออนไลน์เหมือน “หมูไม่กลัวน้ำร้อน”

สนจ. เคยขึ้นศาล 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นพยานให้พรรคพวกในคดีหย่าร้างที่อาคารศาลเก่าข้างสนามหลวงนานมาแล้ว อีกครั้งขึ้นศาลที่ถนนรัชดาฯข้อหาเมาแล้วขับ…ฮา

ครั้งแรกใส่เสื้อเชิ้ตพับแขนเข้าไปนั่งต่อหน้าบัลลังก์ โดนตำหนิให้คลี่แขนเสื้อออกแล้วกลัดกระดุม เพราะพับแขนเสื้อเข้าศาลถือว่าไม่สุภาพและไม่ให้เกียรติศาล

ครั้งหลังไปเจอผู้พิพากษาหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวเล่นงาน “นายดาบตำรวจ” ที่พา สนจ. ไปขึ้นศาลด้วยประโยคว่า “คุณไปจับเขามาทำไม วัดแอลกอฮอล์ได้แค่ 90 ให้เขาดื่มน้ำสัก 1-2 แก้ว แล้วนั่งพักสักครึ่งชั่วโมง ฉี่ทีเดียวก็หายแล้ว จับมาทำไมให้คดีรกศาล”

ทั้ง 2 ครั้งที่ขึ้นศาลได้แต่อุทานในใจว่า ผู้พิพากษาสมัยนี้หนุ่มๆสาวๆทั้งนั้นเลย

กลับมาที่สงครามข้อมูลบนโลกออนไลน์ สำหรับพวกที่กินอิ่มแล้วไม่มีอะไรจะทำ ท่ามกลางความไม่ปรองดองระหว่างค่ายเสื้อเหลือง นกหวีด กับเสื้อแดงและเพื่อไทย ก็มีตลกร้ายทำรายการเปรียบเทียบให้เห็นว่า เกือบทุกคดีที่เกิดขึ้นกับฝ่ายนกหวีดและเสื้อเหลืองหรือสลิ่ม หลังจากสู้กันยันฎีกาแล้วส่วนใหญ่จะยกฟ้อง

ขณะที่ฝ่ายเสื้อแดงและเพื่อไทยจะ “ติดคุก” เกือบหมด ติดมากติดน้อยก็แล้วแต่คำพิพากษา ที่เหลือเอามาเขียนลงตรงนี้ไม่ได้ สนจ. แก่แล้ว ยังอยากเดินเล่นกินเบียร์กินเหล้าอยู่นอกคุก

ที่น่าสนใจ อีกไม่เกิน 1 เดือนจะมีข่าวใหญ่เกี่ยวกับศาลอีก ใหญ่จริงๆ เพราะเป็นคดีรับจำนำข้าวซึ่งจะตัดสินอนาคตของอดีตนายกฯหญิงคนแรกของประเทศไทยว่าจะติดคุกหรือยกฟ้อง

ไปลุ้นกันเอาตามอัธยาศัยนะครับ คอลัมน์นี้ไม่มีความเห็นครับ


You must be logged in to post a comment Login