วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567

หุ่นยนต์อัจฉริยะ! / โดย ณ สันมหาพล

On May 22, 2017

คอลัมน์ : โลกไม่หยุดนิ่ง
ผู้เขียน : ณ สันมหาพล

ตื่นเต้นกันยกใหญ่เมื่อ Cover Girl เครื่องสำอางชื่อดังของสหรัฐ ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวหุ่นยนต์ที่เรียกว่า chatbot หรือ talkbot ที่สามารถสนทนาพูดคุยกับลูกค้าได้ หรือ chatterbox กล่องพูดคุย

นอกจากจะดึงดูดให้ผู้คนอยากพูดคุยเพิ่มมากกว่าเดิมเกือบ 1,200 เท่า เมื่อเทียบกับการพูดคุยผ่านสื่อออนไลน์ปรกติ ทั้งอีเมล์ ไลน์ และอะไรต่ออะไร หุ่นยนต์ที่ Cover Girl ยังทำให้ผู้ที่พูดคุยด้วยซื้อผลิตภัณฑ์ทันทีหลังการสนทนาถึง 1 ใน 3 คน

นอกจากเจ้าของสินค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงแล้ว ผู้ที่สนใจยังได้รับข้อมูลผ่านหุ่นยนต์อย่างถูกต้องด้วย เนื่องจากมีการตรวจสอบและอัพเดทข้อมูลตลอดเวลา ทำให้บริษัทคู่แข่งต้องลดราคาสู้

ตอนนี้ chatbot น่าจะเป็นชื่อเรียกมาตรฐานแล้ว เพราะใช้กันบ่อยที่สุด สำหรับ Cover Girl นั้น บริษัท Automat Technologies บริษัทสตาร์ตอัพที่มีนักคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่เป็นผู้ทำกิจการด้านนี้ให้ ซึ่ง chatbot เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อให้คอมพิวเตอร์สนทนากับคนมานานแล้ว แต่การนำมาใช้เช่นนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ หลังจากหุ่นยนต์ AlphaGo ของกูเกิลมีชัยชนะเหนือแชมป์หมากล้อมโกะเกาหลีใต้เมื่อปีที่แล้ว ถือเป็นเครื่องจักรกลที่สามารถเอาชนะมนุษย์ได้เป็นครั้งแรก

เบื้องหลังความสำเร็จคือ ความก้าวหน้าทางวิทยาการปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI Technology ย่อมาจาก Artificial Intelligence Technology ที่ถูกนำไปเขียนโปรแกรมใช้งานในหุ่นยนต์ จนหุ่นยนต์สามารถสะสมความรู้ที่ได้จากการพูดคุยแล้วนำไปปรับปรุงหรือยกระดับความรู้ของหุ่นยนต์ที่มีอยู่แล้ว คือหุ่นยนต์ฉลาดขึ้นทุกครั้งที่ถูกใช้จนในที่สุดฉลาดเกินมนุษย์ อย่างกรณีถล่มแชมป์หมากล้อมโกะเกาหลีใต้

ทำให้องค์กรรัฐและเอกชนทั่วโลกพากันตื่นตัวที่จะสร้างหุ่นยนต์อัจฉริยะ โดยประเมินว่าปีที่แล้วมีค่าใช้จ่ายเพื่อการสร้างหุ่นยนต์มูลค่า 640 ล้านเหรียญ หรือ 22,145 ล้านบาท อีก 4 ปีจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 16,000 ล้านเหรียญ หรือ 553,818 ล้านบาท และปี 2568 จะมีมูลค่าเพิ่มเป็น 37,000 ล้านเหรียญ หรือ 1.28 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะถูกพัฒนาเพื่อให้หุ่นยนต์รู้ภาษาพูดของคนให้มากที่สุด คือให้พูดได้เหมือนคน ไม่ว่าจะเปลี่ยนจากภาษาหนึ่งไปอีกภาษาหนึ่ง ถือเป็นการท้าทายอย่างมากของนักพัฒนาหุ่นยนต์สนทนา ซึ่งต้องทำให้หุ่นยนต์สามารถฟังและพูดได้ทุกภาษาในโลก

ความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายในการพัฒนาหุ่นยนต์อัจฉริยะจึงเป็นนวัตกรรมใหม่ของโลกที่จะมาแรงจนแซงการใช้สื่อออนไลน์อื่นๆ

ในอนาคตคนในโลกจึงต้องเตรียมตัวในการสนทนาในสื่อต่างๆ ซึ่งอาจไม่รู้ว่ากำลังพูดโทรศัพท์กับใคร เพราะทุกวันนี้มนุษย์ใช้โทรศัพท์มือถือกันถ้วนหน้า ไม่ว่าอะไรก็ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ทั้งใช้ดูข้อมูลข่าวสารและหรือพูดคุยสนทนา

ลองคิดดูว่าในระหว่างการประชุมบริษัทที่ต้องหาข้อยุติเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่หาไม่ได้ก็อาจต้องพึ่งหุ่นยนต์อัจฉริยะที่มีความเชี่ยวชาญมาเป็นที่ปรึกษา ยังไม่พูดถึงอีกหลายวิชาชีพที่มีการใช้หุ่นยนต์ ไม่ว่าแพทย์ สถาปนิก หรือทนายความ ฯลฯ

ทุกวันนี้มนุษย์อยู่กับโทรศัพท์ที่ใช้ได้สารพัด แม้แต่ชาวไร่ชาวนายังใช้เพื่อทำการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น ในอนาคตหากเกษตรกรมีความสงสัยในเรื่องข้อมูลก็สามารถใช้โทรศัพท์ปรึกษาหุ่นยนต์อัจฉริยะที่สามารถให้คำแนะนำและแก้ปัญหาต่างๆให้

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก จึงอยากให้เด็กและเยาวชนเตรียมตัวกับวิทยาการเหล่านี้ นอกจากความรู้พื้นฐานที่จะเป็นองค์ความรู้ต่างๆที่จำเป็นอย่างมากกับการใช้ชีวิตในอนาคต

เรื่องนี้ถือเป็นโจทย์ใหญ่ของทั้งหน่วยงานรัฐและภาคเอกชนที่จะต้องเตรียมการกับหุ่นยนต์สนทนาอัจฉริยะที่ภาษาไทยอาจเป็นภาษาที่ใช้อย่างแพร่หลายก็ได้ รวมถึงเป็นหน่วยงานให้คำปรึกษา หน่วยงานรับคำร้องเรียน หน่วยงานรับทำเอกสาร ฯลฯ ซึ่งหุ่นยนต์มีความสามารถที่จะทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา


You must be logged in to post a comment Login