วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

นอสแตลเจีย-เดจาวู / โดย สนานจิตต์ บางสพาน

On May 15, 2017

คอลัมน์ : สากกะเบือยันเรือรบ
ผู้เขียน : สนานจิตต์ บางสพาน

พาดหัว 2 คำข้างบนเป็นภาษาปะกิตตามประสาคนตกภาษาปะกิต แต่พอจะอ่าน เขียน พูด แปลได้ในระดับ you know me a little go อย่าง สนจ. ภาษาอังกฤษที่โอลิเวอร์ สโตน กับเซอร์เดวิด พัทท์นัม ตาค้าง อ้าปากมาแล้ว พร้อมกับคำถามว่า “เฮ้ย! ไอ้หนุ่ม จบมหา’ลัยไหนที่บ้านกูวะ”

คำตอบคือ สนจ. จบวิทยาลัยครูบ้านสมเด็จฯ เอกสังคม โทอังกฤษ มศว ประสานมิตร เอกประวัติศาสตร์จีน แต่ปฐมนิเทศเสร็จก็ไม่ได้เข้ามหา’ลัยอีกเลย กลายมาเป็น “นกน้อยในไร่ส้ม” ซะก่อน แต่โชคดีที่ไม่ได้เรียนกับ “เขียน ธีระวิทย์” ฮากกาด้วยกัน ถ้าเรียนคงเสียใจตายห่านและเสียดายเวลาด้วย เพราะ… (ไม่มีคำให้การในชั้นสอบสวน) …ฮา

คำแรกคือการถวิลหาอดีต คำสองคืออาการคลับคล้ายว่าตัวเราได้กลับไปในสถานที่ ผู้คน หรือเหตุการณ์อะไรหลายๆอย่างที่ “เคยพานพบ” มาแล้วในอดีต

สนจ. กำลังฟิลหรือรู้สึก ถ้าจะเอาแบบพรานป่าก็คือ จมูกเริ่มได้กลิ่นทะแม่งๆ การพยายามจะพาคนไทยและเมืองไทยกลับไปหลงใหลได้ปลื้มกับอดีต สถานการณ์ ผู้คน เหตุการณ์ และความสวยงาม ที่วันนี้ไม่มีแล้ว มันเปลี่ยนแปลงไปตามกฎของธรรมชาติและโลกแล้ว

แต่คนกลุ่มหนึ่งที่กุมอำนาจทุกอย่าง ตั้งแต่การเมือง ศิลปะ วัฒนธรรม และเรื่องปากท้อง ต้องการให้คนไทยและเมืองไทยกลับไปมลังเมลืองกระเบื้องเฟื่องฟูลอยอีก เอากันตรงๆ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี กรณี “หมุดหาย” และกระแสบิดเบือนข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ เริ่มมีการวางยาคนอย่างรัฐบุรุษ อาจารย์ป๋วย และใครต่อใครในประวัติศาสตร์อีกหลายคนที่เกี่ยวข้องกับพลวัตการเปลี่ยนแปลงในอดีต

“กฎหมายควบคุมสื่อ” ที่สื่อร้องเป็นหมาโดนน้ำร้อน หรือลิงยืนอยู่บนสังกะสีเผาไฟ ทั้งๆที่สื่อส่วนหนึ่งกว่าครึ่งและเป็นสื่อหลักด้วยมีบทบาทไปสนับสนุนทั้งทางตรงและอ้อม ชักลาก จูง เชื้อเชิญให้เกิดการรัฐประหาร “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” ทำให้เกิดรัฏฐาธิปัตย์ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมกับโครงสร้างแบบรัฐข้าราชการ

ความพยายามของ กสทช. ที่จะเข้าไปควบคุมเนื้อหาในโลกออนไลน์ เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นแค่หน้าฉาก หลังฉากคือการส่องและตรวจสอบเนื้อหาคนที่เขียนระบาย ด่า ประจาน แฉ และเปิดเผยข้อมูลความจริงและข้อเท็จจริง

ทั้งหมดนี้มันเป็นกลิ่น “สาบสาง” ที่ลอยมาและเริ่มมีกลิ่นแรงขึ้นเรื่อยๆแบบคนเป็นหวัดก็ยังรู้สึกได้ว่าอีกไม่นานคนไทยจะได้ค้นพบ “มัมมี่” หรือซากศพแห้งกรังที่ถูกฝังไปตามกาลเวลา แต่เพราะวิทยาศาสตร์ในอดีตที่มาจากมนุษย์ต่างดาว มัมมี่ตัวนี้เลยยังคงสภาพสมบูรณ์ แต่ที่ซ่อนเร้นไม่ได้คือกลิ่น

ก็เอาสิครับจะมีใครว่าอะไร? ถ้าคิดว่าทำได้ “ยุทธศาสตร์ 20 ปี” ทำเลย ย้อนอดีตกันเลย ไปหาที่นั่งกินกาแฟเก่าๆแบบออน ล็อก หยุ่น หาร้านอาหารจีนอร่อยๆกินแบบห้อยเทียนเหลา เที่ยวย่านโบสถ์พราหมณ์ ซอยวรพงษ์ กลางวันฟังพี่เทพ พี่เล็ก ยายเชอรี่ ร้องเพลงที่โลลิต้า

สนจ. ชอบจะตายไป อีกตั้ง 20 ปี สนจ. ตายก่อนแล้ว ที่เหลือก็ให้พวกหัวหงอกหัวดำรบกับเด็กรุ่น “ไอ้เน” กับรุ่นลูกๆ สนจ. ก็แล้วกัน แค่ประธานสภานิสิตจุฬาฯคนเดียว คนแก่หัวหงอกยังเต้นเร่าๆ ถ้ามันมาเป็นขบวนการจะประมาณไหนวะ นึกแล้วก็หนาว เหมือนย้อนกลับไปเห็นภาพผู้คนบนถนนราชดำเนินเมื่อ 14 ตุลาคม 2516

คงได้เห็นคนรุ่นลูก สนจ. นอสแตลเจียและเดจาวูบนถนนราชดำเนินอีกรอบ ลองทายสิว่าถึงวันนั้นเด็กรุ่นนี้จะเผาอะไรบนถนนราชดำเนิน เพราะไม่มีกรมประชาฯ กองสลากฯ และ บช.น. แล้ว

อ้อ! ใครจะอยู่รอก็รอนะ สนจ. ไปก่อนล่ะ เบี่ย…กูตายดีกว่า…ฮา


You must be logged in to post a comment Login