วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

อำนาจเป็นพิษ! / โดย นายหัวดี

On April 7, 2017

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด
ผู้เขียน : นายหัวดี

การประกาศมาตรา 44 บังคับใช้กฎหมายจราจรกับรถยนต์ทุกชนิดต้องคาดเข็มขัดนิรภัย โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน

การบังคับให้ผู้นั่งรถทุกชนิดต้องคาดเข็มขัดไม่มีใครปฏิเสธ เพราะเป็นการป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะแก้ปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ เพราะอุบัติเหตุบนถนนเกิดจากสาเหตุต่างๆมากมาย จากการไม่เคารพกฎหมายมากมายหลายรูปแบบ รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

แต่ประเด็นร้อนที่สุดและเสียง “ด่า” ดังกระหึ่มทุกสารทิศและทุกสาขาอาชีพที่ไม่เห็นด้วย คือ การบังคับรถกระบะ โดยรถกระบะ (มีแคป) ห้ามนั่งแคป ห้ามนั่งบนกระบะท้ายและรัดเข็มขัดทุกที่นั่ง (2 คนหน้า) รถกระบะ 4 ประตูห้ามนั่งเกิน 5 คน, ห้ามนั่งบนกระบะท้ายและรัดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง

เสียงด่า เสียงวิพากษ์วิจารณ์ และการล้อเลียนต่างๆ จึงปรากฏทุกสื่อ โดยเฉพาะโซเชียลมีเดียทำนองว่ารัฐบาลกำลังทำสงครามกับประชาชน หรือ “ทั่นผู้นำ” ถูกเจาะยาง หรือมีสมองหรือเปล่า ฯลฯ

เพราะรถกระบะคนใช้ส่วนใหญ่เป็นคนระดับกลางและล่าง โดยเฉพาะในต่างจังหวัดและพื้นที่ชนบทต่างๆ ต้องใช้ทั้งในชีวิตประจำวันและใช้ทำมาหากินทุกรูปแบบ จึงทำให้ประชาชนเดือดร้อนหลายล้านคน

แม้รัฐบาลทหารและตำรวจจะยอมผ่อนปรนให้รถกระบะนั่งในแคปและท้ายกระบะได้ไม่เกิน 6 คน แต่ก็มีคำถามมากมายว่าการใช้กฎหมายเพื่อแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนต่างๆนั้นตรงจุดหรือไม่?

โดยเฉพาะการใช้มาตรา 44 ที่ใช้ตั้งแต่ “ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ” ขณะที่กฎหมายจราจรมากมายที่ออกมามีการบังคับใช้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง หรือทำแบบ “ผักชีโรยหน้า” หรือ “วัวหายแล้วล้อมคอก” นั้น ใครต้องรับผิดชอบ?


You must be logged in to post a comment Login