วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

เสรีชนไม่มองหานาย แต่มองหาเพื่อน / โดย Pegasus

On April 3, 2017

คอลัมน์ : เพื่อชาติประชาชน
ผู้เขียน : Pegasus

มีหลายคนบอกว่าตอนนี้ตาสว่างกันมากแล้ว ต่อไปจะเป็นอย่างไรอีก ใครจะเป็นผู้นำเรา แล้วจะต้องทำอะไรกันต่อไปดี

คำถามสั้นๆแต่ต้องตอบยาวกว่าที่คาดกันไว้ เริ่มแรกคือ แม้จะตาสว่างกันแล้วก็ต้องรู้ด้วยว่าเราควรจะกำหนดเป้าหมายกันอย่างไร แค่ไหน จึงจะมีความเป็นไปได้ และคำว่าตาสว่างคืออะไร มีความหมายว่าอย่างไร เพราะใครๆก็พูด สาเหตุหนึ่งอาจมาจากการฟัง การพูดคุย หรือหนักกว่าคือการได้ดูได้ฟังคลิปต่างๆที่มีความจริงบ้าง ความเห็นบ้าง นำมาซึ่งความเข้าใจผิด หรือการตั้งเป้าหมายแบบไม่มีโอกาสสำเร็จมากจนเกินไป

ดังนั้น สิ่งแรกที่ควรคิดอย่างจริงจังคือ เนื้อหาของอาการตาสว่างเกี่ยวข้องกับอะไร โดยพื้นฐานคงเป็นเรื่องต้นเหตุและที่มาของความไม่ยุติธรรมในสังคม

เมื่อเข้าใจเรื่องความไม่ยุติธรรมแล้วก็จะต้องหาวิธีการสร้างความยุติธรรมขึ้นมา ทั้งที่อาศัยการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในหมู่ผู้เสียเปรียบและการเรียกร้องให้กลุ่มอื่นเห็นใจ โดยเชื่อมโยงไปถึงองค์กรต่างๆทั้งในและระหว่างประเทศ ส่วนจะทำอะไร แค่ไหน อย่างไร เป็นรายละเอียดที่ต้องคิดกันเอง

ในฐานะประชาชน การกระทำผิดกฎหมายไม่มีประโยชน์ การใช้กำลังตอบแทนกำลังเป็นสิ่งที่ล้มเหลว เพราะขนาดกำลังและการฝึกฝนนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ภาษิตที่ว่า “ปากกาคมกว่าอาวุธ” นั้นยังใช้ได้อยู่ เพียงแต่จะอาศัยสื่อกระแสหลักคงไม่ได้ ควรจะเปลี่ยนปากกาเป็นการสร้างสัมพันธ์กับกระแสโลก เพื่อแสดงว่าคนไทยไม่ได้ตกเวทีโลกาภิวัตน์ แม้ว่ากลุ่มขวาจัดจะพัดแรงในตะวันตกก็ตาม สุดท้ายก็ต้องเดินในช่องทางที่เหมาะสมเอง

สิ่งสำคัญคือ การแสดงให้ชาวโลกเห็นว่าคนไทยไม่ได้เป็นคนยอมจำนน ยอมแพ้ต่อสิ่งที่ควรจะทำ

นอกจากกระแสโลกแล้ว กลุ่มคนที่มีพลังทางเศรษฐกิจและสังคมต่างๆมีมากมาย เพียงแค่ขยันคบหา พูดจาและใช้เหตุผลกับผู้ที่มีเหตุผล เท่านี้ทุกอย่างก็จะราบรื่นแล้ว

เรื่องต่างๆที่กล่าวมานี้ไม่ต้องอาศัยเงินทุน ไม่ต้องอาศัยการชุมนุม ไม่ต้องอาศัยการสนับสนุนของพรรคการเมืองหรือกลุ่มใดๆ ต่างคนต่างมีศักยภาพที่จะทำในส่วนของตนเองได้

สิ่งที่ควรทำก็สามารถทำได้ง่ายๆคือ ทำให้บุคคลและกลุ่มต่างๆเข้าใจและเชื่อว่าการสนับสนุนการสร้างความไม่ยุติธรรมจะก่อปัญหาระยะยาวให้กับสังคมอย่างไร

เป้าหมายคือ ชักชวนและดึงกลุ่มหรือบุคคลเหล่านั้นให้ถอนตัวจากการสนับสนุนทิศทางที่ผิดพลาดนั้นเสีย จริงอยู่ระบบทุนผูกขาดที่สนับสนุนโครงสร้างอำนาจยังเข้มแข็งอยู่ แต่การชักชวนให้คนในทุกระดับไม่ใช้ ไม่สนับสนุนทุนผูกขาดนั้นก็ได้ โดยแต่ละคนต่างทำในส่วนของตนเอง ได้ผลหรือไม่ได้ผลแค่ไหนก็ถือเป็นการต่อสู้ในทางสันติและเศรษฐกิจแล้ว

ยังมีบุคคลและกลุ่มบุคคลอีกมากที่ยังสนับสนุนทุนผูกขาดนั้น ก็ชักชวนให้ถอนการสนับสนุนไปด้วย เพื่อให้ทุนผูกขาดต้องออกห่างจากการเมืองไปโดยปริยายจากความจำเป็นทางเศรษฐกิจ

กลุ่มที่ควรสนใจเข้าไปผูกมิตรเป็นเพื่อน นอกจากกลุ่มคนที่เข้าใจเรื่องประชาธิปไตยมาแต่เดิมแล้ว กลุ่มเหล่านี้ได้แก่กลุ่มหรือผู้มีชื่อเสียง ผู้ที่สนับสนุนทางการเงินหรือความเชี่ยวชาญของตนให้กับระบบ เพื่อให้ถอนการสนับสนุน หรือวางตัวเป็นกลาง รวมถึงผู้ที่มีอำนาจทางกฎหมายในระดับปฏิบัติทั่วไป เพราะเป็นผู้ไม่มีผลประโยชน์ได้เสีย นอกจากถูกสั่งมาเท่านั้น

ในการสร้างประชาธิปไตยและเสรีภาพควรเริ่มจากตัวเราก่อนที่จะไม่ยกใครมาเป็นนาย แต่เป็นผู้เลือกผู้นำจากกลุ่มของตนเองที่มีความสามารถจริง เพื่อไปชักชวนกลุ่มอื่นๆให้มาเป็นพวก เป็นเครือข่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มทางสังคมและเศรษฐกิจทั้งหลาย รวมถึงผู้ที่เคยสนับสนุนความไม่ยุติธรรมให้กลับใจและเลิกสนับสนุนดังที่กล่าวมา

ความสำเร็จในการสร้างเสรีภาพจึงไม่ใช่การใช้กำลัง แต่เป็นการทำให้การใช้กำลังไม่ได้รับการสนับสนุนอีกต่อไปต่างหาก


You must be logged in to post a comment Login