วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2567

‘วอยซ์’เอฟเฟ็ค

On March 29, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

หลังจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีมติ ให้ระงับใบอนุญาตสถานี Voice TV ทั้งช่อง เป็นเวลา 7 วัน นับตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 28 มีนาคม ถึงเวลา 00.00 น. วันที่ 3 เมษายน 2560 ได้มีผู้เกี่ยวข้องออกมาให้ความเห็นจำนวนมาก จากนี้คือบางส่วนของความคิดเห็นต่อกรณีการสั่งปิดสื่อทีวีในครั้งนี้

นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารวอยซ์ทีวี ระบุว่า เงื่อนไขการปิดสถานีโทรทัศน์ไม่ได้ถูกกำหนดให้ชัดเจน ยังเป็นเพียงการใช้ดุลพินิจ ที่สำคัญสื่อมีกฎหมายควบคุมอยู่แล้ว หากไม่นำเสนอข้อเท็จจริงก็ถูกฟ้องร้องได้ การปิดสื่อโดยไม่มีกรอบกติกาที่ชัดเจน ย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะไม่เปลี่ยนจุดยืนและจะพิจารณาดำเนินการทุกช่องทางที่มีเพื่อรักษาสิทธิของสถานี

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับรัฐบาลและคสช. ผู้เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการไปตามกฎหมาย เท่าที่ทราบสถานีนี้และสถานีอื่นเคยถูกตักเตือนมาแล้ว และระยะหลัง กสทช.เพิ่มความเข้มข้นในการจัดระเบียบสื่อโทรทัศน์มากขึ้น

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. ระบุว่า ขณะนี้คสช.มีอำนาจในการทำงานสั่งการด้านต่างๆ เพื่อให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย และเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ซึ่งต้องให้ความร่วมมือ บางครั้งมีหลายกรณีที่มีการพูดผ่านรายการโทรทัศน์และวิทยุต่างๆ โดยลืมไปว่าช่วงนี้เป็นรัฐบาลพิเศษ ที่มีอำนาจพิเศษ หลายคนคงลืมไป นึกว่าเป็นรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งตามปรกติ

น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งอยู่ระหว่างการพักปฏิบัติหน้าที่ทวีตข้อความ ระบุ วันนี้รอมติ กสท.ขอให้สั่ง True Visions ส่งแผนเยียวยายกเลิก 11 ช่องเพิ่ม ได้รับคำตอบว่า กสท.ยุติเรื่องไปแล้ว แต่มีมติพักใช้ช่อง Voice TV 7 วัน ถ้าวันนี้เรานั่งอยู่ในห้องประชุม ก็คงเป็นเสียงข้างน้อยอีกทั้ง 2 เรื่อง กรณี Voice TV มติลงโทษเกินกว่าเหตุมาก กรณี True Visions ก็อ่อนเบามาก พูดไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะวันนี้เราไม่มีหน้าที่และ Authority อีกต่อไป ทราบว่ามีมติอีกหลายเรื่องที่สังคมยังไม่ทราบแต่ควรทราบ เราก็เล่าไม่ได้แล้ว

จากนี้ผู้ประกอบการทั้งหมดต้องพยายามหาข้อมูลกันวงในเอง มีมติ กสท.หลายเรื่องที่ควรรู้ แต่เขาอาจจะไม่แถลงข่าว บอร์ด กสท.เหลือแค่ 3 แล้ว เรื่องต่างๆคงไปเร็วมาก หรือไม่ไปไหนเลย ถ้าไม่มีฝ่ายค้านข้างในคอยถ่วงดุลหรือมีภาคประชาสังคมคอยตรวจสอบจากข้างนอก ส่วนเรื่องเสรีภาพทางความคิดผ่านสื่อทีวี ดูแนวโน้มคงถูกจำกัดมากขึ้น โดยเฉพาะถ้าไม่ใช้หลักการและเหตุผลในการตัดสินใจ และไม่มีการถ่วงดุลในอำนาจ บรรยากาศจะเงียบลงไปอีกมาก ในทุกที่ของการใช้อำนาจในการตัดสินใจเรื่องที่กระทบประโยชน์สาธารณะ การมีกลไกถ่วงดุลอำนาจเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะไม่เช่นนั้นจะใช้อำนาจไม่สมดุล เมื่อการใช้อำนาจไม่สมดุล ย่อมก่อให้เกิดความไม่เป็นกลาง ไม่เป็นธรรม หลายมาตรฐาน เลือกปฏิบัติ ทำให้สังคมเพิ่มความขัดแย้ง ไม่สงบสุข เป็นวงจร การกำหนดบทลงโทษที่ไม่ได้สัดส่วน เป็นปัญหาหนึ่งของหลักนิติธรรมในการใช้กฎหมาย บางเรื่องผิดกฎหมายชัดแต่ลังเล บางเรื่องเป็นดุลพินิจแต่จัดหนักเลย จอดำที่ช่อง 21 จะส่งผลต่อบรรยากาศแห่งความกลัวไปยังช่องที่เหลือทั้งหมดด้วย เขาเรียกว่า Chilling Effect อย่าลืมใส่เสื้อหนาวในฤดูร้อน บอกตัวเองอีกครั้งว่าเราไม่มีหน้าที่ใน กสทช.อีก ก็ควรปล่อยวางบ้าง อะไรจะเกิด ก็คงเกิด และเราได้ผ่านมันมาแล้ว จากนี้ So be it.

พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ กสท. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ ชี้แจงว่า ก่อนมีคำสั่งปิดวอยซ์ทีวี ได้แจ้งให้ทางช่องรับทราบแล้ว การตัดสินของคณะอนุกรรมการฯ ทำตามกรอบของกฎหมาย มีบทลงโทษตั้งแต่เบาไปหาหนัก ตั้งแต่ตักเตือน และปรับ ก่อนมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาต และไม่มีอำนาจทางการเมืองเข้ามา

ด้านสมาคมผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ระบุรู้สึกหวาดหวั่นในการตัดสินบทลงโทษของ กสทช. แต่เข้าใจในการลงโทษของ กสทช.ตามลำดับ พร้อมทั้งเรียกร้องให้จัดตั้งองค์กรกำกับดูแลกันเองในอนาคต ซึ่งขั้นตอนอยู่ระหว่างดำเนินการ

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออกออกแถลงการณ์ร่วมเรียกร้อง กสทช.ทบทวนคำสั่ง กสท.ที่สั่งพักใบอนุญาต Voice TV เนื่องจากเห็นว่าส่งผลกระทบต่อธุรกิจและพนักงานของ Voice TV ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ถูกระบุว่าเป็นความผิด กสท.เป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ให้ใบอนุญาตกับผู้ประกอบการ และกำกับผู้ได้รับใบอนุญาต หากไม่ระมัดระวังในการใช้อำนาจ กสทช.จะเป็นองค์กรที่ทำลายเสรีภาพสื่อและองค์กรธุรกิจสื่อเสียเอง และการกล่าวอ้างคำสั่ง คสช.เท่ากับเปิดช่องให้อำนาจอื่นเข้ามาแทรกแซงการทำงาน การสั่งปิด Voice TV ยังขัดต่อหลักการรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านประชามติแล้วที่ให้การรับรองบุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน และใช้เสรีภาพเสนอข่าวสารหรือแสดงความคิดเห็นตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ หากเห็นว่าพิธีกรคนใดหรือรายการใดกระทำก็ควรดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดนั้นไม่ใช่สั่งปิดทั้งสถานี

ทั้งนี้ ยังมีความเห็นของบุคคล องค์กรทั้งในและต่างประเทศอีกมากมายต่อกรณีนี้ ในหลากหลายแง่มุมหลายมิติ ทั้งด้านการบังคับใช้กฎหมาย การเมือง หลักการใช้อำนาจ

อย่างไรก็ตาม เห็นด้วยกับ น.ส.สุภิญญา ว่าขณะนี้บรรยากาศแห่งความกลัวไปยังช่องที่เหลือทั้งหมด เขาเรียกว่า Chilling Effect อย่าลืมใส่เสื้อหนาวในฤดูร้อน


You must be logged in to post a comment Login