วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2567

โครงการ‘ดี เจอ มี’วัดสวนแก้ว / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On March 13, 2017

คอลัมน์ : พระพยอมวันนี้
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

ปีหนึ่งจะปิดเทอมใหญ่ให้เด็กๆได้พักการเรียน แต่การเรียนไม่ได้หมายความว่าต้องอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมตามระบบของกระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น ยังมีอะไรที่เป็นการศึกษาเพิ่มเติม เช่นที่วัดสวนแก้วมีการเปิดซัมเมอร์ให้เด็กมาฝึกการทำงาน หารายได้ หาประสบการณ์

พระพุทธเจ้าบอกว่าปัญญาย่อมเกิดในการหมั่นประกอบ ทำโน่นทำนี่เพื่อเสริมทักษะความรู้ ความฉลาด ความสามารถ เดี๋ยวนี้มีการทำโรงเรียนแบบใหม่กันเยอะ ครูบาอาจารย์ตั้งใจถ่ายทอดความรู้ให้เด็กๆทำมาหากินได้ ทำให้พอเพียง ทำให้อยู่ได้ ที่วัดก็ทำหลายรูปแบบ เด็กอยากบวชเณรศึกษาเรียนรู้ธรรมะก็ได้ อยากมาหารายได้ช่วยพ่อแม่เพื่อไม่เป็นลูกชาวเกาะก็ได้

อาตมาทำมาเป็นเวลา 20 กว่าปี เด็กที่เคยมาหาทุนเดี๋ยวนี้มีครอบครัว มีงาน มีอาชีพ ดำรงตำแหน่งดีๆก็มากมาย ประสบการณ์ที่วัดสวนแก้วทำให้เขาบริหารงานเป็น บริหารคนเป็น มีความรู้สึกนึกคิดเป็นมิตรเป็นเพื่อน ร่วมแรงร่วมใจกัน ไม่ขัดแย้ง ไม่ทะเลาะ ปัญญาก็จะตามมา ในอนาคตชีวิตก็รุ่งเรือง มีงาน มีหน้าที่ มีตำแหน่งดีๆในสังคม เพราะถูกบ่มเพาะให้เสียสละ อดทน ทั้งได้ทุนไปเรียนหนังสือ เพราะทางวัดให้วันละ 100 กว่าบาท กินอยู่เสร็จ

ทุนที่สำคัญที่สุดคือ อบรมให้เขารู้จักเสียสละ อดทน คิดเป็น ได้ประสบการณ์ที่น่าภูมิใจ เช่น รู้จักตอนต้นไม้ ชำต้นไม้ แต่งต้นไม้ รู้จักวิธีปลูกแบบสมัยใหม่ เราจะเป็นชาวนาก็ต้องเป็นชาวนาที่พัฒนา รู้การทำปุ๋ย ไม่ต้องไปซื้อ ต้นทุนก็ลดลง ทั้งยังอาจแนะนำพ่อแม่ ช่วยพ่อแม่ ได้ขุมทรัพย์ไปบอกพ่อแม่ คือปัญญา ความรู้ และประสบการณ์จากการทำงานที่วัดสวนแก้ว

ดังนั้น ใครมีลูกอย่าให้เป็นลูกชาวเกาะ โรงเรียนปิดเทอมอย่าไปมัวถีบจักรยานเล่น บางคนไม่คิดช่วยอะไรพ่อแม่เลย คิดแต่จะสนุกไปวันๆ พ่อแม่ก็ไม่เคยนึกเลยว่าปล่อยลูกไปอย่างนี้ลูกจะฉลาดได้มั้ย จะมีประสบการณ์อะไร ต่อไปจะลำบากมั้ย อย่าปล่อยให้ลูกสนุกไปวันๆ ไร้ปัญญา ไร้สมอง เราสอนเด็กที่เดิมเขาอนุบาลต้นไม้เขาก็ได้แค่อนุบาล ไม่เคยทำให้เป็นประถม มัธยม เดี๋ยวนี้เรามีการชำต้นไม้แบบอนุบาลแล้วเป็นประถมไปพักหนึ่ง แล้วขยับเป็นพวกอาชีวะ

เรามีกระถางแบบใหม่ เป็นนวัตกรรมแบบใหม่คือ กระถางแบบเก่าท้ายจะเล็ก ปากบาน รากก็จะรวมตัวขดอยู่ไม่เติบโต เราทำแบบใหม่คือ ท้ายบาน ปากลีบ ปลูกแล้วไม่จำเป็นต้องทุบตัวกระถาง สามารถดึงแล้วรูดขึ้นได้เลย กระถางก็สามารถเอากลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ ทำแบบนี้ต้นไม้ก็โตเร็ว รากไม่กระเทือน

ตรงนี้แหละที่เด็กไม่เคยพบเคยเห็น เขาก็จะได้เห็นเป็นตัวอย่างไปบอกพ่อแม่ หรือทำเป็นอาชีพได้ เพราะมีสติปัญญา มีประสบการณ์เหนือชาวไร่ชาวนาแบบเก่าๆ

ช่วงโรงเรียนปิดเทอมเป็นช่วงวิเศษของเด็กๆ อย่าปล่อยให้วันเวลาว่างเปล่าไปกับการเล่น เที่ยว แล้วเสี่ยงอันตราย โดยเฉพาะเด็กแถวป่าเขาดอยดง ช่วงโรงเรียนปิดเทอมถ้าพ่อแม่ไม่ได้ทำอะไร ไร่นายังทำไม่ได้เพราะแล้งก็ให้ลูกมาหาประสบการณ์ มีรายได้ที่เขาภูมิใจ

ปีหนึ่งๆเราจะรับ 300-400 คน 500 คนก็ยังรับได้ มีสาขาที่กบินทร์บุรี ปราจีนบุรี กาญจนบุรี และอยุธยา สามารถเลือกได้ ให้เด็กได้ฝึกงาน ความเป็นอยู่ก็สุขสบาย

ใครไม่รู้ก็ลองดู มาศึกษาดูว่าเด็กกลับไปแล้วจะเป็นยังไง บางคนบอกเมื่อก่อนไม่เคยขยันขันแข็ง เดี๋ยวนี้ขยันขันแข็ง “เหงื่อออกทางขุมขนดีกว่าขี้เกียจแล้วยากจนจนน้ำล้นออกทางตา” พูดให้เขาฟังอยู่เรื่อยๆจนเขาเริ่มได้คาถาบทนี้เอาไปใช้ในชีวิต ชีวิตก็ดีขึ้นแน่นอน

ขอฝากบอกสื่อผ่านถึงชาวบ้านให้ได้รับรู้ว่า วัดสวนแก้วเปิดฝึกฝนเด็กๆ ซึ่งทำมาหลายปีแล้ว บางคนอาจนึกว่าวัดสวนแก้วเป็นวัดแบบทั่วๆไป แต่วัดสวนแก้วสร้างบารมีและเมตตาให้เด็กได้ดิบได้ดี เราตั้งชื่อโครงการว่า “ดี เจอ มี” เพราะเขาดี ขยันดี เขาก็จะมีเงินมีทอง มีกินมีใช้ ถ้าเด็กมาอยู่แล้วดีก็จะมีกินมีใช้ ก็หวังว่าการบอกกล่าวกันต่อหน้าสื่อคงจะให้คุณให้ประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน ประเทศไทยจะได้ก้าวหน้า

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login