วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

‘จบ’แบบ‘ไม่จบ’?

On March 13, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

บ้านเมืองสัปดาห์นี้มีประเด็นร้อนให้ติดตามกันหลายเรื่อง

เรื่องแรกเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีขายหุ้นชินคอร์ป จาก ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 16,000 ล้านบาท แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันว่าไม่สามารถดำเนินการใดๆได้แล้ว

แต่ดูเหมือนว่าหลังมีข้อสรุปออกมาทำให้ฝ่ายตรงข้ามดร.ทักษิณ ทั้งที่อยู่นอกรัฐบาลและในรัฐบาลไม่พอใจ พากันออกมาขู่ว่าหากไม่เรียกเก็บภาษีในส่วนนี้จะต้องมีคนติดคุก และต้องมีคนจ่าย 16,000 ล้านบาท แทนดร.ทักษิณ

เมื่อเจอสถานการณ์นี้เข้าไปจึงน่าจับตาว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะกลับลำหรือไม่ เพราะเรื่องติดคุกกับจ่ายเงินแทนไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในยุคนี้

ก่อนคดีจะหมดอายุความในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ จึงต้องติดตามว่าที่สุดแล้วเรื่องเก็บภาษีจากดร.ทักษิณ จะได้บทสรุปสุดท้ายออกมาอย่างไร

เรื่องต่อมาที่ต้องติดตาม คือ สถานการณ์ของวัดพระธรรมกาย กับ พระธัมมชโย ที่ดูเหมือนว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น เมื่อฝ่ายวัดเลือกแนวทางสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต

ทั้งนี้ เนื่องจากรู้ดีว่าเรื่องคดีความนั้นคงไปพลิกให้เป็นอย่างอื่นได้ยาก และหากยังตรึงสถานการณ์แบบนี้ต่อไปพระทั้งวัดจะมีคดีความติดตัว เรียกว่าอาจติดคุกกันหมดวัดก็ว่าได้ จึงทำให้ได้เห็นภาพวัดยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพื้นที่ได้อีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าการตรวจค้นจะไม่พบพระธัมมชโย

เมื่อค้นแล้วไม่พบ เจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่เสียหน้าที่จะถอนกำลังกลับหลังจากปิดล้อมวัดมาตั้งแต่วันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา

ส่วนพระธัมมชโยไม่ว่าจะถูกคำสั่งให้สละสมณเพศหรือไม่ ก็คงล่องหนหายตัวไปค่อนข้างแน่นอน แต่การหายตัวไปจะไม่สบายเหมือนอดีตพระที่ถูกให้สละสมณเพศก่อนหน้านี้ คงต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ เพราะว่ามีคดีฟอกเงินซึ่งเป็นหนึ่งในข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนติดตัวอยู่

ถ้าจะหนีไปอยู่ต่างประเทศก็ต้องลุ้นว่าประเทศที่ไปอยู่จะส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับไทยหรือไม่ โดยทางรอดมีอยู่ทางเดียวคืองัดพยานหลักฐานสู้คดีในศาลประเทศนั้น เพื่อให้เห็นว่าคดีฟอกเงินที่เป็นชนักปักหลังอยู่เป็นข้อกล่าวหาเลื่อนลอยไม่มีน้ำหนัก

เรื่องวัดพระธรรมกายก็คงจบไปในแนวทางนี้

ประเด็นสุดท้ายที่ต้องจับตาดูในสัปดาห์นี้ คือ เรื่องการสร้างความปรองดองหลังจากที่พรรคการเมืองใหญ่น้อยตบเท้าให้ความเห็นต่อคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ในคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองครบทุกพรรคแล้ว

เท่าที่ติดตามจากคำแถลงสรุปข้อเสนอของพรรคการเมืองแต่ละพรรคที่ผ่านมาพอสรุปได้ว่าสิ่งที่ทุกพรรคเสนอนั้นจะเน้นหนักไปในเชิงหลักการ ซึ่งล้วนเป็นเรื่องเก่าที่พูดกันมาต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

สรุปคือเวทีรับฟังความคิดเห็นจากพรรคการเมือง รวมไปถึงเวทีที่ไปเปิดตามต่างจังหวัดจะไม่ได้ข้อเสนออะไรใหม่ๆ จึงต้องรอดูว่ารัฐบาลทหารคสช.จะนำข้อเสนอเก่าๆที่รู้กันมานานแล้วเหล่านี้ไปทำให้เกิดความปรองดองขึ้นในสังคมได้อย่างไร

แต่ดูแล้วไม่ง่าย เพราะสิ่งที่ปฏิบัติอยู่ทุกวันนี้ มีหลายเรื่องที่สวนทางกับหลักการที่จะทำให้เกิดความปรองดอง

สรุปสัปดาห์นี้เรื่องพระธัมมชโย เรื่องวัดพระธรรมกายคงจะจบอย่างที่ประกาศกันเอาไว้ แต่จะเป็นการจบแบบค้างคาใจกองเชียร์ ทิ้งปมเอาไว้รอให้เกิดภาค 2 ภาค 3 ต่อไปในอนาคต

เรื่องเก็บภาษีจากดร.ทักษิณ ยังพอมีเวลาให้พิจารณาอีกระยะหนึ่งก่อนคดีหมดอายุความ กรณีนี้มือกฎหมายของรัฐบาลบอกว่ายังพอมีช่องทางดำเนินการได้อย่างน้อย 3 ช่องทาง เมื่อมือกฎหมายออกมาพูดอย่างนี้ ก็คงพอมองเห็นแนวโน้มบทสรุปของเรื่องนี้ว่าจะออกมาในทิศทางไหน อย่างไร

สำหรับเรื่องการสร้างความปรองดองก็คงถูกใช้เป็นประเด็นรักษาเครดิตว่าเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาขัดแย้งต่อไป โดยที่ยังไม่มีอะไรคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม


You must be logged in to post a comment Login