- ความตายอย่ามาเยือนบ่อยPosted 23 hours ago
- ขึ้นภูดูเขาสู้กันPosted 2 days ago
- กลับมาอยู่กับความดีมากๆPosted 3 days ago
- ตั้งใจทำให้ดี อย่าท้อPosted 4 days ago
- ต้องรู้จัก “อนิจจัง” ให้ลึกซึ้งPosted 5 days ago
- กลืนเลือดไม่ให้เสียใจPosted 1 week ago
- ระลึกถึงพ่อหลวง ร.9Posted 1 week ago
- 5 ธ.ค.วัดสวนแก้วแตกแน่Posted 1 week ago
- จะกลับมาแบบไหนPosted 2 weeks ago
- เลือกงานให้โดน บริหารคนให้เป็น ตาม“ลัคนาราศี”Posted 2 weeks ago
มหาวิทยาลัยมีไว้ทำไม? / โดย สุรพศ ทวีศักดิ์
คอลัมน์ : ทรรศนะแสงสว่าง
ผู้เขียน : สุรพศ ทวีศักดิ์
สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวฮือฮาเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากในโลกโซเชียลคือ การออกแถลงการณ์ของสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560 เรียกร้องให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) “ยุติการใช้อำนาจตามมาตรา 44” ด้วยเหตุผลว่า “เป็นการใช้อำนาจที่เผด็จการและขัดหลักนิติธรรม” นอกจากนี้ยังใช้อย่างพร่ำเพรื่อไม่มีเหตุผลอันควร
แต่ในวันถัดมามหาวิทยาลัยมหิดลกลับออกแถลงการณ์โต้แถลงการณ์ดังกล่าวว่า “มหาวิทยาลัยมหิดลขอให้กลุ่มบุคคลยุติการกระทำดังกล่าวในทันที การกระทำดังกล่าวไม่ใช่เสรีภาพทางวิชาการ เป็นการแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยมหิดลในทางที่เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย ซึ่งทางมหาวิทยาลัยจะได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาทางวินัยต่อไป”
มีประเด็นที่น่าสนใจคือ แถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยมหิดลสั่งให้กลุ่มบุคคลที่ออกแถลงการณ์ในนามสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ยุติการคัดค้านการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในทันที โดยให้เหตุผลว่า “ไม่ใช่การใช้เสรีภาพทางวิชาการ” แต่ “เป็นการแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยมหิดลในทางที่เกิดความเสียหายต่อสื่อเสียงของมหาวิทยาลัย ซึ่งทางมหาวิทยาลัยจะได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาทางวินัยต่อไป”
คำถามคือ แถลงการณ์เรียกร้องให้ยุติการใช้อำนาจตาม ม.44 ไม่ใช่เสรีภาพทางวิชาการอย่างไร เป็นการแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยในทางที่เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงอย่างไร และจะเป็นเหตุให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาทางวินัยได้อย่างไร
ประเด็นแรก การที่กลุ่มบุคคลหรือหน่วยงานในมหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ใดๆต่อสาธารณชนบนพื้นฐานของการคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะหรือผลประโยชน์ของส่วนรวม ย่อมถือว่าเป็นการใช้ “เสรีภาพทางวิชาการ” โดยพื้นฐานอยู่แล้ว
โดยเฉพาะการออกแถลงการณ์ให้ยุติการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ซึ่งเป็นเผด็จการ ย่อมเป็นการแสดงออกบนพื้นฐานของการยืนยันสิทธิและเสรีภาพของประชาชน จึงเป็นแถลงการณ์ที่มีสาระสำคัญเป็นการต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิและเสรีภาพของประชาชน จะบอกว่านี่ไม่ใช่เสรีภาพทางวิชาการได้อย่างไร ใช้หลักเกณฑ์อะไรในการตัดสิน
ประเด็นที่สอง ถ้ากลุ่มบุคคลที่ออกแถลงการณ์สังกัดสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล เขาก็ย่อมมีสิทธิใช้เสรีภาพทางวิชาการภายใต้ชื่อสถาบันที่เขาสังกัดเพื่อเสนอประเด็นสาธารณะ หรือประเด็นที่ก่อให้เกิดประโยชน์สาธารณะ จะกล่าวหาว่าเขาแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยได้อย่างไร
ประเด็นที่สาม การออกแถลงการณ์ให้ยุติการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ซึ่งเป็นการปกป้องสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน จะเป็นการอ้างชื่อมหาวิทยาลัยในทางที่เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงได้อย่างไร และจะเป็นเหตุให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและพิจารณาทางวินัยได้อย่างไร
อะไรคือ “ชื่อเสียง” ที่มหาวิทยาลัยควรพิทักษ์รักษาไว้ การปกป้องสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนไม่ใช่การประกาศชื่อเสียง เกียรติภูมิที่ควรยกย่องของมหาวิทยาลัยชั้นนำดอกหรือ
เมื่อย้อนดูปรากฏการณ์หลังรัฐประหาร 2549 และ 2557 บรรดาผู้บริหารมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่งพากัน “ตบเท้า” เข้าไปรับตำแหน่งต่างๆทั้งในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร กรณีเช่นนี้กลับไม่เคยมีมหาวิทยาลัยแห่งใดออกแถลงการณ์ว่าเป็นการทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยเลย
แปลว่าการให้ความร่วมมือ การเข้าไปมีส่วนร่วมในรัฐบาลจากรัฐประหาร และหรือการสนับสนุนการใช้อำนาจเผด็จการ ไม่ได้ทำให้มหาวิทยาลัยเสื่อมเสียชื่อเสียงแต่อย่างใด แต่การคัดค้านการใช้อำนาจเผด็จการกลับทำให้มหาวิทยาลัยเสียชื่อเสียง
ในความเป็นจริงมหาวิทยาลัยไม่ใช่ของผู้บริหาร แต่เป็นสมบัติร่วมกันของประชาคมมหาวิทยาลัยและของประชาชน ฉะนั้นชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยจึงไม่ได้อยู่ใน “อำนาจนิยาม” ของผู้บริหารเท่านั้น
คือผู้บริหารจะบอกไม่ได้ว่าที่พวกฉันสนับสนุนรัฐประหาร เข้าไปมีตำแหน่งในรัฐบาลจากรัฐประหาร ทำตัวเป็น “เด็กดี” ภายใต้อำนาจเผด็จการ เป็นการสร้างชื่อเสียงเกียรติภูมิแก่มหาวิทยาลัย ส่วนอาจารย์ นักศึกษา หรือกลุ่มประชาคมมหาวิทยาลัยอื่นๆที่เรียกร้องสิทธิ เสรีภาพ ประชาธิปไตย หรือต้านเผด็จการ ทำให้มหาวิทยาลัยเสียชื่อเสียง นิยาม “ชื่อเสียง” ของมหาวิทยาลัยจะเป็นแบบนี้ไม่ได้
แต่ก็เป็นเรื่องน่าเศร้าที่มหาวิทยาลัยยุคปัจจุบันได้กลายเป็นแดนสนธยาแห่งเสรีภาพ ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน เป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูงของชาติที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่าประชาชนที่จ่ายภาษีเลี้ยงดูต้องตกอยู่ในสภาพถูกกดขี่ ถูกปล้นอำนาจ และถูกละเมิดสิทธิ เสรีภาพอย่างไรบ้าง
แล้วตกลงมหาวิทยาลัยมีไว้ทำไม มีไว้สนับสนุนเผด็จการหรือประชาธิปไตย!
You must be logged in to post a comment Login