วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

เหวี่ยงกลับม.44

On March 3, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

ในขณะที่มีคนจำนวนไม่น้อยสนับสนุนการใช้อำนาจพิเศษตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตรา 44 หน่วยงานราชการหลายหน่วยเข้าคิวเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้มาตรา 44 เพื่อแก้ปัญหาหลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องเล็กไปถึงเรื่องใหญ่

ขณะที่ตัวพล.อ.ประยุทธ์เองก็เห็นว่าอำนาจตามมาตรา 44 มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เพื่อแก้ปัญหาหลายเรื่อง และเห็นว่า มาตรา 44 ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือการไม่เคารพกฎหมาย และยังพูดทีเล่นทีจริงว่าหาก มาตรา 44 ไม่ได้ผล จะร่างใหม่เป็นมาตรา 88 เบิ้ลเป็นสองเท่าดูสิว่าจะแก้ปัญหาได้ไหม

ในขณะที่หลายฝ่ายเห็นดีเห็นงามกับมาตรา 44 เพราะว่าเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่ก็มีอีกหลายคนที่เป็นห่วงกับการใช้อำนาจพิเศษนี้

ล่าสุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ออกมาแสดงความกังวลว่าการใช้มาตรา 44 มากเกินไป หรือใช้แบบพร่ำเพรื่ออาจมีปัญหาตามมาในอนาคตได้

“หลายคนมองว่ามาตรา 44 เป็นอำนาจเบ็ดเสร็จ เมื่อรัฐบาลใช้แล้วไม่สามารถที่จะโต้แย้งได้ มีความรวดเร็ว มีผลได้ทั้งทางนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ เพราะฉะนั้นใครอยากได้อะไรก็คิดว่าถ้าใช้มาตรา 44 นี้ก็ง่ายดี แต่ส่วนตัวไม่ค่อยอยากให้ใช้มากนัก เราอาจจะไว้ใจคนที่ใช้อำนาจนี้อยู่ แต่ทุกคนมีผิดพลาดได้ หรืออาจจะได้ข้อมูลไม่รอบด้าน การใช้อำนาจแบบนี้พอโต้แย้งไม่ได้ ก็มีประเด็นปัญหาที่ตามมาได้ ดังนั้นหลายเรื่องเราสามารถใช้กฎหมายปรกติได้จึงควรได้วางรากฐานสำหรับอนาคตด้วย เพราะวันข้างหน้าอย่างไรเราก็ไม่มีมาตรา 44 อยู่แล้ว

การใช้อำนาจพิเศษนี้ คือคนจะติด คนที่พอใจก็ติด อยากได้อีก แล้วก็ถ้าใช้อำนาจอย่างนี้อยู่เรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ก็มีความรู้สึกว่ามันง่ายดี เพราะว่ามันโต้แย้งไม่ได้ ไปฟ้องศาลปกครองก็ไม่ได้ อะไรก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็อยากจะเตือนว่า ถ้าใช้มากๆ บ่อยๆ เข้า ระวังว่าถึงเวลาสุดท้ายบ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปรกติ เครื่องมือเครื่องไม้และความเข้าใจของสังคมในการแก้ปัญหาก็จะมาติดกับตัวนี้ อย่างกรณีวัดพระธรรมกาย ที่ต้องอธิบายตลอดว่าทำไมต้องใช้ เนื่องจากเป็นสิ่งที่เขาคัดค้าน และรัฐก็ชูมาตรา 44 มาเป็นหลัก ทั้งที่ความจริงก็แปลกอยู่แล้ว เพราะว่าสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำไม่ใช่มีอะไรพิเศษ นอกจากบังคับใช้กฎหมาย”

สิ่งที่นายอภิสิทธิ์ พยายามเตือนคือ วันข้างหน้าเมื่อไม่มีอำนาจตามมาตรา 44 จะใช้กฎหมายปรกติแก้ปัญหากันไม่เป็น เพราะการใช้กฎหมายปรกติต้องสามารถตรวจสอบได้ ทัดทานได้ ฟ้องร้องได้ จะกลายเป็นกับดักว่ากลัวโดนตรวจสอบ กลัวโดนฟ้องแล้วไม่กล้าทำอะไร ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในอนาคตได้

การใช้อำนาจมาตรา 44 ยังเป็นดาบสองคมที่อาจทิ่มแทงผู้ใช้อำนาจนี้ได้ เพราะเมื่อประกาศใช้อำนาจพิเศษนี้แล้วคนก็ตั้งความหวังสูงว่าจะมีความเบ็ดเสร็จเด็ดแก้ปัญหาต่างได้รวดเร็วและถูกต้อง แต่ความจริงไม่ใช่ ยกตัวอย่างเช่น กรณีของวัดพระธรรมกายที่ประกาศใช้อำนาจพิเศษมานานครึ่งเดือนแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้าในการปฏิบัติในระดับที่ควรจะเป็น

แถมยิ่งนานวันมุมด้านลบของอำนาจมาตรา 44 ยังถูกตีแผ่ออกมาเรื่อยๆ กลายเป็นสิ่งกัดกร่อนอำนาจพิเศษให้ผุพังลงไปเรื่อยๆ

กรณีของวัดพระธรรมกายเป็นเครื่องบ่งชี้ชัดเจนว่านอกจากอำนาจพิเศษตามมาตรา 44 จะไม่แก้ปัญหาได้เบ็ดเสร็จตามจุดมุ่งหมายของการให้อำนาจแล้ว ยังกลายเป็นว่าไปช่วยเขี่ยไฟความขัดแย้งในสังคมให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง

ดังจะเห็นได้จากการแบ่งข้างเชียร์กันอย่างออกหน้าโดยไม่สนใจข้อมูลเหตุผลที่ปรากฏอยู่มากมายในตอนนี้


You must be logged in to post a comment Login