วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

‘สิงคโปร์’ ดิ้นหนีภาวะถดถอย

On February 21, 2017

เศรษฐกิจของสิงคโปร์ปีที่แล้ว ดิ่งลงสู่หุบเหวแห่งความไม่แน่นอน ทำให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กและกลาง รู้สึกหนาวๆร้อนๆ กับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้

สิงคโปร์เคย “ชื่นมื่น” กับภาวะเศรษฐกิจเบ่งบานคึกคักมานาน นับจากสิ้นสุดวิกฤตการเงินโลกระหว่างปี 2008-2009 โดยปี 2010 เศรษฐกิจของสิงคโปร์ขยายตัวถึง 15.2%

แต่ปีที่ผ่านมา บรรยากาศซบเซาวังเวง ส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตเพียง 1.8% เป็นอัตราขยายตัวต่ำสุดในรอบ 7 ปี ทำให้ลูกจ้างถูกลอยแพประมาณ 19,000 คน มากสุดในรอบ 7 ปี โดยมากกว่าปีก่อนที่ถูกเลิกจ้าง 15,580 คน

ธุรกิจขนาดเล็กและกลาง (เอสเอ็มอี) ได้รับผลกระทบมากสุด ขณะประเภทธุรกิจที่ตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่สุด ได้แก่ ธุรกิจคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม และธุรกิจบริการอื่นๆ

แต่ธุรกิจดูแลสุขภาพ (Health care) ไอที และภาคอุตสาหกรรมการผลิต แทบไม่ได้รับผลกระทบเลย

สำหรับสาเหตุที่ฉุดเศรษฐกิจสู่ช่วงขาลง นักวิเคราะห์มองกันหลายปัจจัย ส่วนหนึ่งมองว่าได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก และจากความไม่แน่นอนด้านสถานการณ์ทางการเมืองในภูมิภาค

อินเดอร์จิท ซิงห์ อดีตสมาชิกรัฐสภา มองใกล้เคียงกันว่า เป็นเพราะสิงคโปร์พึ่งพา 3 ปัจจัยเป็นหลัก คือการส่งออก การลงทุนของนักธุรกิจต่างชาติ และการจ้างค่าแรงถูก เมื่อปัจจัยเหล่านี้เปลี่ยนไป ทำให้เศรษฐกิจของประเทศทรุด

ในปีนี้ การคาดการณ์ยังอยู่ในข่ายไม่ค่อยดีนัก โดยรัฐบาลคาดว่า อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจจะอยู่ระหว่าง 1-3% ขณะธนาคาร United Overseas Bank คาดว่าจะไม่แตกต่างจากปีที่แล้วที่ 1.8%

ความอึมครึมดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการส่วนหนึ่งวิตกว่า เศรษฐกิจจะดิ่งสู่ภาวะถดถอย จึงพยายามหาวิธีให้อยู่รอดด้วยแนวทางต่างๆหลายทฤษฎี

ส่วนหนึ่งใช้แผนลดจำนวนบุคลากร และลดขนาดกิจการให้เล็กลง และอีกส่วนหนึ่งมองว่า ตลาดต่างประเทศยังคงเป็นตัวช่วยแบ่งหนักให้เป็นเบาได้ 

บริษัท Ademco Security Group ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดย่อม ระบุว่าตลาดอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ยังไปได้ดี ช่วยให้บริษัทมีรายได้มาชดเชยภาวะขาดทุนในสิงคโปร์

ท่ามกลางบรรยากาศทางเศรษฐกิจ ที่ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กและกลาง รู้สึกหนาวๆร้อนๆ เคิร์ท วี ประธานสมาคมเอสเอ็มอี ออกมาปลอบใจว่า ช่วงเศรษฐกิจเลวร้ายที่สุดน่าจะผ่านไปแล้ว

แต่เคิร์ท วี ก็มองว่า ภาวะเศรษฐกิจสิงคโปร์ปีนี้ จะดำเนินไปแบบ “ไซด์เวย์” เป็นกราฟรูปตัวแอล (L) ยังไม่ถึงขั้น “เวย์อัพ” เป็นรูปตัววี (V)


You must be logged in to post a comment Login