- กลืนเลือดไม่ให้เสียใจPosted 2 days ago
- ระลึกถึงพ่อหลวง ร.9Posted 2 days ago
- 5 ธ.ค.วัดสวนแก้วแตกแน่Posted 3 days ago
- จะกลับมาแบบไหนPosted 4 days ago
- เลือกงานให้โดน บริหารคนให้เป็น ตาม“ลัคนาราศี”Posted 4 days ago
- ต่างศาสนา ต่างชาติพันธุ์ อยู่ร่วมกันภายใต้ความแตกต่างPosted 4 days ago
- โลภ•ลวง•หลง เกมพลิกชีวิต รีแบรนด์หรือรีบอร์นPosted 4 days ago
- กูไม่ใช่ไก่ต้มเว้ย! อย่ามาต้มกูเลย..Posted 4 days ago
- หยุดความรุนแรง-ลวงโลกPosted 5 days ago
- อ.เบียร์ช่วยวัดสวนแก้วPosted 1 week ago
เสน่ห์ทางจักรยาน / โดย ณ สันมหาพล
คอลัมน์ : โลกไม่หยุดนิ่ง
ผู้เขียน : ณ สันมหาพล
ต้องทำความเข้าใจคำว่า Path และ Trail โดย Path แปลว่าทางที่สร้างเพื่อเป็นทางเฉพาะ ไม่ใช่ทางทั่วไปเหมือน Road ปัจจุบันใช้มากกับคำว่า Bike Path แปลว่าทางจักรยาน หรือทางที่ใช้เฉพาะการขี่จักรยาน ส่วน Trail มักใช้ในกรณีที่เป็นทางในป่าหรือที่รก
เพราะทางจักรยานต้องปลอดจากรถยนต์ หรือ car-free bike path เดิมทางธรรมชาติถูกใช้เป็นทางเดิน ขี่ม้า เกวียน รวมทั้งทางรถไฟ พอยุคจักรยานก็กลายเป็นทางจักรยานที่ห้ามรถยนต์วิ่ง
นี่คือเสน่ห์ของผู้รักจักรยานทั่วโลกในการขี่จักรยาน อย่างที่สหรัฐมีทางจักรยานมากมายในป่า แต่ละแห่งมีความงามและความท้าทาย รวมถึงความปลอดภัยล้นเหลือ
นิตยสาร Bicycling Magazine แนะนำทางจักรยานในป่าที่น่าสนใจคือ 1.George S. Mickelson Trail เดิมเป็นทางรถไฟในรัฐเซาท์ดาโคตา ภาคกลางตอนเหนือ มีเทือกเขา Black Hills เป็นสถานที่สำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ มีความยาว 109 ไมล์ ตลอดทางมีสถานที่ธรรมชาติและสถานที่หลายแห่งเป็นตำนาน อย่างร้านเหล้าที่จอมคาวบอย Wild Bill ถูกยิงขณะนั่งเล่นโป๊กเกอร์
2.Banks Vernonia Trail รัฐออริกอน ตอนเหนือรัฐแคลิฟอร์เนีย มีความยาว 21 ไมล์ เดิมเป็นทางรถไฟ และมีสภาพป่าที่ติดมหาสมุทรแปซิฟิก ไม่ห่างจากมหานครพอร์ตแลนด์ที่เป็นมหานครจักรยานอันดับ 3 ของสหรัฐ ทำให้ผู้ขี่จักรยานเพลิดเพลินกับการขี่ในป่า และยังได้สัมผัสสะพานรถไฟเก่าถึง 13 แห่ง รวมถึงร้านกาแฟที่ให้บริการนักจักรยาน
3.Carriage Trails วนอุทยานแห่งชาติ Acadia National Park รัฐเมน ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก ชื่อแปลว่าทางรถม้าโดยสาร เดิมสร้างเพื่อเป็นเส้นทางสำหรับรถม้าระหว่างปี 1913-1940 สร้างโดย John D. Rockefeller Jr. ทายาทตระกูลอภิมหาเศรษฐี ความยาว 45 ไมล์ บรรยากาศของป่าที่มีทั้งน้ำตก สะพานหิน และทะเล มีสถานที่พักแรมและชมทิวทัศน์ป่าผสมภูเขาที่งดงาม
4.American River Bike Trail ทางจักรยานในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ได้ชื่อจากแม่น้ำที่ไหลผ่านทางตอนกลาง นักจักรยานที่ไปขี่จักรยานในรัฐนี้ก็จะนึกถึงมหาสมุทรแปซิฟิก เพราะธรรมชาติริมมหาสมุทรที่เหมือนริมแม่น้ำตลอดความยาว 32 ไมล์ หลายจุดถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ที่ทอดตัวยาวเป็นอุโมงค์ และมีสะพานที่สร้างเลียนแบบสะพานโกลเด้นเกท โดยไปสิ้นสุดที่นครแซคราเมนโต เมืองหลวงรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีเรื่องราวรอให้นักจักรยานที่รักประวัติศาสตร์ค้นหา
5.Katy Trail รัฐมิสซูรี เป็นรัฐภาคใต้ที่เดิมเป็นทางรถไฟ โดยบริษัทรถไฟ Amtrak ให้การดูแลและให้บริการนักจักรยานที่ไปเยือน ซึ่งเจ้าหน้าที่การรถไฟไทยน่าจะนำมาพัฒนาเส้นทางจักรยานเพื่อสร้างรายได้และส่งเสริมการท่องเที่ยวใหม่ คือขี่จักรยานตามเส้นทางรถไฟ ซึ่งจะคิดค่าตั๋วตามราคาปรกติ และเพิ่ม 10 เหรียญสำหรับการนำจักรยานติดตัวไปอย่างที่รัฐมิสซูรี คือสามารถเลือกลงรถไฟที่ปากทางเข้า 25 จุดของความยาว 225 ไมล์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ยาวที่สุดสายหนึ่ง
นี่เป็นเสน่ห์ของทางจักรยานสำหรับผู้ขี่จักรยานระยะไกล เป็นการขี่จากฟากหนึ่งไปอีกฟากหนึ่งแบบไม่อ้อมค้อม ซึ่งตลอดทางมีทิวทัศน์ที่น่าชมและสถานที่น่าแวะเที่ยวมากมาย รวมถึงประวัติศาสตร์ที่นักจักรยานสามารถขี่ตามรอยในอดีต
ที่กล่าวมาคือ Lewis and Clark National Historic Trail เส้นทางโบราณที่ 2 นักสำรวจคนสำคัญคือ Lewis & Clark เคยใช้เดินทางสำรวจดินแดนฝ่ายตะวันตกของสหรัฐ และปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์ในฐานะเส้นทางที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ชาติ
เส้นทางจักรยานที่ปลอดรถยนต์ยังมีที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง โดยเฉพาะทางรถไฟที่อยู่ในป่า แม้เวลาผ่านมายาวนานและกลายเป็นทางจักรยานไปแล้ว แต่ก็ยังมีสภาพของป่าอย่างน่าทึ่ง
ไม่ใช่เฉพาะผู้รักจักรยานเท่านั้น แต่เป็นเรื่องราวที่คนไทยทุกคนน่าจะนำมาศึกษา
You must be logged in to post a comment Login