งานหนัก‘ผู้นำใหม่ยูเอ็น’

• Tweet
• 

นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เข้าดำรงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) อย่างเป็นทางการ แทนนายบัน คี มูน แห่งเกาหลีใต้ ท่ามกลางปัญหาหนักนานัปการที่โลกกำลังเผชิญ

อดีตนายกรัฐมนตรีโปรตุเกส และอดีตข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) วัย 67 ปี ได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่ยูเอ็น ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ เมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา โดยเป็นเลขาธิการยูเอ็นคนที่ 9 มีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี

วาระดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เริ่ม 1 มกราคม ที่ผ่านมา แต่กูเตอร์เรสเข้าปฏิบัติหน้าที่ ที่สำนักงานใหญ่ยูเอ็นในนครนิวยอร์ก สหรัฐ เมื่อวันอังคารที่ 3 มกราคม

ผู้นำยูเอ็น เป็นตำแหน่งนักการทูตงานหนักที่สุดในโลก ขณะเดียวกันก็เป็นความหวังของประชาคมโลกที่เดือดร้อน ทั้งจากภัยธรรมชาติ และภัยจากมนุษย์ด้วยกัน

กูเตอร์เรสกล่าวว่า ภารกิจสำคัญที่สุดที่ต้องดำเนินการ คือการป้องกันและแก้ปัญหาเหตุการณ์วิกฤตต่างๆ รวมทั้งการส่งเสริมสันติภาพ

วิกฤตความขัดแย้ง ความไม่เสมอภาค และการละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นปัญหาสำคัญที่ต้องป้องกันและแก้ไข เพราะเป็นสาเหตุก่อให้เกิดการก่อการร้ายทั่วโลก

อีกภารกิจหนึ่ง คือการขจัดความหวาดระแวงซึ่งกันและกันระหว่างชาติสมาชิกยูเอ็น โดยสร้างความไว้วางใจกันขึ้นมาแทน เพื่อนำไปสู่ความเป็นปึกแผ่น เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ผู้นำใหม่ยูเอ็นเห็นว่า ความสำเร็จของการแก้ไขปัญหา มาจากความร่วมมือกันเป็นพหุภาคีของชาติสมาชิกยูเอ็น ต้องทำงานเป็นทีมเวิร์ค “ปัญหาระดับโลก ต้องแก้ด้วยวิธีการระดับโลก” ไม่ใช่ปล่อยให้ชาติสมาชิกยูเอ็นชาติใดชาติหนึ่ง แก้ไขปัญหาเพียงลำพัง

อีกหนึ่งงานหนัก ที่กูเตอร์เรสต้องแก้ปัญหา คือท่าทีของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ “ดูแคลน” ยูเอ็น ไว้ก่อนหน้านี้

ทรัมป์กล่าวเสียงดังฟังชัดว่า ยูเอ็นเป็นองค์กรมีศักยภาพ แต่ไม่เคยใช้ศักยภาพให้เป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาเลย ทำให้ปัจจุบัน ยูเอ็นเป็นเพียงสโมสรพบปะสังสรรค์ของบุคคลกลุ่มหนึ่งเท่านั้น

ว่าที่ผู้นำสหรัฐแย้มเงื่อนไขไว้ว่า หากต้องการให้สหรัฐเข้าไปมีส่วนร่วม ยูเอ็นต้องมีการปฏิรูป ไม่เช่นนั้น เข้าไปก็ไร้ประโยชน์

ด้วยเงื่อนไขดังกล่าว สหรัฐ ซึ่งเป็นชาติสมาชิกสำคัญที่สุดในด้านการให้เงินช่วยเหลือยูเอ็น คล้ายจะกลายเป็นตัวปัญหาสำคัญในอันดับต้นๆ หากกูเตอร์เรสไม่เออออตาม

You must be logged in to post a comment Login