วันพฤหัสที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

มีอะไรแน่นอน?

On December 31, 2016

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

เริ่มต้นด้วยการสวัสดีปีใหม่ 2560 เมื่อปีลิงผ่านไป ปีไก่เข้ามาแทน แต่สถานการณ์บ้านเมืองไทยก็มีแนวโน้มยังไม่อะไรเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ชัดเจน

แม้แต่โรดแม็พที่จะไปสู่การเลือกตั้ง คืนอำนาจให้ประชาชน เพราะกำหนดการเลือกตั้งก็เลื่อนมาแล้วหลายรอบด้วยเหตุผลความจำเป็นของคณะรัฐประหาร

จากเดิมตามโรดแม็พประกาศกับประชาชนว่า ขอเวลาไม่นานจะคืนความสุขให้ประเทศ จะคืนความสุขให้คนในชาติ จนสุดท้ายจะมีการเลือกตั้งในช่วงปลายปี 2560 นี้ โดยท่านผู้ยืนยันอย่างหนักแน่นไม่ข้ามไปปี 2561 แน่นอน

แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้กับบ้านนี้เมืองนั้ จึงไม่มีอะไรแน่นอน เพราะมีเหตุปัจจัยหลายปัจจัยหลายเงื่อนไขที่ต้องรอความชัดเจน

ปัจจัยสำคัญประการแรกคือ ต้องดูว่าร่างรัฐธรรมนูญที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์อาชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงนามทูลเกล้าฯไปตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา จะมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ กลับลงมาเมื่อไหร่
ตามเงื่อนเวลาที่กำหนดไว้ในกฎหมาย เมื่อนายกฯทูลเกล้าฯ แล้ว ต้องรอพระบรมราชวินิจฉัยเป็นเวลา 90 วัน หากภายใน 90 วันมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ กลับลงมา ร่างรัฐธรรมนูญใหม่จึงจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ

หากพ้นกำหนด 90 วันแล้วไม่โปรดเกล้าฯ ลงมา ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็มีอันตกไป ถือว่าสิ้นสภาพและต้องเริ่มต้นนับหนึ่งยกร่างกันใหม่

เมื่อยกร่างกันใหม่ แน่นอนว่าโรดแม็พสู่การเลือกตั้งก็ต้องเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิมโดยปริยาย

อย่างไรก็ตาม แม้จะทรงโปรดเกล้าฯลงมาตามกรอบเวลา แต่การเลือกตั้งก็อาจเลื่อนไปเป็นช่วงต้นปี 2561 ได้ เพราะช่วงปลายปีคนไทยทั้งประเทศต้องร่วมส่งเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นครั้งสุดท้าย ทำให้บรรยากาศอาจไม่เอื้อต่อการจัดการเลือกตั้ง

ในช่วงระหว่างรอจัดการเลือกตั้ง ยังมีปัจจัยอื่นที่สามารถแทรกซ้อนจนทำให้โรดแม็พเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนขยับปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา

และต้องไม่ลืมว่า ในช่วงปี 2561 นี้มีหลายเรื่องและคดีความต่างๆ จะต้องมีความชัดเจน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์การเมือง

เรื่องที่น่าจะมีเอฟเฟกค์มากที่สุดคงหนีไม่พ้นคดีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งคาดว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองน่าจะพิจารณาตัดสินคดีได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561

นอกจากนี้ยังมีเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายที่รัฐเรียกจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและคณะ ซึ่งน่าจะรู้ผลการยื่นอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองเรียกค่าเสียหายจากศาลปกครองภายในช่วงครึ่งปีแรกเช่นกัน

นอกจากปัจจัยภายนอกแล้ว ยังมีปัจจัยภายในของรัฐบาลที่จะมีผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลทหารและคณะคสช.ไม่น้อย คือ หากย้อนกลับไปช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมา มีกลุ่มบุคคลในแวดวงอำนาจมีปัญหาเรื่องความโปร่งใส ทำให้สังคมตั้งคำถามอยู่ไม่น้อย ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า หากรัฐบาลใด ประชาชนเริ่มตั้งข้อสงสัยเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตและความโปร่งใสในการทำงานแล้ว ย่อมจะบั่นทอนการอยู่ในอำนาจของรัฐบาลให้สั้นลง ไม่เว้นแม้แต่รัฐบาลทหาร

จริงอยู่ว่าข่าวความไม่โปร่งใส แม้จะไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวผู้นำโดยตรง แต่หากปล่อยให้บริวารคนรอบข้างทำอะไรที่สังคมสงสัยและตั้งคำถามได้บ่อยๆ ก็จะเป็นภัยถึงผู้มีอำนาจได้ ซึ่งมีตัวอย่างมากมายแล้วในอดีต

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องเกียร์ว่างของบรรดาข้าราชการที่ไม่ตอบสนองคำสั่งอย่างเพียงพอ เพราะรู้ว่าลมอำนาจกำลังเปลี่ยนทิศ คนอยู่ในอำนาจปัจจุบันกำลังจะเป็นอดีตและนายใหม่กำลังจะมาหลังการเลือกตั้ง จึงไม่มีใครกอยาทำอะไรที่เสี่ยงต่อสถานะของตัวเองเมื่ออำนาจเปลี่ยนมือ
สรุปสถานการณ์บ้านเมืองปีไก่ ภายนอกอาจดูเหมือนว่าสถานการณ์สงบราบเรียบ แต่ภายใต้ความสงบราบเรียบกลับเต็มไปด้วยความความน่ากลัวและความไม่แน่นอนแอบแฝงอยู่


You must be logged in to post a comment Login